ขอเรียนถามเรื่อจักขุปสาทรูปกับจักขุวัตถุและจักขุวิญญาณจิตดังนี้ครับ

1. ในขณะหนึ่งมีจักขุปสาทรูปเกิดดับกลาปเดียวหรือหลายกลาป

2. จักขุวิญญาณดวงหนึ่งที่อาศัยจักขุวัตถุเกิดขึ้นนั้น อาศัยจักขุปสาทรูปกลาปเดียว หรือหลายกลาปจึงเกิดขึ้นทำกิจเห็นได้

3. จักขุวิญญาณจิตดวงหนึ่งเกิดขึ้นเห็นวรรณรูปทีละกลาปหรือเห็นวรรณรูป หลายกลาปพร้อมกัน

4. ทางโสตทวารและปัญจทวารอื่นๆ เป็นเช่นเดียวกันหรือไม่ครับ

๑. กรรมชรูป รวมถึงจักขุปสาทเกิดทุกอนุขณะของจิตครับ ดังนั้น ขณะจิตหนึ่งเกิดได้ ๓ กลาป

๒. อาศัยจักขุปสาทรูปกลาปเดียว ก็เห็นได้

๓. ถึงขนาดเห็นได้ควรจะมีหลายกลาป.. (ยังไม่พบหลักฐานครับ)

๔. ถูกครับ

ศึกษาพระอภิธรรมเพื่อเข้าใจความจริงว่าเป็นธรรมและเกื้อกูลต่อการเข้าใจสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ มั่นคงในหนทางว่าศึกษาเพื่อเข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ขณะนี้เอง !

ขออนุโมทนา กับ k. study ,k.barame ด้วยค่ะ

การที่จะรู้ถึงในขณะหนึ่ง มีจักขุปสาทรูปเกิดดดับกลาปเดียวหรือหลายกลาป เป็นพระปัญญาของพระพุทธองค์ ซึ่งเราเข้าใจตามได้ แต่สิ่งที่สำคัญในการศึกษาพระอภิธรรมนั้น คือขณะนี้เดี๋ยวนี้ อะไรเป็นธรรมะขณะเห็น ขณะได้ยิน....เป็นต้นว่า จิตเห็นเป็นธรรมะ สิ่งที่ปรากฏทางตาก็เป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา สัตว์ บุคคล ตัวตน

อย่าลืมว่าจุดประสงค์เราศึกษาอภิธรรม จิต เจตสิก รูป เพื่อให้เข้าถึงธรรมะในขณะนี้ที่มีจริง ที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน แต่เป็นหน้าที่ของจิต เจตสิก รูป ที่เกิดดับทุกขณะอย่างรวดเร็วค่ะ

๑. จักขุปสาทรูป คือรูปที่เกิดจากกรรม เกิดทุกอนุขณะของจิตค่ะ

๒. อาศัยจักขุปสาทรูปที่ยังไม่ดับค่ะ

๓. เห็นรูปที่มาสู่คลองของจักขุ ไม่ใช่กลาปเดียว หลายกลาปค่ะ

๔. แล้วแต่รูปที่มาสู่คลองของทวารนั้นๆ ค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในคำตอบและคำแนะนำเพิ่มเติมของทุกท่านครับ

อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 2 โดย baramees

ศึกษาพระอภิธรรมเพื่อเข้าใจความจริงว่าเป็นธรรมและเกื้อกูลต่อการเข้าใจสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ มั่นคงในหนทางว่าศึกษาเพื่อเข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราขณะนี้เอง!

ขอกราบอนุโมทนา