ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๑๙ * * 
~ ผู้ที่มีพระมหากรุณากว่าคนอื่นทั้งหมด ก็คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่า สัตว์โลก มีความไม่รู้ มีความเห็นผิด เข้าใจผิดในธรรม เพราะฉะนั้น จึงทรงพระมหากรุณาแสดงพระธรรม เห็นได้เลยว่า พระธรรมมีประโยชน์ เมื่อมีความเข้าใจแล้ว นำมาซึ่งสิ่งที่เป็นกุศลเพิ่มขึ้น ทั้งกาย วาจา ใจ
~ นับถือพระปัญญาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทำให้พระองค์ทรงถึงพระบริสุทธิคุณ เป็นผู้ที่บริสุทธิ์จากกิเลสได้ และด้วยพระมหากรุณาคุณจึงมีคำของพระองค์ที่ทำให้เราได้ยินได้ฟังวันนี้ ถ้าพระองค์ไม่ทรงตรัสรู้ ก็ไม่มีใครรู้ แต่เมื่อพระองค์ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้แล้วทรงบริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสแล้ว เห็นโทษของกิเลส แล้วรู้ว่าคนไม่สามารถที่จะพ้นจากกิเลสได้ด้วยตนเอง ก็ทรงแสดงเหตุที่จะให้คุณงามความดีทั้งหลายรวมถึงความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริงเกิดขึ้นเจริญขึ้น พระองค์จึงทรงแสดงพระธรรมโดยละเอียดโดยประการทั้งปวง
~ พระธรรม มีประโยชน์ต่อสัตว์โลก ก็เพราะทำให้สัตว์โลกที่ได้รับฟังพระธรรมเกิดปัญญาของบุคคลผู้ฟังเอง
~ มีโอกาสที่สามารถที่จะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็อบรมเจริญปัญญา เห็นคุณอย่างยิ่ง ที่จะไม่คลาดเคลื่อนจากคำที่พระองค์ได้ตรัสไว้ดีแล้ว นี่คือ ความเคารพสูงสุด
~ อกุศล ความชั่วทั้งหลาย ก็เป็นธรรมคือเป็นสิ่งที่มีจริง กุศล ความดี ก็เป็นธรรม ตราบใดที่ยังมีปัจจัยที่จะให้อกุศลซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีเกิด ก็ต้องเกิด จนกว่าจะมีปัจจัยทำให้กุศลและปัญญาเจริญขึ้น เห็นตามความเป็นจริง ก็ค่อยๆ ละอกุศล ไม่ใช่เราละหรือไปกั้นหรือไปทำอะไร แต่ความเห็นถูกต่างหากที่รู้ว่า ทางนั้นผิด ทางนั้นไม่มีประโยชน์ ทางนั้นเป็นโทษ เพราะฉะนั้น ปัญญา ก็นำไปสู่ทางที่เป็นประโยชน์
~ จากที่มากไปด้วยความไม่รู้ มากไปด้วยความเห็นผิด แล้วได้ฟังความจริง ได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริง ย่อมมีความปลาบปลื้มที่ได้เข้าใจถูกเห็นถูก
~ ถ้าไม่อบรมเจริญกุศล ก็จะพ้นจากสภาพของจิตชั้นเลวไม่ได้ คือว่ายังคงเป็นอกุศลจิตมากเหลือเกิน แล้วก็ยังมีความยินดีพอใจในอกุศลนั้นๆ ด้วยความไม่เห็นว่าเป็นโทษ
~ ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรม รู้ไหมว่าจิตนี้ไม่สะอาดเลย เต็มไปด้วยโลภะ (ความติดข้อง) โทสะ (ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ) โมหะ (ความหลงความไม่รู้) วันหนึ่งๆ หัวหน้าใหญ่ ก็ไม่พ้นจากโลภะ โทสะ และโมหะ เป็นพื้นอยู่ ถ้าไม่เข้าใจพระธรรมเลย ก็ยิ่งสะสมทับถมทวีคูณเพิ่มขึ้นในเรื่องของความดำ ความไม่สะอาด ความมืดสนิท
~ การที่ได้ฟังพระธรรมและค่อยๆ เข้าใจขึ้น ก็เป็นการละความไม่รู้ เพราะได้เข้าใจ ซึ่งอีกไกลมากกว่าจะดับความไม่รู้ได้หมดสิ้น แต่ขณะนี้ก็ได้เริ่มแล้ว คือ เริ่มสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก
~ ความดี ไม่ต้องรั้งรอ เดี๋ยวนี้เลย เติมความดีทุกๆ วัน เดี๋ยวนี้ทำดีด้วยการฟังพระธรรม แล้วเวลาที่ไม่ได้ฟังพระธรรม ก็ทำดีได้เหมือนกัน เป็นมิตรกับใคร ก็ดีทันที ช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่น ก็ดีทันที
~ จะอยู่ในสังสารวัฏฏ์ต่อไปอย่างยาวนานแสนนาน และไม่มีกำหนดด้วย ตราบใดที่ยังไม่ได้เข้าใจความจริง
~ เกิดมาแล้วต้องไปแน่ๆ ต้องลาจากโลกนี้ไปอย่างแน่นอน อย่าคิดว่าอีกนาน เพราะอาจจะไม่นานเลย อาจจะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้
~ เกิดมาเพราะความไม่รู้ แล้วก็จะไม่รู้ต่อไปสำหรับผู้ที่ไม่ยอมจะรู้ ไม่มีความต้องการที่จะรู้ความจริง
~ มีเงินมากมายมหาศาล เป็นทุกข์ไหม? เอาเงินนั้นมาซื้อทุกข์ให้หมดไปได้ไหม? ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก็เห็นได้เลย เมื่อไหร่มีปัญญา เมื่อนั้นไม่มีทุกข์ ไม่เป็นทุกข์ เพราะปัญญา ไม่ทำให้เกิดความทุกข์ใดๆ เลย
~ ปัญญา จะทำให้เป็นผู้ไม่เดือดร้อนเพราะการกระทำของคนอื่น แต่ว่ารู้หนทางที่จะละคลายกิเลสของตนเอง เพราะรู้แน่ว่ากิเลสของตนไม่ได้อยู่ที่คนอื่น และไม่ใช่คนอื่นนำมาให้
~ ไม่ให้อกุศลเกิด ห้ามไม่ได้ แม้แต่เดี๋ยวนี้อกุศลก็ยังเกิดได้ เพราะฉะนั้น พระธรรมเท่านั้นซึ่งน่าอัศจรรย์เมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ปัญญาซึ่งเป็นความเห็นที่ถูกต้อง ก็จะทำให้ไม่หวั่นไหวหรือว่าหวั่นไหวน้อยลง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และทำสิ่งที่ถูกต้อง
~ ความโกรธ ไม่มีประโยชน์เลย นอกจากนั้น ก็เป็นผู้ที่จะต้องได้รับผลของความโกรธของตนเอง, เวลาที่คนอื่นโกรธท่าน ท่านก็ไม่ควรที่จะโกรธตอบด้วย ควรที่จะพิจารณาใคร่ครวญว่าแม้บุคคลอื่นโกรธเราแล้ว จักทำอะไรเราได้ จักอาจยังคุณมีศีลเป็นต้น ของเรา ให้พินาศไปได้หรือ? ถ้าท่านเป็นคนดี แล้วคนอื่นโกรธคนที่โกรธท่าน ไม่สามารถทำให้ท่านเสื่อมจากคุณ จากศีลของตัวท่านได้เลย เพราะว่า ยิ่งเขาโกรธ ก็ยิ่งเป็นโทษสำหรับเขา
~ โกรธกับไม่โกรธ อย่างไหนดี? เห็นโทษหรือยังว่า โกรธไม่ดีแน่ ไม่โกรธดีกว่า ถ้าเห็นประโยชน์จริงๆ ด้วยปัญญา ผู้นั้นก็จะค่อยๆ ละคลายความโกรธ และเห็นประโยชน์ของความสงบ มั่นคงในความสงบ
~ ธรรมทั้งหมด ไม่เว้นเลย เป็นอนัตตา คือ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้นเลย ไม่มีเรา เพราะเหตุว่า จะเป็นเราได้อย่างไร เห็นอยู่เดี๋ยวนี้ เราไม่ได้ไปทำให้เห็นเกิดขึ้น แล้วเห็นก็ดับ ไม่ให้ดับก็ไม่ได้ พอได้ยินเกิด จะไม่ให้ได้ยินก็ไม่ได้ ก็แสดงความเป็นธรรมที่เป็นอนัตตาทั้งหมด
~ ทุกอย่างที่มีจริง เป็นธรรม เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น และไม่ใช่ใครด้วย ถ้าเอาชื่อออก ไม่เรียกชื่อเลย โกรธอยู่ตรงไหน ก็ตรงนั้นแหละโกรธ แต่พอมีชื่อก็เป็นคนนั้นคนนี้โกรธ แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่เลย เพราะเอาชื่อออกหมด โกรธตรงไหน ก็เป็นโกรธตรงนั้น แล้วก็ดับด้วย แล้วไหนใครอยู่ที่ไหน?
~ ทุกเรื่องในพระไตรปิฎก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคคลที่กระทำอกุศลกรรม ก็เป็นอนุสติเตือนให้เป็นผู้ที่ไม่ประมาท ตราบใดที่ท่านยังไม่ได้ดับกิเลสเป็นสมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด) โลภะยังมี โทสะยังมี โมหะยังมี อิสสา (ความริษยา) ยังมี อกุศลธรรมอื่นยังมี วันหนึ่งจะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ท่านกระทำกรรมที่เป็นอกุศลกรรม ที่จะทำให้ไปสู่นรกขุมต่างๆ แล้วก็ได้รับความทุกข์ทรมาน
~ เมื่อมีกาย มีวาจา มีการที่จะต้องกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ถ้ากระทำในทางที่ถูกต้อง ขณะนั้นก็เป็นกุศล แต่ถ้าเพียงผิดนิดเดียว ถ้าไม่พิจารณา จะไม่รู้เลยว่าขณะนั้นเป็นอกุศล
~ ทำดี ทำไม? เพราะความไม่ดีทั้งหลาย ไม่สามารถทำให้เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ และถ้าความดีไม่เกิด ก็เป็นโอกาสของอกุศลที่จะเกิดขึ้น
~ เมื่อพูดถึงเรื่องของความตายก็ควรที่จะเป็นประโยชน์ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอนช้าหรือเร็ว ไม่มีเครื่องหมาย ไม่มีใครที่จะรู้ได้เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป จะไปสู่ทางไหน จะเป็นคนดี หรือ คนเลว ที่ไป ก็อยู่ที่ขณะนี้
~ ชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ควรที่จะเป็นไปเพื่อการสะสมความดีและฟังพระธรรมให้เข้าใจ
* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๑๘


...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารซนเขตต์ และกราบอนุโมทนาทุกความดีงามที่เกื้อกูลให้เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูกตามพระธรรมวินัยค่ะ
มีโอกาสที่สามารถที่จะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็อบรมเจริญปัญญา เห็นคุณอย่างยิ่ง ที่จะไม่คลาดเคลื่อนจากคำที่พระองค์ได้ตรัสไว้ดีแล้ว นี่คือ ความเคารพสูงสุด น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
อนุโมทนาค่ะ
กราบอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ ทรงให้ธรรมปัญญาสุงสุดเห็นตามจริงทุกขณะบังคับไม่ได้ อนัตตา สาธุๆ ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา