การเกื้อกูลกันของทั้ง ๓ ปิฎก
โดย nattawan  30 ก.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 50538

บางท่านก็กล่าวว่า ท่านชอบ พระสูตร เพราะว่า พระอภิธรรม ละเอียดนัก และพระสูตรเมื่ออ่านแล้ว จิตใจสบาย เพราะเหตุว่าแสดงให้เห็นถึงชีวิตประจำวัน และมีความไพเราะซาบซึ้ง แต่ก็อย่าลืมว่า ปัญญาจะต้องละคลายการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนด้วย ไม่ใช่เพียงแต่อ่านพระสูตร มีความไพเราะ มีความซาบซึ้ง แล้วสบายใจ แต่ว่าการอบรมเจริญปัญญาที่จะละคลายการยึดถือสภาพธรรมแม้ในขณะนั้น ก็จะต้องอบรมเจริญด้วย

ด้วยเหตุนี้ก็จะขาดปิฎกหนึ่งปิฎกใดไม่ได้ และจะเห็นความสอดคล้อง การเกื้อกูลกันของทั้ง ๓ ปิฎก เพราะเหตุว่าถ้าไม่ศึกษาธรรมโดยละเอียดซึ่งเป็นพระอภิธรรม ก็ไม่มีการที่จะแยกให้เห็นแต่ละขณะจิตซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย และทำกิจสืบต่อกันตามวาระหนึ่งๆ ที่มีการเห็น มีการได้ยิน มีการได้กลิ่น มีการลิ้มรส มีการรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส มีการคิดนึก ซึ่งแสดงให้เห็นความเป็นอนัตตา ความเป็นอนิจจัง ความไม่มีสาระของแต่ละขณะ ซึ่งการที่จะเกิดได้ ก็ต้องมีเหตุปัจจัยจึงเกิด และเหตุปัจจัยนั้นก็ไม่ได้อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครเลย แล้วแต่ว่าอาศัยธาตุชนิดใด เจตสิกชนิดใดเกิดขึ้นในกาลไหน กระทำกิจไหน แล้วก็ดับไปๆ อยู่เรื่อยๆ

เพราะฉะนั้นการฟังพระธรรมก็จะต้องศึกษาความละเอียดของธรรม ที่เป็นส่วนของพระอภิธรรมด้วย และพร้อมกันนั้นก็จะต้องศึกษาพระสูตร เพื่อจะได้เห็นโทษของอกุศล เห็นประโยชน์ของกุศล เพื่อที่จะได้พิจารณาตนเองด้วย

สำหรับประโยชน์ของ พระวินัย ก็จะทำให้เห็นความแตกต่างกันของระดับจิตใจของเพศคฤหัสถ์กับเพศบรรพชิต ซึ่งสำหรับผู้ที่จะเป็นบรรพชิตได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติตามพระวินัย ซึ่งมีอาจาระเสมอกับอาจาระของพระอรหันต์ผู้ดับกิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉท เพราะว่าถ้าเพียงประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยโดยสมบูรณ์จะไม่มีใครรู้เลยว่า ภิกษุรูปใดเป็นพระอรหันต์ ภิกษุรูปใดไม่ใช่พระอรหันต์

เพราะฉะนั้นการศึกษาพระวินัยก็จะทำให้เห็นความละเอียดของจิตของแต่ละบุคคล ซึ่งมีระดับความสามารถ การสะสมมาที่จะอบรมเจริญปัญญาในเพศที่ต่างกัน ซึ่งแต่ละคนจะละกิเลสได้ก็ต่อเมื่อรู้จักตัวเองตามความเป็นจริง ไม่ใช่รู้จักคนอื่น เพราะเหตุว่าถ้าคิดถึงคนอื่นขณะใด ขณะนั้นเป็นเรื่อง เป็นสมมติ เป็นบัญญัติ ไม่รู้ลักษณะของปรมัตถธรรมที่กำลังคิดเรื่องนั้น ซึ่งมีเหตุปัจจัยจึงคิดแล้วก็ดับไป

โสภณธรรม ครั้งที่ 099



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 30 ก.ค. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ