ปัญญารู้ชัดธรรมตามความเป็นจริง
โดย Anatta00  16 ก.ย. 2565
หัวข้อหมายเลข 43947

ขอสอบถามท่านวิทยากรผู้รู้ครับ การเจริญสติปัฏฐาน แล้วเกิดปัญญารู้ชัดตามความเป็นจริงในธรรมต่างๆ โดยอาการไตรลักษณ์ ปัญญาจะต้องรู้ชัดตามลำดับทั้ง 3 อาการ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือปัญญารู้แค่อาการใดอาการหนึ่ง ตามเหตุปัจจัยที่สั่งสมมาให้เกิดปัญญาของบุคคลนั้นครับ ขอท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะครับ ขอบพระคุณครับ



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 16 ก.ย. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา (ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล) ทั้ง ๓ นี้เป็นลักษณะทั่วไปของสังขารธรรม (จิต เจตสิก รูป) ซึ่งเกิดเพราะเหตุปัจจัย ทั้งหมด เรียกว่าไตรลักษณ์ ไม่เที่ยงเพราะมีอันดับไปเป็นธรรมดา และธรรมแต่ละหนึ่งไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ไม่ใช่ตัวตนสัตว์บุคคล ผู้ที่มีปัญญาท่านเห็นด้วยปัญญาตามเป็นจริงว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา แต่ผู้ที่ไม่มีปัญญาย่อมไม่เห็นลักษณะทั้ง ๓ นี้ตามเป็นจริง จึงมีความสำคัญว่าเที่ยง เป็นสุข และมีตัวตน แต่ความจริงทุกขณะในชีวิตประจำวัน จิต เจตสิกทุกขณะ รูปทุกรูป เกิดดับ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทั้งความไม่เที่ยง เป็นทุกข์และเป็นอนัตตา ก็เชื่อมโยงกัน เกี่ยวข้องกัน เพราะสิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์ และสิ่งนั้นก็เป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนด้วย การที่จะรู้ลักษณะ ๓ ก็ต้องเป็นแต่ละลักษณะ ตามความน้อมไปของปัญญา และจะประจักษ์แจ้งชัดได้ เมื่อถึงปัญญาในระดับวิปัสสนาญาณ ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ รากฐานที่มั่นคง ด้วยการค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกในเรื่องของความเป็นจริงของธรรม ไปทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งจะขาดการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวันไม่ได้เลย ครับ
เนื่องจากเป็นเรื่องที่ละเอียดอย่างยิ่ง จึงขอเชิญคลิกศึกษาเพิ่มเติมจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
ไตรลักษณ์ - อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 17 ก.ย. 2565

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย Anatta00  วันที่ 17 ก.ย. 2565

ขอขอบพระคุณ อนุโมทนา สาธุครับ