การเจริญวิปัสสนาหรือว่าเจริญสติปัฏฐานจะทำให้เกิดโทษนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูก เพราะเหตุว่า เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคตรัสรู้ เป็นหนทางที่ควรเจริญ และเป็นคุณธรรมด้วย
รับฟัง ...
เกิดนิมิต ภาพหลอน
สำหรับการเจริญสติปัฏฐานนั้น เป็นการขัดเกลาทั้งกิเลสหยาบ กลาง ละเอียด เพราะเหตุว่าการขัดเกลาทีละขั้นก็มี อย่างท่านที่เคยศึกษาเรื่องของศีลธรรมมารยาทต่างๆ แล้วท่านก็พยายามจะประพฤติในขอบเขตของศีลธรรมและมารยาทที่ดีงาม แต่ว่าในขณะนั้นเป็นตัวตน เป็นท่านที่กำลังขัดเกลาจิตใจ แต่ว่าเป็นไปในทางด้านดี นั่นก็ขั้นหนึ่ง
ผู้เจริญสติปัฏฐานนั้น เมื่อมีสติแล้วจะค่อยๆ ขัดเกลาสิ่งที่ไม่ดีงาม เวลาจะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน ด้วยกิริยาอาการไม่สมควร ก็มีสติ ลักษณะของสติคือระลึกได้ เมื่อระลึกได้ก็เปลี่ยนกิริยาอาการมารยาทให้ดีงาม แต่ถ้าท่านเจริญสติปัฏฐาน รู้ลักษณะของนามและรูปด้วยความรวดเร็วของจิต ความรู้ของจิตเพิ่มขึ้นว่า แม้ในขณะที่กิริยาอาการเปลี่ยนไปในทางที่ดีงามนั้น เป็นการขัดเกลาทางกาย ทางวาจาก็จริง แต่ไม่ใช่ตัวตนเลย เป็นเพียงสิ่งที่ศึกษาสะสมมา แม้แต่การขัดเกลานั้นก็เป็นนามเป็นรูปที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย [ตอนที่ 42]
ถ้าท่านเจริญสติปัฏฐาน รู้ลักษณะของนามและรูปด้วยความรวดเร็วของจิต ความรู้ของจิตเพิ่มขึ้นว่า แม้ในขณะที่กิริยาอาการเปลี่ยนไปในทางที่ดีงามนั้น เป็นการขัดเกลาทางกาย ทางวาจาก็จริง แต่ไม่ใช่ตัวตนเลย เป็นเพียงสิ่งที่ศึกษาสะสมมา แม้แต่การขัดเกลานั้นก็เป็นนามเป็นรูปที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย