ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๐๑
โดย khampan.a  26 ม.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 49420

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๐๑



~ การฟังธรรม ก็เป็นความดี เพราะอะไร เพราะได้ฟังคำที่จะทำให้มีความเข้าใจถูก เป็นกุศล เพราะเหตุว่าถ้าเข้าใจถูกต้อง ความดีเพิ่มขึ้น เพราะมีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า แท้ที่จริงอยู่ในโลกนี้ไม่นาน จะทำอะไรดี? ทำดีหรือทำชั่ว? ไม่นานเลย อาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ไปแล้ว หรือไม่ก็เย็นนี้ก็ได้ เดือนนี้ก็ได้ ใครจะรู้ ไม่มีใครรู้เลย อุบัติเหตุทั้งหลายเกิดขึ้นได้แม้เดี๋ยวนี้ เพราะฉะนั้น จะสิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้น การที่มีชีวิตอยู่และมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ได้มีโอกาสเข้าใจพระธรรม ก็เป็นสาวกคือผู้ฟัง แล้วก็จะมีการสะสมความเห็นประโยชน์ของการเข้าใจธรรม ฟังธรรมต่อไปอีก
~ จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมในทุกกรณี แม้แต่ในเรื่องของการฟังพระธรรม ต้องไม่ประมาท บางคนอาจจะคิดว่าเคยได้ฟังมาแล้วมาก แต่ว่าฟังแล้วเท่าไหร่ตลอดชีวิตก็ยังไม่พอ เพราะเหตุว่า แต่ละคำมาจากการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น ผู้ฟังตัองฟังเพื่อเข้าใจคำแต่ละคำซึ่งมีค่ามาก เพราะเหตุว่ากว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะได้ทรงตรัสรู้ก็ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีนานมากกว่าจะได้ตรัสรู้แต่ละคำที่เราจะได้ฟัง
~ ถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครจะได้ยินแม้แต่คำว่า “ธรรม”
~ เป็นความจริงสำหรับทุกท่านที่จะรู้จักตนเองว่า ท่านมีกุศลประเภทใดและมีอกุศลประเภทใด เพราะบางท่านมักจะนึกถึงเรื่องเก่าๆ และไม่อภัย และก็เป็นอย่างนี้บ่อยๆ บังคับตัวเองก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น มีทางเดียว คือ อบรมเจริญปัญญาที่จะรู้ว่าแม้ขณะนั้นก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน จนกว่าจะดับการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนได้จริงๆ ไม่มีหนทางอื่นเลย นอกจากการประจักษ์แจ้งปรมัตถสัจจะซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
~ ใครที่ฟังพระธรรมเข้าใจ แสดงว่าเป็นผู้ได้รับผลจากทรงตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ทุกอย่าง ให้ทราบว่าทำไมบังคับบัญชาไม่ได้จริงๆ หรือ? ลองคิดให้ดี ไม่ได้แน่นอน เพราะอะไร เพราะเกิดแล้วดับ แค่นี้ สิ่งนั้นเกิดแล้ว แล้วก็ดับแล้วด้วย แล้วจะบังคับอะไร แค่คิดจะบังคับ คิดก็เกิดแล้ว แล้วก็ดับแล้วด้วย
~ ถ้าโกรธ ไม่พอใจ ดูหมิ่นคนชั่วหรือคนที่ทำไม่ดี ในขณะนั้นจิตเป็นอกุศล จิตของท่านเองก็เท่ากับคนอื่นที่ไม่ดี เพราะว่าดูหมิ่นคนที่เป็นอกุศล ด้วยเหตุนี้ แม้จะเป็นพระธรรมเพียงเล็กน้อยสั้นๆ แต่ก็สามารถทำให้เป็นผู้มีสัมปชัญญะ (ปัญญาที่รู้ทั่วพร้อม) เพิ่มขึ้น และรู้ว่าควรที่จะเจริญกุศลเพิ่มขึ้นด้วย
~ การศึกษาธรรมไม่ใช่ศึกษาเรื่องอื่นเลย แต่ศึกษาเรื่องที่มีตั้งแต่เกิดจนตาย แม้แต่การทำงานก็เป็นธรรม ไม่ทำงานก็เป็นธรรม สนุกก็เป็นธรรม โกรธก็เป็นธรรม ทุกอย่างที่มีจริง เป็นธรรมทั้งหมด
~ เป็นคนดีคือไม่โกรธ มีความสุขไหม? ไม่ติดข้องไม่อยากได้ไม่ทุรนทุรายไม่ขวนขวายที่จะได้มา เป็นสุขไหม?
~ ชีวิตนี้สั้นมาก เกิดมาก็ไม่รู้ว่าชาติก่อนเป็นใคร ที่จะเลือกเกิดเป็นคนนี้ก็เลือกไม่ได้เลย หลากหลายไปตามกรรมซึ่งทำให้เกิด แล้วก็ยังต้องรับผลของกรรมด้วย รู้อย่างนี้เดือดร้อนไหม ? ก็จะต้องอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วระยะเวลาที่กรรมทำให้อยู่ในโลกนี้เป็นคนนี้ได้แค่นี้ ต่อไปก็สิ้นกรรมที่ทำให้เป็นคนนี้ ก็เป็นคนอื่นต่อไป จะเป็นใครก็ไม่รู้ แต่เหตุดี ผลต้องดี
~ การฟังธรรมก็คือเพื่อเข้าใจ ธรรมคือสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ซึ่งไม่เคยรู้ ฟังจนกระทั่งเข้าใจว่ามีจริงๆ ไม่ใช่เรา สบายๆ ไหม ทำอะไรไม่ได้ แต่เข้าใจได้
~ สิ่งที่มีประโยชน์ ก็ต้องควรให้คนอื่นได้รู้ได้เข้าใจทั่วกัน ไม่ให้สิ่งที่ไม่ใช่ประโยชน์ ไม่ให้สิ่งที่ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นมิตรที่ดี หวังดี แล้วรู้ว่าความเข้าใจถูกเป็นสิ่งที่ประเสริฐในชาตินี้ ดีกว่าทรัพย์สมบัติเงินทองซึ่งพลัดพรากจากไปเมื่อไหร่ก็ได้ แม้ร่างกาย ตาจะบอด หูจะหนวก แขนจะขาด เมื่อไหร่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่สมบัติที่ประเสริฐยิ่งกว่าอย่างอื่นที่ติดตามไป ก็คือ ความเข้าใจถูกความเห็นถูก
~ ความชั่วทั้งหลายอยู่ในจิต มองไม่เห็นเลยว่ามากมายมหาศาลแค่ไหน แต่ความเข้าใจธรรมอย่างเดียวที่จะทำให้สิ่งที่สะสมมานี้ค่อยๆ ละคลายไปได้ซึ่งต้องอาศัยประโยชน์ของการรู้ว่าสิ่งใดดี สิ่งใดชั่ว ใครก็ตามที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งใดดี สิ่งใดชั่ว ก็ไม่สามารถที่จะทำสิ่งที่ดีได้
~ ถ้าทำดี ความดีก็เพิ่มขึ้น แต่ละหนึ่งขณะสะสมไป
~ ใครจะพ้นจากอกุศลถ้าไม่มีปัญญาที่สามารถจะเห็นถูกเข้าใจถูกตามความเป็นจริงได้ และปัญญาก็มีไม่ได้ถ้าไม่มีการฟังไม่มีการไตร่ตรอง ไม่มีความเข้าใจละเอียดในความเป็นธรรมไม่ใช่ตัวตน เพราะฉะนั้น ฟัง “ธรรม” ไม่ลืม เพราะว่า บางคนฟังธรรมแล้วจะปฏิบัติ จะทำอย่างไร แต่นั่นไม่ใช่เข้าใจธรรม “ฟังธรรม” ก็คือ เข้าใจว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา จนกว่าจะหมดความเป็นเรา
~ คนดีอยู่ที่ไหนก็มีความสุข แต่เป็นการเป็นคนดี ยากหรือง่าย ? แต่ การเป็นคนดี ก็ยาก แล้วจะดีขึ้นได้อย่างไร ต้องมีที่พึ่ง คือ พระรัตนตรัย
~ เริ่มดี ตั้งแต่เริ่มเข้าใจ และความเข้าใจก็จะอุปการะเกื้อกูลให้ความดีประการอื่นๆ เจริญขึ้นด้วย
~ เป็นคนดี เพราะมีเจตสิก (ธรรมที่เกิดกับจิต) ฝ่ายดีเกิดขึ้นเป็นไป เป็นคนไม่ดี ก็เพราะเจตสิกฝ่ายไม่ดีเกิดขึ้นเป็นไป
~ รักตัวเราที่สุด เพราะยึดถือว่านี่เป็นตัวเราและนี่เป็นของเรา ที่เดือดร้อน ก็เพราะมีเรา แต่ตามความจริงถ้ารู้ว่าไม่มีเรา ความเดือดร้อนก็จะน้อยลง
~ ความสุข ก็มีเหตุให้เกิดความสุข ความทุกข์ก็มีเหตุให้เกิดความทุกข์ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
~ ทำไมมีทุจริตกรรม ? เพราะรักตัว ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตัว
~ ชีวิตสั้นแสนสั้น แล้วรู้ไหมว่าวันหนึ่งๆ ชั่วมากกว่าดี เพราะอกุศลเกิดขึ้นเป็นไปมากทีเดียว
*** ~ พระภิกษุ ก่อนบวช เป็นผู้ฟังพระธรรม เข้าใจพระธรรม จึงสละทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ ที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสยิ่งขึ้น ในเพศบรรพชิต***
*** ~ พระภิกษุ สละเงินและทองแล้ว จึงบวช เมื่อบวชแล้ว จะมีเงินทองได้อย่างไร***
*** ~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงรับเงินทองหรือเปล่า ? เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงไม่รับเงินทองแล้วเพราะเหตุใดภิกษุที่ปฏิญาณว่าจะประพฤติตามพระองค์ จึงรับเงินรับทอง***
*** ~ ทำไม เรากราบไหว้พระภิกษุ ? เพราะพระภิกษุเข้าใจธรรม ขัดเกลากิเลส***
~ สะสมแต่อกุศล ทั้งวัน ทั้งเดือน ทั้งปี ทั้งชาติ แล้วจะเอาอะไรมาขัดเกลาสิ่งที่ไม่ดีได้
~ เมื่อเห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็ศึกษาต่อไป



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๐๐


... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...



ความคิดเห็น 1    โดย jaturong  วันที่ 26 ม.ค. 2568

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย มังกรทอง  วันที่ 26 ม.ค. 2568

แต่ละคำองค์พระศาสดา จักศึกษาจนเข้าใจ หนักแน่นไม่หวั่นไหว ด้วยมั่นใจในอนัตตา กราบอาจารย์สุจินต์ให้ เมตตาได้ทุกเวลา อีกเปี่ยมความกรุณา น้อมศรัทธาอาจารย์เทอญฯ


ความคิดเห็น 3    โดย swanjariya  วันที่ 26 ม.ค. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


ความคิดเห็น 4    โดย shsso2551  วันที่ 26 ม.ค. 2568

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 26 ม.ค. 2568

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ


ความคิดเห็น 6    โดย panasda  วันที่ 27 ม.ค. 2568

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย Krittimasu  วันที่ 10 มิ.ย. 2568

ขอบคุณมากค่ะ

อนุโมทามิ


ความคิดเห็น 8    โดย มังกรทอง  วันที่ 27 ก.ย. 2568

ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา