
ข้อความใน อัฏฐสาลินี สุตตันติกทุกนิกเขปกถา พระบาลีแสดงนิทเทส พาลทุกะ ข้อ ๑๓๐๗ มีว่า
พาลธรรมเป็นไฉน
คือ อหิริกะ อโนตตัปปะ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่าพาลธรรม
บัณฑิตธรรมเป็นไฉน
คือ หิริ โอตตัปปะ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่าบัณฑิตธรรม กุศลธรรมแม้ทั้งหมดจัดเป็นบัณฑิตธรรม
ข้อความอีกตอนหนึ่งมีว่า
คนที่ไม่มีหิริและไม่มีโอตตัปปะ ที่ชื่อว่าจะไม่กระทำอกุศลอะไรๆ หามิได้
เพราะฉะนั้น ลักษณะของอหิริกะและอโนตตัปปะมีตั้งแต่ขั้นละเอียดซึ่งเห็นยาก ซึ่งเวลาที่เกิดกับอกุศลจิตในชีวิตประจำวัน ถ้าขาดการพิจารณาย่อมจะไม่เห็นลักษณะของอหิริกะและอโนตตัปปะ แต่ถ้าเป็นกรรมใหญ่ที่หนัก หรือมองเห็นชัด เช่น ทุจริตกรรม จึงสามารถเห็นพาลธรรมคืออหิริกะและอโนตตัปปะได้ว่า คนที่ไม่มีหิริและไม่มีโอตตัปปะ ที่ชื่อว่าจะไม่กระทำอกุศลอะไรๆ หามิได้ เพราะฉะนั้น ธรรมทั้งหมดสำหรับแต่ละท่านที่จะพิจารณาตัวเองจริงๆ แม้ในเรื่องของอหิริกะและอโนตตัปปะด้วย
ขณะนี้มีไหม ข้อสำคัญที่สุด ขณะที่เป็นกุศลไม่มี แต่ขณะใดที่เป็นอกุศล แม้เพียงเล็กน้อยก็มี อย่าประมาทต่ออหิริกะและอโนตตัปปะ เพราะถ้ามีและไม่เห็นว่าเป็นอกุศล อหิริกะและอโนตตัปปะก็จะเพิ่มกำลังขึ้นจนกระทั่งสามารถที่จะกระทำทุจริตกรรมได้
แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1316
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ