
@ จะอยู่บ้าน อยู่ป่า อยู่ที่ไหนก็ตาม คือ เป็นคนดี ที่เข้าใจธรรม
@ พร้อมเพรียงกันที่บูชาพระรัตนตรัย แตใจ มีความปรองดองหรือเปล่า เพราะฉะนั้น ความปรองดอง คือ มีจิตเสมอกัน คือ เป็นคนดี ซึ่งจะขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลย

@ จิตคนอื่นก็เรื่องคนอื่น สำคัญที่จิตตนเองที่พิจารณาจิตตนเองว่า มีความดีขึ้นมากไหมซึ่งด้วยการศึกษาพระธรรม
@ ความปรองดอง สำคัญกว่า พร้อมเพรียงกัน เพราะปรองดองด้วยความเห็นถูก ถ้าไม่คิดถึงความดี ก็ปรองดองยาก เพราะ คิดถึงแต่ตนเอง

@ กิเลสมีมากเหลือเกิน ถ้าไม่ฟังก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้น การรู้จักพระพุทธเจ้า ไม่ใช่เพียงกราบไหว้ แต่ผู้ที่รู้ตัวเองกิเลสว่ามีมาก แต่พระพุทธเจ้าไม่มีกิเลสเลย ผู้รู้ด้วยความเข้าใจพระธรรม ย่อมรู้จักพระพุทธเจ้า ผู้ไม่มีกิเลสเลย ซึ่งสามารถดับกิเลสได้หมด ด้วยการฟัง ศึกษาพระธรรม
@ ถ้าเราไม่รู้ว่าเรามีกิเลสมาก จะอัศจรรย์ไหมคะ ที่ได้ยินว่า มีผู้ไม่มีกิเลสเลย

@ เห็นประโยชน์ของการเป็นคนดี ด้วยความปรองดอง นั่นคือ ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจพระธรรมเหมือนกัน
@ อาศัยน้ำ คือ พระธรรม ล้างกิเลสออกจากใจทีละน้อย ค่ะ
@ คนที่กล่าวว่า พระพุทธศาสนาไม่ยากเลย ทิฏฐิ ความเห็นเสมอกันหรือไม่
@ ทุกคนเหมือนกันหมดเสมอกัน คือ เป็นธรรม ไม่ใช่เป็นเขาเป็นเรา
@ ทุกคนเคยมีความสุข ร่ำรวย และลำบากยากจน ทุกคนเคยเป็นอย่างนี้มาแล้วทั้งนั้นเลยทุกคน ถ้าคิดถูกเช่นนี้ก็เข้าใจถูก ก็มีจิตเสมอกัน ค่ะ

@ ลูกเราอยู่ไหน กำลังเห็น กำลังได้ยิน ลูกเราอยู่ไหน ค่ะ
@ ที่กล่าวว่าเหตุให้เกิดสติปัฏฐาน คือ ความจำที่มั่นคง แต่ถ้าไม่เข้าใจว่าขณะนี้เป็นเพียงสภาพธรรม แล้วจะทำให้สติปัฏฐานเกิดได้อย่างไร
@ คนดี เป็นอย่างไร ก็มีหลายระดับขั้น เช่น ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ได้ว่าร้ายใคร ก็เป็นคนดีก็แล้วแต่จะพูดกัน แต่เป็นคนดี ที่ช่วยเหลือคนอื่นด้วย แต่เป็นอย่างนี้ทั้งวัน หรือเปล่าเพราะฉะนั้น ใจเป็นอย่างไร ดังนั้น ไม่ใช่เพียงละชั่ว ทำความดี แต่ดีเท่าไหร่ก็ไม่พอ ตราบใดที่ไม่เข้าใจว่า ดีและชั่วเป็นธรรม จนกว่าจะดับกิเลสได้ ค่ะ
@ ปรองดอง คือ มีจิตเสมอกันในการเข้าใจธรรม ตามความเป็นจริง เสมอกัน ในการศึกษาธรรม

@ กิเลสปรองดองได้ไหม ไม่ได้ แต่ กิเลสพร้อมเพรียงกันได้ ที่จะทำสิ่งต่างๆ
@ กุศลธรรมปรองดองกันได้ อกุศลกรรมปรองดองกันได้ไหม ก็จะเห็นความแตกต่างของพร้อมเพรียง กับ ปรองดอง พร้อมเพรียงด้วยอกุศลธรรมได้ แต่ ปรองดอง ด้วยกุศลธรรมความเห็นถูก ค่ะ
@ ลูกเรา รักใครมากกว่ากัน ลูก กับ เรา
@ ต่อเมื่อใด เป็นผู้มีความบันเทิงร่วมกันในทางกุศล ก็แช่มชื่นด้วยปัญญา
@ จะไปปรองดองกับคนนั้นคนนี้สำเร็จไหม แล้วสำเร็จไหม ไม่สำเร็จแน่นอน ถ้าไม่ใช่ความดี ถ้าจะให้สำเร็จ ต้องเป็นคนดีด้วยกัน แต่ถ้ายังไม่เป็นดี ไม่มีทางปรองดองสำเร็จ

@ ความมืดกับความสว่างจะปรองดองกันได้ไหม
@ ความดีไม่เบียดเบียนใครเลย มีแต่ช่วยคนอื่น
@ สัตว์โลก เป็นผู้ดูกรรม และผลของกรรม สัตว์โลกเป็นผู้ที่ดูบุญและบาป เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ที่ดีและไม่ดี สามารถเกิดขึ้บกับใครก็ได้ ดังนั้นเห็นเหตุการณ์ที่คนอื่นทำไม่ดีกับใคร พิจารณาจิตตนเองไหม ว่าจิตเป็นอะไร เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าไหม ดังนั้น ได้ยิน ได้ฟัง คนทำไม่ดี จิตโกรธบ้าง เกลียดบ้าง หรือ ควรลงโทษประหารชีวิต เกิดจากความโกรธ ถูกต้องหรือเปล่า
@ พระพุทธเจ้าสอนให้รักษาศีล หรือ ให้เข้าใจความจริง
ขอกราบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์และอนุโมทนาทุกท่าน
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุค่ะ

ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนา
ขอกราบและขออนุโมทนาในกุศลจิต ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ผู้ที่พร้อม ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ