ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๔๘
~ พระพุทธศาสนา หมายถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงตรัสรู้สิ่งที่มีจริง แล้วทรงแสดงความจริงเกื้อกูลให้สัตว์โลกได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง
~ วัด ไม่ใช่ที่อยู่ของคฤหัสถ์ แต่ต้องเป็นที่อยู่ของผู้ที่เข้าใจพระธรรมและก็สามารถที่จะดำรงชีวิตตามพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ว่า นี่คือชีวิตของพระภิกษุ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่สามารถดำรงชีวิตอย่างพระภิกษุ ที่นั่นใครจะอยู่ ก็ไม่ใช่วัด เพราะเหตุว่า ไม่ได้ศึกษาธรรม ไม่ได้เข้าใจธรรม
~ พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ตราบใดที่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังเป็นที่เคารพสักการะนับถือเพื่อศึกษาให้เข้าใจ พระพุทธศาสนายังดำรงอยู่ตราบเท่าที่ยังมีผู้ที่ได้เข้าใจคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ ความถูกต้องสมควร เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่ความผิด หรือ ความไม่ดี
~ ชีวิตประจำวัน พระธรรมก็แสดงให้เห็นถึงความชัดเจน ว่า อะไรเป็นบุญ อะไรเป็นบาป อะไรเป็นโทษ อะไรเป็นสิ่งที่ควรกระทำ อะไรเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ
~ พระพุทธศาสนา จะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยความเข้าใจพระธรรม ไม่ว่าจะเป็นใคร ในยุคสมัยไหน ไม่ว่าจะเป็นยุคของพระเจ้าอโศกมหาราช หรือ ในยุคต่อๆ มา แม้แต่ภิกษุที่ไม่เข้าใจธรรมก็ยังเป็นโจรและเป็นกบฏได้ เพราะฉะนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่สามารถจะดำรงพระพุทธศาสนาไว้ได้ ถ้าไม่มีความเข้าใจพระพุทธศาสนาจริงๆ แล้วจะพึ่งอะไรที่จะทำให้ประเทศชาติพ้นจากภาวะที่คับขันได้?
~ ถ้าในยุคนี้ไม่มีการศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจถูกต้อง ก็จะทำให้มีการกระทำให้พระพุทธศาสนาสูญหายล่มจมไปโดยที่ไม่เข้าใจพระธรรม
~ พระพุทธศาสนาเป็นคำสอนที่ทำให้เข้าใจถูกต้องว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควร อะไรไม่ควร
~ สิ่งไหนที่เราคิดว่ามีค่าที่สุด เราจะทำสิ่งนั้นก่อน เพราะฉะนั้น ไม่ใช่หมายความว่าชีวิตของเราอยู่ไป เราก็ทำหน้าที่ไปโดยที่ว่าไม่ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปด้วยความถูกต้อง เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นค่าอย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็ต้องไม่ละเลยที่จะเข้าใจธรรมแล้วก็รู้ว่าต้องเข้าใจธรรม ทุกอย่างจึงจะเป็นไปด้วยความถูกต้อง และตรงต่อพระธรรมด้วย
~ เป็นคนดีกันหรือเปล่า? ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่รู้เลย คิดว่าดี แต่ว่าความจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ว่าความไม่ดีที่ทุกคนมีและยังมีอยู่ จะหมดสิ้นไปได้อย่างไรถ้าไม่รู้ว่าไม่ดีอย่างไร ถ้าเรารู้ว่าเราดีแล้วเราจะแก้ไขอะไรไหม เพราะดีแล้ว? แต่เพราะเข้าใจถูกต้อง ว่า ไม่ดีตรงไหน และเห็นโทษของสภาพธรรมที่ไม่ดี นั้น ปัญญาที่เข้าใจอย่างนั้นก็จะนำมาสู่การแก้ไขให้ดีขึ้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับปัญญาความเข้าใจถูก ซึ่งไม่มีใครที่จะเข้าใจได้ถึงที่สุดอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ จึงต้องมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ถ้ากล่าวว่ามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง แต่ไม่ศึกษาพระธรรมแล้วจะมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งได้อย่างไร
~ อะไรที่มีค่าที่สุด ก็จะให้เวลากับสิ่งนั้น
~ ให้คนได้มีความเห็นถูกเข้าใจถูก จะได้ไม่ทำในสิ่งที่ผิด ทั้งผู้ที่เป็นบรรพชิตและคฤหัสถ์
~ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นยุคใด สมัยใดก็ตาม
~ ความไม่รู้ ไม่สามารถจะไปแก้ปัญหาอะไรได้ นอกจากจะพอกพูนความไม่รู้ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
~ เป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจให้ถูกต้อง จะได้ไม่ไปทำในสิ่งที่ผิดอันเนื่องมาจากการไม่ได้เข้าใจธรรม
~ บวช ด้วยความไม่รู้ เป็นแสนๆ รูป ก็บาปเป็นแสนๆ รูป
~ ถ้าใครคิดที่จะเปลี่ยนแปลงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้นั้นไม่มีความเคารพยำเกรงในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ถ้าทุกคนเห็นคุณค่าของคำแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็รู้ว่าคิดเองไม่ได้ ก็จะทำให้สิ่งที่ผิดๆ ค่อยๆ หมดไป
~ จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนทางเดียว คือ ฟังคำของพระองค์แล้วมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปทำอย่างอื่น
~ ถ้าพระภิกษุไม่ศึกษาพระธรรม ไม่เห็นคุณของพระวินัย จึงประพฤติตามไม่ได้ แต่ถ้าได้ศึกษาพระธรรมและเห็นคุณค่าของพระวินัยแล้วก็จะประพฤติตามพระวินัย ไม่คิดที่จะละเมิดหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขพระวินัย สิ่งที่มีค่า แล้วจะกลับทำให้เป็นสิ่งที่ไม่มีค่าได้หรือ?
~ ถ้าผู้ใหญ่ของเราทั้งประเทศ เริ่มเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาและศึกษาให้ถูกต้อง เด็กเยาวชนก็ต้องได้รับความถูกต้องด้วย เพราะผู้ใหญ่เข้าใจถูกต้องแล้ว แต่ถ้าผู้ใหญ่ไม่ได้ศึกษาให้เข้าใจแล้วเด็กเยาวชนจะเอาความถูกต้องมาจากไหน เราก็มีแต่หวังว่าอยากให้เยาวชนศึกษาธรรม แต่ว่าเยาวชนจะได้ความเข้าใจจากไหน ถ้าผู้ใหญ่ไม่ได้เข้าใจก่อน เพราะฉะนั้น พระพุทธศาสนาก็เป็นเรื่องสำหรับทุกวัยที่สะสมมา บังคับเขาไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเขาสะสมมาพอที่จะเห็นประโยชน์หรือไม่
~ ชาตินี้ไม่สนใจที่จะฟังพระธรรมที่จะศึกษาให้เข้าใจให้ถูกต้อง แล้วชาติต่อไปก็คงจะเหมือนชาตินี้ ถ้าไม่เริ่มสนใจที่จะฟังที่จะศึกษาให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น
~ กุศลดีงาม อกุศลไม่ดีงาม ถ้าปัญญาสามารถที่จะเข้าใจถูกเห็นถูก ว่า อะไรเป็นประโยชน์ แล้ว ปัญญานำไปในกุศลทั้งปวง ก็ไม่มีทางที่ (คนใน) ประเทศชาติ จะทุจริตเพิ่มขึ้น ถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น
~ ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ก็มีแต่ความโลภ ความติดข้อง ซึ่งนำมาซึ่งทุจริตต่างๆ
~ แก้ปัญหาเผินๆ ด้วยความไม่รู้ แก้ไม่สำเร็จ แต่ถ้ามีความเข้าใจพระธรรม มีความเข้าใจที่มั่นคงเพิ่มขึ้น คนดีเพิ่มขึ้น คนชั่วน้อยลง ประเทศชาติก็เจริญมั่นคงขึ้น
~ เป็นคนนี้ได้ชาตินี้ชาติเดียว ตายไปแล้วเป็นคนนี้อีกต่อไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะตาย เป็นคนดี ดีกว่าไหม และเข้าใจความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริงในโลกตามความเป็นจริง
~ ไม่มีทางรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระองค์ ถ้าได้ฟังคำของพระองค์ พอเข้าใจแล้วก็เริ่มรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งเห็นพระคุณและปัญญามหาศาล
~ มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งให้เกิดปัญญา ซึ่งเงินซื้อไม่ได้ แต่ต้องเป็นธรรมเตชะ (เดชแห่งธรรม) คือ คำของพระองค์ ซึ่งก่อนจะได้ฟัง ไม่มีความเข้าใจอะไรเลย แต่พอได้ฟังแล้วก็จะเห็นได้ว่า แต่ละคำของพระองค์นำมาซึ่งความเข้าใจขึ้นๆ เป็นคำจริงที่สามารถที่จะฟัง พิจารณาไตร่ตรองจนกระทั่งสิ่งที่ไม่เคยเกิดในสังสารวัฏฏ์ ก็เกิดได้ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก
~ วิกฤต (ความเสื่อมอย่างหนัก) ที่มองไม่เห็น คือ ความไม่เข้าใจพระพุทธศาสนา แล้วจะไม่วิกฤตหรือ? เมื่อไม่เข้าใจแล้ว อะไรตามมา? ทุกอย่างที่ไม่ถูกต้อง ตามมา
~ ต้องรู้เลยว่า การเป็นภิกษุมีประโยชน์เมื่อเข้าใจธรรม แต่ถ้าไม่เข้าใจธรรม นำมาซึ่งความเสื่อมจนวิกฤต
~ การที่จะบวช ต้องเป็นผู้ที่เห็นคุณของการที่จะสละเพศคฤหัสถ์ มีความมั่นคงที่จะไม่ติดข้อง ไม่ทำกิจของคฤหัสถ์ ไม่รับเงินรับทอง ไม่มีทรัพย์สมบัติเหมือนอย่างคฤหัสถ์ เพราะว่าชีวิตของพระภิกษุ อุทิศชีวิตแก่การที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต โดยต้องเข้าใจธรรม เพราะฉะนั้น มีการฟังธรรมศึกษาธรรม เพราะความเข้าใจเท่านั้นที่จะขัดเกลากิเลสได้ ที่สามารถที่จะเห็นคุณของการที่จะเป็นภิกษุที่จะดำรงชีวิตตามสิกขาบท (สิ่งที่จะต้องศึกษาและน้อมประพฤติตาม) ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ถ้าเป็นอย่างนี้ ไม่มีทางวิกฤต (ไม่มีทางที่จะเสื่อมหนักอย่างนี้)
~ ประโยชน์ของการศึกษาพระธรรมเพื่อเข้าใจถูก เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า เพื่อความเข้าใจถูก เพราะจะได้น้อมประพฤติปฏิบัติตามที่ได้เข้าใจ แต่ถ้าไม่เข้าใจ ก็นำไปสู่ความไม่เข้าใจ
~ พุทธบริษัท คือ ผู้ที่มีโอกาสได้ยินได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความมั่นคงที่จะเห็นคุณค่าว่าเป็นที่พึ่งจริงๆ ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง แล้วก็ต้องเป็นผู้ที่ตรงด้วยว่า เราจะช่วยกันดำรงรักษาสิ่งที่มีค่าสูงสุดนี้ หรือว่าเพิกเฉย? เพราะว่าเรายังมีโอกาสได้ฟังแล้วทำไมไม่ทำให้คนอื่นเขาได้มีโอกาสได้ฟังต่อไปในอนาคตด้วย เพราะฉะนั้น ก็เป็นสิ่งที่ตรง ทุกอย่างที่ทำ ทำเพื่อความถูกต้อง และ เพื่อประโยชน์
~ รู้ไหมว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสงค์อะไรจากพุทธบริษัท พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมี (คุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) สี่อสงไขยแสนกัปป์ เพื่อจะรู้ความจริง เพื่อคนอื่นจะได้เข้าใจความจริงตามที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้ด้วย ไม่ได้ต้องการอย่างอื่นใดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีการศึกษาพระธรรม ก็เท่ากับว่าเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ไม่มีคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะไม่ศึกษา
~ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ ละความไม่รู้
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๔๗

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
แต่ละคำองค์พระศาสดา จักศึกษาจนเข้าใจ หนักแน่นไม่หวั่นไหว ด้วยเข้าใจในอนัตตา กราบอาจารย์สุจินต์ให้ เมตตาได้ทุกเวลา อีกเปี่ยมความกรุณา น้อมศรัทธาอาจารย์เทอญ