“สนทนาธรรมเพื่ออุทิศกุศลแด่คุณฮัง” วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 68 (เช้า)

เพจชมรมบ้านธัมมะ : ลิงก์ Facebook ... คลิกที่นี่

เพจวิทยุออนไลน์ : ลิงก์ Facebook ... คลิกที่นี่

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา :

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลของทุกท่านค่ะ

ขออุทิศกุศลแด่คุณฮัง ขอจงมีจิตโสมนัสยินดีในกุศลนี้ด้วยเทอญ

ไม่เจาะจงเฉพาะความตาย ทุกคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงทุกขณะเดี๋ยวนี้พิสูจน์ได้ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ความจริงเดี๋ยวนี้

ทุกคำเพื่อให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่ลึกซึ้งเพราะไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง แต่ละคำฟังแล้วฟังอีก ทรงแสดงความจริงของสิ่งที่มีจริงไม่ว่าที่ไหนแห่งใดในโลกแม้เดี๋ยวนี้ มีสิ่งที่ปรากฏว่ามี เดี๋ยวนี้มีเห็นแน่นอนและมีสิ่งที่ถูกเห็นที่กำลังปรากฏด้วย ฟังกี่ชาติ ... กี่คำเพื่อรู้ความจริงนี้ใช่ไหม?!

เห็นอะไรก็เป็นอัตตา ... เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดตลอดเวลา แต่คำของพระพุทธเจ้าเปลี่ยนไม่ได้ "ธรรมะทั้งปวงเป็นอนัตตา" ฟังเพื่อเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมี ไม่ใช่เราเห็นดอกไม้ แต่เห็นเฉพาะสิ่งที่กระทบตา เห็นมีตลอดเวลาแล้วไม่รู้ความจริงของเห็นทั้งๆ ที่กำลังฟังเรื่องเห็น!!!

อะไรทั้งหมดแสนไกลต่อการที่จะรู้ความจริง เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดที่จะได้ฟังคำของพระพุทธเจ้า ยังไกลไหมจากการเข้าใจเห็นที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้!! เห็นมีจริงและมีสิ่งที่ปรากฏให้เห็น ลืมทั้งวันลืมทุกวันไม่สนใจ แต่สนใจอื่นๆ ทั้งวัน "สิ่งที่ปรากฏทางตาไม่ใช่เห็น ... แต่ถ้าไม่มีเห็น สิ่งที่ปรากฏทางตาเดี๋ยวนี้ไม่ปรากฏให้เห็น " เห็นเกิดขึ้นเห็น เห็นเป็นธาตุรู้ ถ้าไม่พูดก็ลืม ... ทุกครั้งที่พูดถึงสิ่งที่กำลังมีเป็นเครื่องพิสูจน์ความเข้าใจว่าแค่ไหน!! แต่ละคำลึกซึ้งเพื่อให้รู้ความจริงที่มีแต่ละขณะเดี๋ยวนี้ ... เดี๋ยวนี้มีธาตุรู้ รู้สิ่งที่ปรากฏ ถ้าไม่มีธาตุรู้ๆ สิ่งที่ปรากฏๆ ปรากฏไม่ได้!!!

กว่าจะไม่ลืมในสิ่งที่ได้ฟังซึ่งเป็นสัจจะรอบที่หนึ่ง เมื่อไม่รู้เห็นจะรู้สิ่งอื่นไหม?! ก็ไม่รู้ทั้งวัน แต่ฟังเพื่อรู้ความจริงในสิ่งที่ได้ฟังและได้พิจารณาแล้วว่าเป็นจริง เดี๋ยวนี้เห็นกำลังเกิด เพราะถ้าไม่เกิดไม่เห็น พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และเราจะรู้ได้อย่างไร?!พระพุทธเจ้าทรงใช้เวลานานมากเพื่อทรงตรัสรู้ และทรงแสดงให้ผู้ฟังได้รู้ด้วย การฟังขณะนี้เป็นการปลูกฝังความมั่นคงของสิ่งที่ได้ฟัง คำของพระพุทธเจ้าทรงแสดง 45 พรรษาว่าเข้าใจมากน้อยแค่ไหน ไม่เพียงฟังชื่อไม่เพียงฟังเรื่อง เพราะฉะนั้นกว่าจะปลูกฝังความเข้าใจที่มั่นคงในสัจจธรรมเป็นสัจจบารมีจนมั่นคงขึ้นเป็นอธิษฐานบารมี

ทำไมอธิษฐาน?! ถ้าไม่มีความต้องการอย่างมั่นคง ... ขออะไร?? เราไม่ละเอียดในทุกคำที่ลึกซึ้ง คิดว่าเราต้องไปขอ แต่เป็นความมั่นคงของธรรมะเดี๋ยวนี้ทุกขณะ ศึกษาธรรมะเพื่อเป็นผู้ละเอียด

ความตายไม่เปลี่ยน ... เกิดและดับไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏ เป็นความตายทุกขณะ เกิดแล้วต้องดับ เกิดแล้วต้องตาย มีปัจจัยให้เกิด เมื่อเกิดแล้วตามปัจจัยก็ดับทันที เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นดับไปเป็นธรรมดา ... ไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏ

ธรรมะเกิดดับสืบต่อกันมานานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้จนกว่าจะมีการอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า เป็นลาภอันประเสริฐเหนือสิ่งใดทั้งสิ้นในสังสารวัฏที่ได้ฟังและได้ปลูกฝังความเข้าใจจนมั่นคง เมื่อรู้ว่ามีการสนทนาธรรม จึงมาเพื่อฟังให้เข้าใจ เพราะถ้าไม่ได้ฟังแล้วเข้าใจทีละเล็กทีละน้อยก็ลืมทันที!! เพราะฉะนั้นการสนทนาธรรมจึงเป็นมงคล

เบิกบานที่ได้รู้ความจริง จากการที่เกิดมานานในสังสารวัฏแล้วไม่ได้รู้ความจริงมาก่อนเลย เพราะฉะนั้นต้องสะสมความมั่นคงจึงไม่เหินห่าง ... จึงได้ฟังสิ่งที่ได้ฟังแล้ว ... ให้ได้ฟังอีก

ไม่ไม่มีเรา ... ยากแสนยากกว่าจะรู้ แต่รู้ดีกว่าไม่รู้แน่นอน เป็นแต่ธรรมะสิ่งที่มีจริงมีปัจจัยให้เกิดและดับไปและเกิดดับสืบต่อวนเวียนไปตามเหตุปัจจัยที่ทำให้เป็นอย่างนั้น ถ้ามีความเข้าใจจริงๆ จะติดข้องน้อยลงไหม?! จะโกรธน้อยลงไหม?!

แต่ละคำต้องศึกษาโดยละเอียด มีธาตุรู้แน่นอน เห็นเฉพาะสิ่งที่กำลังปรากฏเท่านั้น ได้ยินไม่ใช่เห็น ค่อยๆ ฟังค่อยๆ ละความไม่รู้ ขยะมากมายเพราะสะสมความไม่รู้มาแสนนานในสังสารวัฏ ฟังแล้วไตร่ตรอง ... พิสูจน์ว่าจริงอย่างนั้นไหม?!

หนทางเดียวคือความเห็นถูกตามความเป็นจริงเท่านั้น ที่จะค่อยๆ ชำระล้างความไม่เข้าใจว่า เห็นอะไรไม่ได้นอกจากสิ่งที่กระทบตาเท่านั้น

ฟังไว้ เข้าใจไว้ ไม่ประมาท หนทางเดียวที่จะละความไม่เข้าใจคือความเข้าใจถูกตามความเป็นจริง

ถ้ามีความเข้าใจเมื่อไหร่ ขณะนั้นอกุศลเกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้นปัญญาประเสริฐสุด ค่อยๆ ฟังสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ค่อยๆ เข้าใจขึ้นตามลำดับเพื่อละความไม่รู้

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ