การที่จะเจริญกุศลจนกระทั่งสามารถที่จะดับกิเลสได้ ก็ต้องประกอบด้วยธรรมที่เป็นบารมี ๑๐
โดย nattawan  17 ก.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 50417

ถ้ากุศลจิตไม่เกิด อโทสเจตสิกก็เกิดไม่ได้ และถ้าอโทสเจตสิกเกิดขณะใด ขณะนั้นจิตเป็นกุศล

เพราะฉะนั้นขอให้พิจารณาตนเองเพื่อประโยชน์ว่า การที่แต่ละท่านจะมีพระธรรมเป็นที่พึ่งอย่างมั่นคง ถึงขั้นโลกุตตรสรณคมน์ จะต้องอบรมเจริญกุศลที่จะขัดเกลาอกุศลไปเรื่อยๆ พร้อมกับการเป็นผู้มีปกติเจริญสติปัฏฐาน จะเพียงแต่เจริญกุศลเท่านั้น โดยไม่เจริญสติปัฏฐาน ก็ไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้ หรือถ้าคิดที่จะเจริญสติปัฏฐานโดยไม่เจริญกุศลอื่นเลย ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เหมือนกัน เพราะเหตุว่าอกุศลก็จะต้องเพิ่มพูนมากขึ้น ไม่เป็นปัจจัยต่อการที่จะให้ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมในขณะนั้น

การที่จะเจริญกุศลจนกระทั่งสามารถที่จะดับกิเลสได้ ก็ต้องประกอบด้วยธรรมที่เป็นบารมี ๑๐ ซึ่งธรรมแต่ละส่วนที่ได้ฟังจากพระไตรปิฎกเกื้อกูลจริงๆ ไม่ใช่ว่าแยกจากกัน แม้แต่บารมี ๑๐ ก็เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และการที่จะอบรมเจริญหนทางที่จะสามารถดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท เพราะถ้าขาดการอบรมเจริญกุศล คือ บารมี ๑๐ ให้มั่นคงแล้ว การที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมก็มีไม่ได้

บารมี ๑๐ คือ

๑. ทาน

๒. ศีล

๓. เนกขัมมะ

๔. ปัญญา

๕. วิริยะ

๖. ขันติ

๗. สัจจะ

๘. อธิษฐาน

๙. เมตตา

๑๐. อุเบกขา

ฟังและอ่านเพิ่มเติม

โสภณธรรม ครั้งที่ 049



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 17 ก.ค. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ