[คำที่ ๗๒๗] วาจานมุตฺตมา
โดย Sudhipong.U  25 ก.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 50491

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ วาจานมุตฺตมา

โดย อ.คำปั่น อักษรวิลัย

วาจานมุตฺตมา อ่านตามภาษาบาลีว่า วา - จา - น - มุด – ตะ - มา มาจากคำว่า วาจานํ (แห่งวาจาทั้งหลาย) กับคำว่า อุตฺตมา (สูงสุด) สนธิกันเป็น วาจานมุตฺตมา แปลว่า วาจาหรือคำพูดที่สูงสุดแห่งวาจาทั้งหลาย วาจาที่สูงสุด ประเสริฐที่สุด ต้องเป็นวาจาคือคำที่กล่าวถึงความเป็นจริงของธรรม ไม่พ้นไปจากพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว

ข้อความในสารัตถปกาสินี อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค สุภาสิตสูตร ได้อธิบายความเป็นจริงของวาจาที่สูงสุดกว่าวาจาทั้งหลาย ดังนี้

บทว่า เขมํ ได้แก่ (วาจา) ปลอดภัย คือปราศจากอันตราย. หากจะถามว่า เพราะเหตุไร. พึงตอบว่าเพราะถึงความดับ เพราะทำให้สิ้นทุกข์. อธิบายว่า เพราะให้ถึงความดับกิเลสและเป็นไปเพื่อทำให้สิ้นทุกข์ในวัฏฏะ. อีกอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสพระวาจาใด ซึ่งเป็นวาจาเกษม เพราะประกาศมรรคอันเกษม เพื่อประโยชน์ของนิพพานธาตุทั้งสอง (สอุปาทิเสสนิพพาน คือ ความสิ้นไปของกิเลสทั้งหมด แต่ยังมีขันธ์เกิดดับสืบต่ออยู่ และอนุปาทิเสสนิพพาน คือ การดับขันธ์ทั้งหมด เป็นการปรินิพพานของพระอรหันต์) คือเพื่อถึงพระนิพพาน เพื่อทำให้สิ้นทุกข์. ในคำว่า สา เว วาจานมุตฺตมา นี้ พึงทราบเนื้อความอย่างนี้ว่า วาจานั้นประเสริฐที่สุดแห่งวาจาทั้งปวง ดังนี้.


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลาสี่อสงไขยแสนกัปป์ เป็นระยะเวลาที่ยาวนานอย่างยิ่งตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อทรงตรัสรู้สภาพธรรมที่มีจริงตรงตามความเป็นจริงถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลก จึงทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้เกื้อกูลแก่สัตว์โลก ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา ทรงแสดงบ่อยๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้ผู้ฟังมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติตามพระธรรมจนกระทั่งสามารถดับกิเลสทั้งหลายได้ตามลำดับขั้น พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงนั้น เป็นสัจจะ เป็นความจริง แสดงถึงสิ่งที่มีจริง ซึ่งเป็นปกติธรรมดาของบุคคลผู้ทรงตรัสรู้ความจริงที่จะมีการแสดงความจริงให้ผู้อื่นได้รู้ตาม เป็นการอนุเคราะห์เกื้อกูลให้ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ได้เกิดปัญญาเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง เพราะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อละอกุศล เป็นไปเพื่อดับทุกข์โดยประการทั้งปวง เป็นไปเพื่อการไม่เกิดอีกในสังสารวัฏฏ์

จะเห็นความบริสุทธิ์ของพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า เป็นไปเพื่อละ ตั้งแต่ต้นจนถึงที่สุด คือสามารถดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้นไม่เกิดอีก ที่จะเป็นอย่างนี้ได้ ก็ต้องอาศัยพระธรรมซึ่งเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อจะได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก มั่นคงในความเป็นเหตุเป็นผลของธรรม และขัดเกลาละคลายกิเลสของตนเอง อบรมเจริญปัญญาสะสมเป็นที่พึ่งต่อไป

พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระวาจาของพระองค์ เป็นคำที่ตรัสจากสภาพจิตที่ดีงามที่สุด ประกอบด้วยพระมหากรุณาที่จะเกื้อกูลแก่สัตว์โลก ให้ได้ฟังได้ศึกษาในสิ่งที่มีจริง เพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ทุกคำของพระองค์ เป็นคำที่ไพเราะ เพราะเป็นคำจริง ไม่มีคำหยาบคายเลยแม้แต่น้อย และที่สำคัญ เป็นคำที่เกื้อกูลให้ผู้ฟังผู้ศึกษาได้เกิดปัญญาเป็นของตนเอง พระวาจาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเป็นพระวาจาหรือคำพูดที่สูงสุดประเสริฐที่สุด ไม่มีวาจาจะประเสริฐเทียบเท่าได้เลย

ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก ย่อมเจริญขึ้นไปตามลำดับ ไม่ใช่ว่าปัญญาจะเจริญขึ้นสมบูรณ์เต็มที่ด้วยการฟังพระธรรมเพียงครั้งเดียว หรือ สอง สามครั้งเท่านั้น แต่ต้องอาศัยการฟังบ่อยๆ เนืองๆ พิจารณาไตร่ตรองในเหตุในผลในคำที่ได้ยินได้ฟัง เพราะจุดประสงค์ของการฟังพระธรรม คือ เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ขณะที่ตนเองได้มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นนั้น เป็นช่วงเวลาที่ประเสริฐของชีวิต เพราะเหตุว่าในวันหนึ่งๆ ส่วนมากจะเป็นไปด้วยอำนาจของอกุศล มีความติดข้อง เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่นำคุณประโยชน์อะไรมาให้เลย แต่บางครั้งบางเวลาก็มีเหตุปัจจัยทำให้เป็นผู้ที่มีความสนใจที่จะสละเวลาจากที่เป็นอกุศล มาเพื่อฟังพระธรรม ซึ่งยากที่จะได้ฟังและยากที่จะเข้าใจ และผู้นั้นก็ต้องเป็นผู้ที่ได้สะสมเหตุที่ดีมาแล้ว เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง มีศรัทธาที่จะฟัง จึงได้ฟัง และจากการฟังในแต่ละครั้ง ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น จึงเป็นช่วงเวลาที่ประเสริฐเป็นอย่างยิ่ง

คนเราเกิดมา ชีวิตแสนสั้น ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าจะจากโลกนี้ไปวันไหน ที่ไหน ด้วยอาการอย่างไร แต่มั่นใจได้เลยว่าต้องจากโลกนี้ไปแน่นอน แต่ก่อนจากโลกนี้ไป ควรทำอะไร? เพราะเหตุว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ มีโอกาสที่จะได้ยินได้ฟังพระธรรม ได้คิดได้ไตร่ตรองตามพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง เพราะฉะนั้น ถ้าจะจากโลกนี้ไป สมกับการที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ก็คือได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกจากการได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระวาจาที่สูงสุดประเสริฐที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงต้องฟังพระธรรม ซ้ำแล้วซ้ำอีก ฟังบ่อยๆ เนืองๆ ไม่ขาดการฟังพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ขณะที่ฟังพระธรรมเข้าใจ เป็นความดีที่ประเสริฐที่สุด เป็นการค่อยๆ ชำระจิตให้สะอาดปราศจากความไม่รู้ที่สะสมมาอย่างมากและยาวนานในสังสารวัฏฏ์

อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี 1 คำ



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 25 ก.ค. 2568

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ