
อ.คำปั่น กราบท่านอาจารย์ครับ พอดีเมื่อเช้าก็ได้คุยกับ ท่านผู้ฟังใหม่ท่านหนึ่ง ท่านก็บอกว่า ได้ฟังธรรมครั้งแรก ก็รู้สึกว่าจะมีปัญหาอยู่ในใจก็คือ ศึกษาอย่างไรจึงจะเข้าใจ แม้แต่ได้ฟังเรื่องจิต เจตสิกเมื่อวาน ก็เหมือนกับว่าจะยังเข้าใจยากอยู่ครับ ก็อยากให้ท่านอาจารย์ ได้ขยายความสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะจิต และเจตสิกด้วยครับ
ท่านอาจารย์ ศึกษาอย่างไรจะเข้าใจ กำลังฟัง คิดอย่างอื่นหรือเปล่า และจะเข้าใจสิ่งที่ได้ฟังได้อย่างไร เพราะฉะนั้นเวลาที่พระพุทธเจ้าจะทรงแสดงธรรม ตรัสว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย บางแห่งก็จะใช้คำว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภาษาบาลีว่า ภิกขเว ทำไมต้องเรียกอย่างนี้ ทำไมต้องพูดอย่างนี้นำทุกครั้ง เพราะก่อนพูดถึง คิดอะไรกันก็ไม่รู้ แต่ว่า ณ บัดนี้ ที่จะได้ฟังพระธรรมจากพระโอษฐ์ ก็ตรัสเรียกภิกษุ ซึ่งขณะนั้นจะคิดอะไรก็ตามแต่ เมื่อได้ยินอย่างนี้ ได้ยินอย่างนี้แล้ว ก็สดับพระธรรมเทศนา ฟัง การฟังก็เพราะเหตุว่า ทุกคนมีเหตุที่จะให้ได้ยินเกิดขึ้น คือต้องมีโสตปสาทรูป สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นปกติ เราไม่สามารถที่จะรู้ด้วยความรวดเร็วของสภาพธรรมนั้น ว่าต้องมีปัจจัยทำให้เกิดทันทีเลย แต่ว่าต้องมีเหตุที่เป็นปัจจัยก่อน ถ้าไม่มี ภาษาไทยใช้คำว่า หู แต่ว่าจริงๆ แล้ว เราคิดถึงหู ทั้งใบหูเลย ใช่หรือไม่ แต่ว่าโสตปสาทอยู่ข้างใน เป็นรูปที่สามารถกระทบเสียง เห็นหรือไม่ ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า จะมีรูปหลากหลายประเภท และรูปหนึ่งที่อยู่กลางหู เป็นรูปพิเศษ เป็นรูปเดียวที่สามารถกระทบเสียง แขนกระทบเสียงได้ไหม ขากระทบเสียงได้หรือไม่ แม้แต่ใบหูทั้งใบข้างนอก ก็กระทบเสียงไม่ได้ แต่ว่ามีรูปที่กรรมเป็นปัจจัย ทำให้เป็นรูปที่สามารถกระทบได้กับเสียง กระทบอย่างอื่นไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้นแม้แต่เสียง มีจริงๆ แต่ว่าถ้าจิตได้ยินไม่เกิด ใครจะรู้ว่ามีเสียง เมื่อวานนี้เราก็ผ่านโรงเรียน เด็กหูหนวก ใช่มั้ย โลกเงียบ มีสิ่งที่ปรากฏการเคลื่อนไหวให้เห็น แต่ว่าไม่มีเสียงเลย เพราะฉะนั้นเขาไม่สามารถที่จะรู้ว่าเสียงมีลักษณะอย่างไร เสียงมีจริงๆ อย่างไร ไม่สามารถที่จะรู้ได้ แต่ว่าคนที่มีโสตปสาท กรรมเป็นปัจจัยให้รูปนี้เกิดขึ้นกระทบเสียง แต่รูปทุกรูป รูปทั้งหมด ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่สามารถจะได้ยิน ไม่สามารถจะคิด ไม่สามารถจะจำได้เลย รูปแต่ละรูปก็มีลักษณะเฉพาะรูปนั้นๆ อย่างโสตปสาทรูป ไม่ใช่เสียง เสียงเป็นเสียง และโสตประสาทที่อยู่ในกลางหู ที่สามารถกระทบเสียง ก็มีจริงๆ เมื่อเสียงกระทบกับโสตปสาท โสตปสาทไม่ได้ยินเสียงเลย แต่ว่าเป็นปัจจัยให้ธาตุชนิดหนึ่ง ซึ่งอาศัยโสตปสาทเป็นทวาร คือธาตุรู้ที่เราใช้คำว่าจิต เกิดขึ้นในขณะนั้น ได้ยินเสียง
เพราะฉะนั้นแม้แต่การฟังพระธรรม ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ก็เพื่อให้ใส่ใจ ในเสียงที่ได้ยิน เพื่อที่จะได้เข้าใจความหมายของเสียงแต่ละคำ ว่าหมายความถึงสภาพธรรมที่มีจริงๆ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครเลยทั้งสิ้น เกิดได้เมื่อมีเหตุปัจจัย
ฟังและอ่านเพิ่มเติม สนทนาธรรมที่อุทยานแห่งชาติเขาเขียว แผ่นที่ 1 ตอนที่ 3
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ