เพราะสงกรานต์ไม่ได้เกี่ยวกับพุทธกับพระ แต่เป็นประเพณีมาจากอินเดีย นู้น แล้วก็ไม่เกี่ยวกับพุทธ แต่ทำไมสงกรานต์บ้านเรา ทางวัดจะจัดกิจกรรมสงกรานต์นำพระมารดน้ำดำหัวแบบการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่เหมือนทางโลกเขา ผิดเปล่าแบบนี้

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประเพณีในปัจจุบันมีการสรงน้ำพระภิกษุสงฆ์โดยฆราวาส ซึ่งไม่ใช่กิจของฆราวาส และ พระภิกษุท่านก็ไม่ได้ป่วย จึงไม่ใช่กิจที่คฤหัสถ์ทั้งหลายจะสรงน้ำพระ การแสดงออกถึงการเคารพสักการะในพระภิกษุสงฆ์ คือการน้อมถวายปัจจัย ๔ อันสมควรเหมาะสมกับพระภิกษุ และการทำความเคารพยำเกรงในพระภิกษุสงฆ์ การสรงน้ำพระภิกษุจึงไม่ใช่การแสดงออกถึงการเคารพในพระภิกษุสงฆ์ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ซึ่งในสมัยพุทธกาล พระภิกษุทั้งหลายจะสรงน้ำด้วยตนเอง หากพระรูปใดป่วยก็เป็นพระภิกษุช่วยสรงน้ำให้กัน ดังที่พระพุทธเจ้าช่วยอาบน้ำให้พระภิกษุผู้อาพาธ

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ

สรงน้ำพระ

เรื่องพระปูติคัตตติสสเถระ

การน้อมประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ถูกย่อมรักษาพระศาสนาเพราะเป็นความเห็นถูกและรักษาพระภิกษุทั้งหลายด้วยไม่ให้มีโอกาสเกิดอาบัติกับท่านง่ายขึ้น การทำการเคารพในภิกษุสงฆ์จึงไม่ใช่การสรงน้ำพระภิกษุ แต่เป็นถวายของอันสมควร การทำความเคารพในภิกษุทั้งหลาย เป็นต้น และในพระวินัยบัญญัติหากพระอาบน้ำด้วยของหอมต่างๆ ย่อมเป็นอาบัติครับ

ดังนั้น การที่พระภิกษุจัดงานสรงน้ำพระภิกษุจึงไม่ใช่กิจของสงฆ์และเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะเอื้อต่อการผิดพระวินัยบัญญัติ

พระภิกษุ มีกิจสองอย่าง คือ การศึกษาพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ และ อีกประการหนึ่ง คือ การน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ซึ่งเป็นธรรมดาที่พระพุทธศาสนาจะเสื่อมไปตามกาลเวลา หากแต่ว่าเราผู้เป็นพุทธศาสนานิกชนที่ดี ที่เข้าใจพระธรรม ก็ไม่สนับสนุนการกระทำนั้น และ แนะนำคนที่รู้จักให้เข้าใจ รวมทั้งปฏิบัติตนในฐานะอุบาสก อุบาสิกา ที่ดี ด้วยการประพฤติให้ถูกต้องตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง และ ไม่ลืมกิจของตนที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาพระธรรม อบรมปัญญา เพื่อละกิเลสของตนเองเป็นสำคัญ ครับ

เชิญคลิกอ่านกระทู้เกี่ยวกับเรื่อง สงกรานต์ กับ พระพุทธศาสนาได้ดังนี้ ครับ

วันสงกรานต์ ... นึกถึงน้ำ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนที่เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ตั้งแต่ต้นจนถึงที่สุดโดยตลอด ไม่มีคำสอนแม้แต่บทเดียวที่ให้ไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ ด้วยความไม่เข้าใจ พระภิกษุสามเณรเป็นเพศบรรพชิตที่มีศรัทธา มีความจริงใจในการที่จะสละอาคารบ้านเรือน เพื่อมุ่งสู่เพศที่สูงยิ่ง เพื่อฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเองเป็นสำคัญ ไม่ใช่ว่าบวชเข้ามาแล้วจะทำอะไรก็ได้ จะทำเหมือนอย่างคฤหัสถ์ทุกอย่างก็ได้ อย่างนี้ ไม่ใช่ความเข้าใจที่ถูกต้อง เป็นการย่ำยีธรรมวินัย รวมถึงการจัดกิจกรรมรดน้ำในวันสงกรานต์ด้วย การจัดให้นำพระภิกษุสามเณรซึ่งปกติดี ไม่ป่วยอาพาธ มาให้คฤหัสถ์รดน้ำ ไม่มีในคำสอนทางพระพุทธศาสนาเลย ซึ่งถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจริงๆ ก็จะทำให้ล่วงละเมิดสิกขาบทได้โดยง่าย เป็นโทษแก่ตนเองโดยส่วนเดียว

กิจกรรมที่ควรทำและรักษาไว้ที่สุด คือ การสนทนาธรรม การฟังธรรม ไม่ใช่กิจกรรมอื่นใดที่ทำไปแล้วไม่ได้เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมและปัญญา แต่กลับเพิ่มพูนความไม่รู้ให้มากยิ่งขึ้น

กิจหน้าที่ของเพศบรรพชิต คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา น้อมประพฤติตามพระธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การศึกษาพระวินัยให้เข้าใจ ก็จะให้รู้ได้ถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติห้ามไว้และในส่วนที่พระองค์ทรงอนุญาต ก็จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลที่ดี ให้ได้กระทำเฉพาะในสิ่งที่ถูกที่ควร และ เว้นในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับเพศของตนซึ่งเป็นเพศที่สูงยิ่ง ถ้าย่อหย่อนไม่สำรวมตามพระธรรมวินัยย่อมมีแต่จะเพิ่มโทษคืออกุศลธรรมให้ตนเองโดยส่วนเดียวครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ ครับ

... ประเพณี กับ ความเข้าใจธรรมะ ...

... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

พระที่เคร่งครัดพระวินัยจะไม่จัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานวัด หรือ งานสงกรานต์ หรือ รดน้ำพระ เพราะผิดพระวินัย ไม่ใช่หน้าที่ของสงฆ์ กิจของสงฆ์ คือ คันถะธุระ และ วิปัสสนาธุระเท่านั้น ค่ะ

ขอบคุณครับ

ขออนุโมทนา

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ