การเก็บความลับ
โดย พร้อมเสมอ  1 ก.ย. 2555
หัวข้อหมายเลข 21648

เรียนสอบถามท่านอาจารย์ฯ

หากเรามีความจำเป็นที่ไม่สามารถพูดความจริงในเรื่องหนึ่งกับคนที่ใกล้ชิดเรามากที่สุดคนหนึ่ง (สามี) เนื่องจากบุพการีได้ขอร้องและห้ามปรามไว้ และเราก็ทำตามที่บุพการีสั่งไว้ เราจะบาปไหมคะ

เรื่องที่บุพการีห้ามไม่ให้พูดนั้น ถึงแม้ไม่ได้บอกความจริง ก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียหายอะไรเลย แต่หากเราบอกความจริงไปแล้ว บุพการีทราบ ท่านก็จะโกรธ ไม่พอใจ เราควรจะทำอย่างไรดี บุพการีบอกว่าไม่ควรพูดไปตลอดชีวิต และท่านชี้แนะว่า ความลับนั้นมีในโลก อย่างไรก็ตาม หากเราบอกความจริงหลังจากที่บุพการีถึงแก่กรรมแล้ว จะสมควรหรือไม่ ดิฉันเองได้เคยปาวารณาต่อหน้าพระ ว่าจะรักษาศีลห้าให้ครบบริบูรณ์ไปตลอดชีวิต

ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 2 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความลับ ไม่มีในโลก เพราะ ความจริงที่ไม่เปิดเผย ก็เปิดเผยอยู่ในใจของตนเอง คือ ตัวผู้ที่กำลังปกปิดความลับ ก็รู้ความลับของตนเองในขณะนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ความคิดนึกที่เกิดขึ้นในจิตใจ หรือ เหตุการณ์ต่างๆ เรื่องราวต่างๆ ที่เคยผ่านมาในอดีต หรือ ยังมาไม่ถึง ที่กล่าวว่าเป็นความลับนั้น จะเป็นสิ่งที่ควรพูด หรือ ไม่ควรพูด เพราะ

พระพุทธเจ้าทรงแสดงสิ่งที่ควรพูด ไม่ควรพูดว่า การพูดใด พูดแล้ว อกุศลเจริญ กุศลเสื่อมไปในขณะที่พูด การพูดนั้นไม่ควรพูด ส่วนการพูดใด พูดแล้ว กุศลเจริญ อกุศลเสื่อม การพูดนั้นควรพูด นี่คือ สำคัญที่จิตตนเองก่อนเป็นสำคัญว่า พูดแล้วกุศลเจริญขึ้น หรือ เสื่อม หากพูดแล้ว กุศลเสื่อมไป อกุศลเจริญ ก็ไม่ควรพูดเลย เพราะนำมาซึ่งความไม่เป็นประโยชน์กับตนเอง คือ จิตของผู้พูด

อีกประการหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า คำพูดใดจริง แท้ ประกอบด้วยประโยชน์ แต่ต้องดู กาลเทศะ จึงควรพูด ถึงแม้คำพูดใดจริง แท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือ เกิดอกุศล ก็ไม่ควรพูด แต่ ถ้าไม่จริง ไม่ควรพูดโดยประการใดๆ ทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้น ความลับ ก็คือ ความคิดนึกเรื่องราว ที่เกิดขึ้นในจิตใจ ไม่ได้สำคัญที่คนอื่น จะว่าอย่างไร แต่สำคัญว่า พูดแล้วเป็นประโยชน์ กุศลเกิด เจริญขึ้น หรือ อกุศลเจริญขึ้นเป็นสำคัญ ครับ

เพราะฉะนั้น ควรนิ่ง ในเรื่องที่พูดแล้วอกุศลเกิด เจริญ ทั้งตนเองและผู้อื่น หรือ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ แต่ ไม่ควรนิ่ง ควรพูดในสิ่งที่ทำให้กุศลเจริญ อกุศลเสื่อมเป็นสำคัญ ครับ

เพราะฉะนั้น ก็ต้องกลับมาพิจารณาที่ประโยชน์ คือ กุศลธรรม และส่วนที่เป็นโทษ คือ อกุศลธรรมเป็นสำคัญ ก็จะสามารถตัดสินใจได้ว่า อะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด ซึ่ง ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะเป็นไปตามนั้น ไม่มีใครรู้ได้เลย และไม่มีใคร จะตัดสินใจแทนใครได้ พระธรรมเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องเตือนจิตใจ ให้ตัดสินใจไปตามการสะสม ความเข้าใจพระธรรม ตามการสะสมนั้นเอง จะเป็นตัวตัดสินเหตุการณ์นี้ และ เหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น สำคัญคือ ต้องอบรมเหตุต่อไป คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม และเมื่อถึงเวลานั้น ก็จะเป็นไป ตามที่ควรจะเป็น ครับ

เมื่อเข้าใจดังนี้ ถึงความเป็นไปตามเหตุปัจจัย ก็จะคลายกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง และอบรมเหตุ คือ การฟังพระธรรมต่อไป ให้มั่นคงว่า ไม่มีเรา มีแต่ธรรม ที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย ครับ เพราะฉะนั้น ไม่มีใครตัดสินใจการกระทำของใคร แม้แต่ตัวเรา เพราะ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา อยู่ด้วยความเข้าใจ ก็เบาสบายในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ

คำพูดที่ควรพูดและไม่ควรพูด

กล่าววาจาต่อหน้าและลับหลัง [อรณวิภังคสูตร]

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 3 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ชีวิตประจำวัน จำเป็นจะต้องมีการ พูด มีการสื่อสารกัน เป็นปกติ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้วเท่านั้น ที่จะเป็นเครื่องเตือนที่ดี แม้ในการพูด ควรพูดถ้อยคำจริงที่ไพเราะ เป็นประโยชน์ ถูกกาละ และพูดด้วยจิตที่ประกอบด้วยเมตตา และ ที่สำคัญไม่ใช่ว่าจะพูดไปทุกเรื่อง มีอะไรเกิดขึ้น ได้ยินอะไรมา ก็จะพูดไปทั้งหมด ก็ไม่ใช่ จะต้องมีความละเอียดว่า สิ่งใด ควรพูด สิ่งใด ไม่ควรพูด เป็นไปเพื่อประโยชน์ หรือไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นเลย

ถึงแม้ว่าจะไม่พูดในสิ่งนั้นๆ ที่เข้าใจว่าเป็นความลับ แต่ก็สามารถกระทำในสิ่งที่ดี เป็นประโยชน์แก่กันและกันได้ ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้้น ที่จะเป็นเครื่องนำทางชีวิต ไปสู่ทางที่ดี ที่ถูก ที่ควร ยิ่งขึ้น คล้อยตามความเข้าใจที่ค่อยๆ เจริญขึ้น

ในชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่จะประเสริฐ เท่ากับ การมีโอกาสได้ฟังพระธรรมและน้อมประพฤติตามพระธรรม ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย พร้อมเสมอ  วันที่ 3 ก.ย. 2555
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสอง และขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 3 ก.ย. 2555

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นญาติ เป็นสามี ภรรยา ถ้าเขาเป็นคนดีไว้ใจได้ ก็ควรบอกให้เขารู้

ในพระไตรปิฏกแสดงไว้ หน้าที่ของเพื่อน บอกความลับกับเพื่อน ปกปิดความลับของเพื่อน ห้ามไม่ให้เพื่อนทำชั่ว เพื่อนตกอับก็ไม่ทอดทิ้ง แนะนำให้เพื่อนทำความดี แต่ถ้ามีเพื่อนที่ไม่ฉลาด ไม่ควรบอกความลับกับเพื่อน ค่ะ