ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าไม่มีธาตุรู้ซึ่งได้ยินเสียง เสียงนั้นปรากฏไม่ได้

มั่นคงหรือยัง ธรรมะเท่านั้นที่มีจริงและธรรมะก็หมายถึงสิ่งที่มีจริงๆ ... กว่าจะธรรมะก็คือสิ่งที่มีจริงๆ ... ได้ยินคำว่าธรรมะคือสิ่งที่มีจริง ต้องทิ้งคำว่าเรา โต๊ะ เก้าอี้ โลก ทะเล น้ำ หมดทุกสิ่งทุกอย่าง "ธรรมะคือสิ่งที่มีจริงที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้" คำนี้เตือนแล้วเราหรือจะเข้าใจธรรมะง่ายๆ ผิดทันที ประมาทมาก คิดว่าธรรมะคือสิ่งที่มีจริง เข้าใจแล้ว ... ไกลกันมากกับการที่จะเข้าใจจริงๆ ว่า สิ่งที่มีไม่ใช่อะไรเลยทั้งสิ้น แต่ละหนึ่งต้องเป็นหนึ่งเปลี่ยนหนึ่งนั้นให้เป็นอื่นไม่ได้

ธรรมะคือสิ่งที่มีจริง ... ใครสงสัยบ้าง!? ... ไม่สงสัย ... ธรรมะตื้นจังฟังแล้วไม่สงสัย ... หารู้ไม่ว่าฟังเท่าไหร่ก็ไม่หมดความสงสัย!! ความเป็นคนตรงต่อความจริงถ้าไม่มั่นคง ... เป๋หมด ... ไปทางโน้นไปทางนี้ ... แอบไปด้วย เพราะฉะนั้นสงสัยไหมในเมื่อทั้งวันไม่ได้นึกถึงเลยแค่ได้ฟังคำ นี่แหละความลึกซึ้ง เพราะฉะนั้นนี่เป็นการอบรมฝึกหัดความตรงต่อทุกอย่างที่มี

ได้ยินคำของพระพุทธเจ้าคำไหนเริ่มรู้ว่าลึกซึ้งตั้งแต่ทุกคำถาม ... ฟังยังไงๆ ก็ไม่รู้เพราะอะไร?! เพราะไม่คิดเลยแม้แต่จะสงสัยก็ไม่สงสัย เพราะฉะนั้นแค่ฟังว่าทุกสิ่งที่มีจริงเป็นธรรมะ ... พอไหม?? ไม่พอแล้วจะฟังไหม?? หาคนฟังก็ยากเพราะบอกว่าไม่เห็นจำเป็นต้องฟัง ... ฟังแล้วจะได้อะไร แต่ถ้ามีความเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ ... จริงหรือเปล่าเราต้องค้นคว้าพิสูจน์ด้วยตัวเอง ... ต้องเป็นปัญญาของเราเอง!!

พระพุทธเจ้าตรัสสิ่งที่มีจริงเป็นสิ่งที่มีจริง ภาษามคธีก็ใช้คำว่าธรรมะ พูดถึงสิ่งที่มีจริงแต่ไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง ... แล้วเราจะรู้จริงได้ยังไง?? ในเมื่อสิ่งที่มีจริงไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง ... ประโยคนี้ถูกต้องไหม?? เพราะฉะนั้นเริ่มรู้ว่าธรรมะไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง ... ลวงตลอด ... หลอกตลอด ... มุสาตลอดว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด

ฟังคำของพระพุทธเจ้า ตรงต่อแต่ละคำซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ได้ยินเท่าไหร่ก็มีหลายระดับขั้นได้ยินแล้วมีความเข้าใจว่าถูกต้อง ... มั่นคงแค่ไหน?!

ลิงก์ Facebook ... คลิกที่นี่

"สนทนาธรรมที่ บาบา บีช คลับ หัวหิน" วันศุกร์ ๒๘ มี.ค. ๒๕๖๘

ลิงก์ Facebook ... คลิกที่นี่

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง