มีอะไรกำบังตาหรือไม่ โดยมากไม่รู้ ถ้าไม่ใช่เป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติปัฏฐาน จริงๆ นามธรรมอะไร สติระลึกรู้หรือเปล่า รูปธรรมอะไรที่กำลังมีลักษณะปรากฏ สติระลึกรู้หรือเปล่า เวทนาอะไรที่กำลังปรากฏ สติระลึกรู้หรือเปล่า ถ้าสติไม่ระลึกรู้ ในขณะนี้ ก็มีสิ่งที่กำบังตาอีก
ข้อความที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย นั่นมิใช่พราหมณ์ นั่นเป็นมารผู้มีบาป มาเพื่อกำบังตาเธอทั้งหลาย
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ใดๆ ที่เกิดปรากฏ ควรจะเป็น สติปัฏฐาน คือ สติควรจะระลึกแล้วรู้ชัดในสภาพของนามธรรมและรูปธรรมนั้นๆ แต่สิ่งที่กำบังตา คือ ไม่ให้เห็น ไม่ให้รู้แจ้งในสภาพธรรมนั้นตามความเป็นจริงช่างมากเสียเหลือเกิน ถ้ามีอะไรที่น่าสนใจ ที่ดึงดูดความสนใจผิดจากปกติ ก็เป็นสิ่งที่กำบังตาไม่ให้เห็นสภาพธรรมนั้นตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้น เมื่อท่านพระภิกษุเหล่านั้นท่านเป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติปัฏฐาน บุคคลใดที่มีเพศผิดแผกจากปกติ และกล่าวข้อความที่ผิดแผกจากปกติ ชักชวนในทางที่ไม่ตรง ทำให้สติของท่านพระภิกษุเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรมที่กำลังปรากฏขณะใด ขณะนั้นบุคคลนั้น ก็สามารถที่จะกระทำสิ่งที่กำบังตา คือ ไม่ให้รู้ชัดในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้น
เพราะฉะนั้น คงจะไม่สงสัยในพยัญชนะที่ว่า กำบังตา คือ ไม่ให้เห็นสภาพธรรมนั้นตามความเป็นจริง
มีอะไรกำบังตาหรือไม่ โดยมากไม่รู้ ถ้าไม่ใช่เป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติปัฏฐาน จริงๆ นามธรรมอะไร สติระลึกรู้หรือเปล่า รูปธรรมอะไรที่กำลังมีลักษณะปรากฏ สติระลึกรู้หรือเปล่า เวทนาอะไรที่กำลังปรากฏ สติระลึกรู้หรือเปล่า ถ้าสติไม่ระลึกรู้ ในขณะนี้ ก็มีสิ่งที่กำบังตาอีก [ตอนที่ 295]
รับฟัง ...
สัมพหุลสูตร
ถ้าสติไม่ระลึกรู้ ก็มีสิ่งที่กำบังตา