13 - 14 พ.ย. 2559


13 พฤศจิกายน 2559
คณะสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. นำโดย ท่านอาจารยสุจินต์ บริหารวนเขตต์ เดินทางไปประเทศอินเดีย วันที่ 13 - 23 พฤศจิกายน 2559 เป็นคณะที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยจัดมา สองร้อยกว่าคน ทุกคนต่างใจเดียวกัน คือ นมัสการสถานที่ควรระลึกถึง คือ สังเวชนียสถานทั้ง ๔ และ พระวิหารเชตวัน สถานที่ที่เป็นที่ประทับของพระพระพุทธเจ้า ๑๙ พรรษา และ ของพระภิกษุสงฆ์ อันเป็นอาราม อย่างแท้จริง ที่เป็นสถานที่สงบเพราะเป็นที่อยู่ของผู้มีปัญญา
คณะของเราออกเดินทางกันวันที่ 13 พฤศจิกายน แบ่งเป็นสองคณะ กลุ่มแรก ไม่ไปครบทั้งสี่แห่ง แต่ พิเศษคือ อยู่พระวิหารเชตวันถึง 3 คืน ท่านอาจารย์สุจินต์ไปกลุ่มนี้ กลุ่มที่สอง ไปครบสี่แห่ง ทั้งสองคณะ ไปวันเดียวกัน กลับวันเดียวกัน แต่คนละสายการบิน ข้าพเจ้านัดพร้อมกันที่สุวรรณภูมิ 06.00 น. ถึงเวลามาพร้อมกันหมด ท่านอาจารย์ก็เดินทางมาถึง ต่างคนก็ต่างไปกราบท่านอาจารย์ ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมใจเดินทางสู่ประเทศอินเดีย ไม่รู้ว่าจะไปเจออะไรกันบ้าง แต่ ขณะนี้ก็เจอแล้ว เพราะเห็นแล้ว แต่ไม่รู้ความจริงว่าไม่ใช่เรา เป็นธรรม สังสารวัฏฏ์ก็ยาว จึงอบรมปัญญาศึกษาพระธรรม ณ ที่ทุกสถาน ไม่เว้นแม้แต่ประเทศอินเดีย
จุดหมายของเราคือ เมือง เดลี ประเทศอินเดีย เดินทางโดยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ และแอร์อินเดีย สี่ชั่วโมงครึ่ง ถึงจะถึง เครื่องบินออก 09.00 น. ถึง เที่ยง ที่เวลาอินเดีย เวลาของเขา ช้ากว่าเรา หนึ่ง ชั่วโมงครึ่ง เวลาผ่านไป ดูหนังไป คิดนึกไป ตามเรื่องราว ตามการสะสม ไม่นานก็ถึงเดลี ออกมาหาอะไรกันทานก่อน ที่ โรงแรมใกล้สนามบิน จุดหมายการพักผ่อนวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่เดลี เราจะบินกันต่อตอนเย็น สู่ เมืองลัคเนาว์ เมืองหลวงของรัฐทางตอนเหนือ ที่อยู่ไม่ห่างจากพระเชตวัน เมืองสาวัตถี

เดินทางถึงเมืองลัคเนาว์ ก็ค่ำแล้ว เดินทางตั้งแต่เช้า จน ค่ำ ก็เหนื่อยครับ เหนื่อยกันทั้งนั้น เหนื่อยกาย เป็นผลของกรรม แต่เหนื่อยใจ เป็นกิเลส แล้วแต่การสะสมของแต่ละคน ว่าจะมาก หรือ จะน้อย ถึงที่พัก ก็แจ้งสมาชิกทุกท่านว่า พรุ่งนี้เราจะเดินทางไกล จากเมืองลัคเนาว์ ตอนเช้าตรู่ ไปจุดหมายปลายทางที่ประเสริฐกัน นั่นคือ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอานาถบิณฑิกเศรษฐี เตรียมตัวให้พร้อม ... เตรียมได้ไหม คิดนึกได้ แต่เหตุปัจจัยจะเป็นอย่างไร แต่ละขณะก็ไม่มีใครรู้ เพราะอนัตตา
14 พฤศจิกายน 2559
ถึงเวลาทานข้าวเสร็จ เจ็ดโมงแล้ว ออกเดินทางกันได้แล้ว ยัง ยัง ครับ วิ่งเข้าห้องน้ำกันก่อน เพราะ อินเดียจะมีห้องน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ ทุ่งนา เรากลุ่มใหญ่มาก สองร้อยคน ที่จะให้เข้าห้องน้ำ ตามที่สถานที่พัก มีไม่กี่ห้อง ไม่สะอาด กว่าจะครบจำนวน เสียเวลานานมาก ก็เลย ให้ลูกทัวร์เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับผู้หญิง คือ ผ้าถุง เข้าทุ่งนากัน เพราะฉะนั้น เจ็ดโมง ไม่ได้ออก กลัวห้องน้ำทุ่งนา รีบเข้าที่ โรงแรมกันอีก เป็นอันว่า ออกกันเวลา 07.30 น.




เดินทางกันต่อ รถวิ่งได้เร็ว สะเทือนน้อย ผ่านมาได้สักสองชั่วโมง ก็ต้องเข้าห้องน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทุ่งนา ก็เตรียมอุปกรณ์กันเรียบร้อย แต่ คราวนี้ทัวร์เรา เตรียมตัวมาดี มีเต็นท์ทรงสูง สองหลัง ต่อรถ 1 คัน สำหรับภารกิจล่าฝันที่ปลอดภัยหายกังวลสำหรับการเข้าห้องน้ำของสุภาพสตรี ปรากฏว่า สะดวกมาก ทำเวลาได้ดี จนทุกคนใช้บริการต่างยกย่องเจ้าเต็นท์นี้เป็นอย่างมาก


ภารกิจเสร็จก็เดินทางกันต่อ เปิดเทปเอ็มพีสามในรถ ท่านอาจารย์สุจินต์ บรรยาย เกี่ยวกับพระวิหารเชตวัน นำมาซึ่งความปิติ ซาบซึ้งสำหรับผู้ที่เข้าใจ และ เปิด เทป ท่านพระสารีบุตรปรินิพพานในรถ วันที่ 14 พ.ย. 2559 วันนี้ เป็นวันดีของคณะของเรา คือ เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 อันเป็นวันที่ท่านพระสารีบุตรปรินิพพานในวันนี้ จึงถือว่าเป็นการมาพระวิหารเชตวันที่เป็นเวลาที่ประเสริฐยิ่งนัก ทั้งเป็น มรณสติ และ ระลึกถึงคุณความดีของพระอัครสาวกผู้เลิศด้วยปัญญา อันเปรียบตัวท่านเองดั่งผ้าเช็ดธุลี ดั่งที่ครั้งหนึ่งท่านอาจารย์ได้ไปอินเดีย และ ถามผู้ที่ร่วมเดินทางตอนเข้าพระวิหารเชตวันว่า มาหาอะไรกัน คำตอบคือ หา ผ้าเช็ดธุลี คือ เป็นผู้ที่จะสะสมความดี มีขันติ อดทน จนเป็นผ้าเช็ดธุลี ที่สามารถเช็ดอะไรก็ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าของที่ดีหรือของที่ไม่สะอาด
เชิญคลิกฟังธรรมบรรยายที่นี่
ท่านพระสารีบุตรปรินิพพาน
ผ้าเช็ดธุลี

เดินทางผ่านไปสามชั่วโมง เห็นป้ายแว๊บๆ SRAVASTI 30 KM เอ่อใช่เหรอ sravasti เป็นชื่อเมืองอินเดียในปัจจุบัน ของเมืองสาวัตถีในอดีต นี่เราใกล้พระวิหารเชตวัน ทั้งๆ ที่เพิ่ง 10.30 ตอนเช้า เร็วมากๆ เลย คราวที่แล้วเกือบค่ำ แจ้งลูกทัวร์ ปิติดีใจ ที่จะมีเวลาที่พระวิหารเชตวันนานๆ พร้อมกับท่านอาจารย์สุจินต์ ในช่วงบ่ายและเย็น ได้ทานอาหารกลางวันตรงเวลา คณะกลุ่มสี่แห่ง พักที่ โรงแรมนิกโก้โลตัส พักที่ เชตวัน 1 คืน ก็เดินทางต่อไปลุมพินี คณะท่านอาจารย์ ที่จะอยู่พัก สามคืนที่เชตวัน พักที่โรงแรมปาวาล คณะสี่แห่งถึงก่อน ถึง 11 โมง กระผมช่วยดูแลคณะนี้ ส่วนพี่เล็ก ดูแลคณะท่านอาจารย์ แต่ คณะท่านอาจารย์ออกจากโรงแรมสายกว่า จึงถึงสาวัตถีช้ากว่า





เดินทางถึงพระวิหารเชตวัน ทุกคนต่างทยอยเข้าไปอย่างเงียบสงบ เคารพในพระพุทธเจ้า เดินไปด้านหลังพระคันธกุฎี นั่งกันเรียบร้อย เปิดเทปท่านพระสารีบุตรปรินิพพาน ณ สถานที่นี้ พระวิหารเชตวัน ในวันเพ็ญเดือน 12 ท่านพระสารีบุตร ได้ตรวจดูอายุสังขารของท่าน รู้ว่าท่านจะต้องปรินิพพานอีก 7 วัน จึงทูลลาพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ณ สถานที่นี้ อันเป็นสถานที่สุดท้ายที่พระสารีบุตรได้พบพระพุทธเจ้า


คณะของเรานั่งฟังพระธรรมเรื่องท่านพระสารีบุตรปรินิพพาน บรรยายโดยท่านอาจารย์สุจินต์ จนจบ นำมาซึ่งความเข้าใจและปิติ ซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง และ ท่านอาจารย์ก็บรรยายเพิ่มเติมเล็กน้อย จนฟ้าใกล้มืด ห้าโมงกว่า ก็เกือบมืดแล้ว ในช่วงหน้าหนาวของอินเดีย








วีดีโอ คณะสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ที่พระวิหารเชตวัน 4 วีดีโอ
คณะสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. นำโดยท่านอาจารย์ จึงไปรวมกันที่หน้าพระคันธกุฏี กล่าวคำบูชาพระวิหารเชตวันที่ไพเราะ ท่านอาจารย์กล่าวด้วยถ้อยคำ ดังนี้



ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้พร้อมใจกัน เดินทางมาถึงพระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี เพื่อกราบนมัสการแทบรอยพระบาทที่สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับและทรงแสดงพระธรรม ข้าพเจ้า ขอถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง ขอถึงพระธรรม เป็นที่พึ่ง ขอถึงพระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมอบรมปัญญา อันเป็นเหตุให้ประพฤติปฏิบัติขัดเกลาละคลายกิเลส จนกว่ากิเลสทั้งปวงจะดับหมดสิ้นไป

ทุกคนกล่าวตามท่านอาจารย์ นำมาซึ่งความปิติ ซาบซึ้ง และ หลังจากนั้นก็เดินประทักษิณสามรอบ ที่พระคันธุกฎีของพระพุทธเจ้า







เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
อินเดีย 2559 (1) เดินทางนมัสการพระวิหารเชตวัน
อินเดีย 2559 (2) แสงแห่งพระธรรม ที่ เมืองสาวัตถี
อินเดีย 2559 (3) พระเชตวัน และลุมพินี
อินเดีย 2559 (4) อนัตตาตั้งแต่ต้นจนจบ กุสินารา ปัตนะ
อินเดีย 2559 (5) บูชายัญ คือ บูชาพระพุทธเจ้าที่เมืองปัตนะ
อินเดีย 2559 (6) พุทธคยา มหากุศล
อนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
อนุโมทนาในมหากุศลครั้งนี้ค่ะ..
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ แม้ไม่มีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปด้วย แต่ก็ได้มีโอกาสเห็นภาพการเจริญกุศลที่น่าอนุโมทนายิ่งของทุกๆ ท่านในครั้งนี้ครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณอนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยความเมตตาของท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวณเขตต์ ที่เคารพอย่างสูง และกุศลวิริยะของวิทยากร และเจ้าหน้าที่ มศพ.ทุกท่าน ค่ะ
คณะเดินทางได้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเจริญกุศลศรัทธา พร้อมปัญญา ที่ค่อยๆ สะสมจากการสนทนาธรรม ท่ามกลางสภาพธรรมที่หลากหลาย ตลอดการเดินทาง
เป็นอีกการเดินทางที่คุ้มค่ามากๆ ค่ะ ในชาตินี้
สะสมเหตุปัจจัย ที่จะได้เดินทางเช่นนี้ ต่อไปอีก เพื่อถึงจุดหมายที่จะสิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฎฎ์ เมื่อไรก็เมื่อนั้น ตามกำลังปัญญาที่สะสมทีละขณะค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับอาจารย์
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ขออนุโมทนาครับ
ขอกราบ อนุโมทนา สาธุ ในกุศลจิต ของทุกๆ ท่าน ค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ