พระราชกุมารทั้งสองถูกรากษสจับไว้
โดย JANYAPINPARD  4 ส.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 13083

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 107

พระราชกุมารทั้งสองถูกรากษสจับไว้

ในกาลที่พระราชกุมารเหล่านั้น เข้าไปสู่หิมวันตประเทศ พระโพธิสัตว์เสด็จแยกออกจากทาง นั่งอยู่ที่โคนต้นไม้ต้นใดต้นหนึ่งแล้วตรัส กะสุริยกุมารว่า "แน่ะพ่อเจ้าจงไปสู่สระนั่น อาบน้ำและดื่มน้ำแล้ว จงเอาใบบัวนำน้ำมาเพื่อพี่ทั้งสองบ้าง." ก็สระนั้น เป็นสระที่รากษสน้ำ (๑) ตนหนึ่งได้จากสำนักแห่งท้าวเวสวัณ. ก็ท้าวเวสวัณรับสั่งกะรากษสน้ำนั้นว่า"เว้นชนผู้รู้เทวธรรมเท่านั้น ชนเหล่าอื่นลงสู่สระนี้, เจ้าย่อมได้เพื่อเคี้ยวกินชนเหล่านั้น" ตั้งแต่นั้นมา รากษสน้ำนั้นถามเทวธรรมกะคนผู้ลงแล้วๆ ลงสู่สระนั้น ย่อมเคี้ยวกินคนผู้ไม่รู้อยู่. ฝ่ายสุริยกุมาร มิทันพิจารณาสระนั้น ลงไป, และถูกรากษสนั้นถามว่า "ท่านรู้เทวธรรมหรือ" ก็ตอบว่า "พระจันทร์และพระอาทิตย์ชื่อว่าเทวธรรม"

ลำดับนั้น รากษสกล่าวกะสุริยกุมารนั้นว่า "ท่านไม่รู้เทวธรรม" แล้วก็ฉุด ลงน้ำไปพักไว้ในภพของตน. ส่วนพระโพธิสัตว์ เห็นสุริยกุมารนั้นช้าอยู่ จึงส่งจันทกุมารไป แม้จันทกุมารนั้น ถูกรากษสนั้นถามว่า "ท่านรู้เทวธรรมหรือ" ก็ตอบว่า "ทิศ ๔ ชื่อว่า เทวธรรม" รากษสน้ำก็ฉุดแม้จันทกุมารนั้นลงน้ำไปพักไว้ อย่างนั้นเหมือนกัน.

พระโพธิสัตว์แสดงเทวธรรมแก่รากษส

พระโพธิสัตว์แม้เมื่อจันทกุมารนั้นช้าอยู่ จึงคิดว่า "อันตรายจะพึงมี" ดังนี้แล้ว จึงไปเอง เห็นรอย (เท้า) ลงแห่งกุมารแม้ทั้งสองแล้วก็ทราบว่า "สระนี้มีรากษสรักษา" จึงสอดพระขรรค์ไว้ ถือธนูได้ยืนแล้ว รากษสเห็นพระโพธิสัตว์นั้นไม่ลง (สู่สระ) จึงแปลงเพศเป็นชายชาวป่า มากล่าวปราศรัยว่า "ดูก่อนบุรุษผู้เจริญ ท่านเดินทางอ่อนเพลีย ทำไมจึงไม่ลงสู่สระนี้ อาบน้ำ ดื่มน้ำ เคี้ยวกินเหง้าบัว ประดับดอกไม้แล้ว จึงไปเปล่า" พระโพธิสัตว์พอเห็นบุรุษนั้นก็ทราบได้ว่า "ผู้นี้เป็นยักษ์" จึงกล่าวว่า "ท่านจับเอาน้องชายทั้งสองของข้าพเจ้าไว้หรือ"

ยักษ์ เออ ข้าพเจ้าจับไว้

โพธิสัตว์ จับไว้ทำไม

ยักษ์ ข้าพเจ้าย่อมได้ (เพื่อกิน) ผู้ลงสู่สระนี้ ฯ ลฯ

(๑) ปทานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๔๗๐ ว่า รากษส (รากสด) ยักษ์ผีเสื้อน้ำ เป็นชื่อพวกอสูรอย่างเลว มีนิสัยดุร้าย ชอบเที่ยวตามป่า ทำลายพิธีและคน.



ความคิดเห็น 1    โดย suwit02  วันที่ 5 ส.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 10 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ