สำหรับอกุศลกรรม ไม่ต้องประณีตอะไรเลย เพราะทำให้เมื่อปฏิสนธิเกิดแล้ว ก็รับผลของกรรมโดยอกุศลวิบากทั้งนั้นเกิด ทางตาก็เห็นสิ่งที่ไม่ดี ทางหูก็ได้ยินเสียงที่ไม่ดี ทางจมูกก็ได้กลิ่นไม่ดี ทางลิ้นก็ลิ้มรสไม่ดี ทางกายก็กระทบสัมผัสไม่ดี ถ้าเห็นขยะ รูปารมณ์ไม่ดี เป็นอนิฏฐารมณ์ กลิ่นก็ไม่ดี เป็นอนิฏฐารมณ์ กระทบสัมผัสก็ ไม่ดี เป็นอนิฏฐารมณ์
เพราะฉะนั้น เวลาที่อกุศลกรรมให้ผล คือ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย กระทบกับอารมณ์ที่ไม่ดี ก็เหลือที่จะพอแล้ว ปฏิสนธิเกิดขึ้นไม่ประกอบด้วยปัญญา ไม่ประกอบด้วยเหตุใดๆ เกิดมาเพื่อที่จะรับผลของอกุศลกรรม โดยอกุศลวิบากเหล่านี้เกิดขึ้น รับรู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กายที่ไม่ดี ตามภูมิของจิต
ถ้าเกิดในนรก ต้องเป็นภูมิที่ได้รับทุกข์ทรมานทางกายมาก และทางตาจะเห็นสิ่งที่ดีได้ไหม เมื่อกำลังทรมานกันอยู่ คนที่ป่วยไข้ได้เจ็บ มีทุกขเวทนาคร่ำครวญ จะกล่าวว่า เห็นคนที่กำลังคร่ำครวญเป็นอารมณ์ที่ดีที่น่าพอใจได้ไหม ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก็แล้วแต่ภูมิของอบายว่า จะเป็นการเกิดในภูมินรก หรือเกิดเป็น สัตว์ดิรัจฉาน เป็นเปรต เป็นอสุรกาย จะได้รับผลของอกุศลกรรมมากน้อยก็ตามควรแก่กรรมนั้นๆ แต่ให้ทราบว่า ไม่มีอะไรนอกจากเกิดขึ้นรับผลของอกุศลกรรม โดย อเหตุกอกุศลวิบากเกิดขึ้นบ่อยๆ เนืองๆ ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1302
ถ้าเป็นทางอุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก ก็ดีกว่าอุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบากปฏิสนธิ เพราะไม่ต้องเกิดในอบายภูมิ แต่ก็เกือบจะเท่าๆ กัน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายเท่ากัน สามารถที่จะเห็นสิ่งที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แล้วแต่ผลของกรรม แต่ก็ยังไม่ประกอบด้วยปัญญาที่จะทำให้กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาเกิดหลังจากที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสเหล่านั้น
เพราะฉะนั้น ความต่างกันอยู่ที่มหาวิบากญาณสัมปยุตต์ หรือมหาวิบากญาณวิปปยุตต์ที่ทำกิจปฏิสนธิ เพราะสำหรับพวกที่เป็นอุเบกขาสันตีรณปฏิสนธิ ก็เจริญกุศลได้น้อยกว่า ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1303
เปิดฟัง ...
นรกเป็นภูมิที่ทุกข์ทรมานทางกายมาก