พระโสดาบันไม่ล่วงศีล ๕ เลย แต่ยังมีความต้องการในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ผู้ที่ละความพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะอย่างหยาบได้ เป็นคุณธรรมของพระสกทาคามี และเมื่อผู้นั้นอบรมเจริญสติปัฏฐานต่อไป เป็นพระอนาคามี ผู้นั้นก็ดับความยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ท่านยังอยู่ในบ้าน ยังไม่ต้องละอาคารบ้านเรือนไปบวชเป็นบรรพชิต เมื่อใดบรรลุคุณธรรมเป็นพระอรหันต์ ท่านก็ละการเป็นผู้ครองเรือนในเพศของคฤหัสถ์โดยเด็ดขาด

เปิดฟัง ...

พระโสดาบันในเพศของคฤหัสถ์

ถ . ที่นางวิสาขาซึ่งเป็นพระโสดาบันบุคคลแล้วนั้น ยังยินดีในการเสพเมถุนอยู่ อย่างนี้จะเรียกว่า พระนางเจริญสติอะไร

สุ . วิสาขามหาอุบาสิกา เป็นพระโสดาบันในเพศของคฤหัสถ์ ไม่ล่วงศีล ๕ เลย ตามขั้นของคุณธรรม แต่ยังมีความต้องการในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ แต่ว่ายิ่งเป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติปัฏฐานมากเท่าไร ก็จะละความพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะอย่างหยาบได้ นี่เป็นคุณธรรมของพระสกทาคามีบุคคล และเมื่อผู้นั้นเป็นพระอริยบุคคลขั้นพระสกทาคามี และอบรมเจริญสติปัฏฐานต่อไป จนปัญญารู้แจ้งอริยสัจธรรม บรรลุคุณธรรมเป็นพระอนาคามีบุคคล ผู้นั้นก็ดับความยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการครองเรือนอีกเลย เป็นพระอนาคามีบุคคล ท่านยังอยู่ในบ้าน ยังไม่ต้องละอาคารบ้านเรือนไปบวชเป็นบรรพชิต สำหรับผู้ที่เป็นพระอนาคามีบุคคล

ต่อเมื่อใดท่านเจริญอบรมสติปัฏฐาน จนกระทั่งปัญญารู้แจ้งในอริยสัจธรรม บรรลุคุณธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว วิสัยของผู้ที่ไม่มีอนุสัยกิเลสเลย ย่อมไม่ใช่วิสัยของผู้ที่จะปะปนอยู่กับเรื่องของการครองเรือนอีกต่อไป ท่านก็ละการเป็นผู้ครองเรือนในเพศของคฤหัสถ์โดยเด็ดขาดเป็นสมุจเฉท โดยคุณธรรมที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าเป็นครั้งๆ คราวๆ กลับไปกลับมาด้วยการที่ไม่รู้จริง [ตอนที่ 259]

แต่ละคำองค์พระศาสดา จักศึกษาจนเข้าใจ หนักแน่นไม่หวั่นไหว ด้วยเข้าใจในอนัตตา กราบอาจารย์สุจินต์ให้ เมตตาได้ทุกเวลา อีกเปี่ยมความกรุณา น้อมศรัทธาอาจารย์เทอญ