ทุกขณะเป็นอย่างนั้น คือเกิดแล้วก็ดับไปทันที ต้องการอย่างนี้หรือเปล่า ต้องการว่างอย่างนี้หรือเปล่า ว่างคือว่างจากความเป็นเรา ความเป็นตัวตน แต่ต้องเป็นปัญญาที่สามารถที่จะเห็นความจริงนี้ได้ เพราะเหตุว่ายังคงเป็นเราที่เข้าใจ ยังเป็นเราที่คิดอย่างนี้ แต่ว่ายังไม่ใช่การรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง ขณะนั้นต้องเป็นปัญญาอีกระดับหนึ่ง
รับฟัง ...
จิตว่างหมายความถึงอะไรอย่างไร
ขอสนทนาเรื่องจิตว่างอีกสักนิด คือว่าไม่อยากจะปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปโดยที่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไรแล้วสับสน ถ้าใครใช้คำว่าจิตว่าง น่าจะถามว่า ว่างอย่างไร แต่ว่าโดยมาก เมื่อได้ยินคำว่าจิตว่าง อยากว่างแล้วใช่ไหม คล้ายๆ กับเหน็ดเหนื่อย จิตทำงานทั้งวันยุ่งมาก เบื่อเหลือเกิน เมื่อไหร่จะจิตว่าง เข้าใจว่าดีใช่ไหม แต่ขณะที่ว่างก็ไม่มีปัญญาใช่ไหม เพราะว่าง ดีไหม
อ.อรรณพ หมายความว่าว่างจากปัญญาหรือ
ท่านอาจารย์ คือถ้าใช้คำว่าจิตว่าง ก็ควรที่จะได้เข้าใจให้ถูกต้องว่าหมายความถึงอะไรอย่างไร ไม่เช่นนั้นเราก็ใช้คำที่ไม่ทราบว่าหมายความถึงอะไร เพราะฉะนั้นคนทั่วไปพอได้ยินคำว่าจิตว่าง อยากจิตว่าง แต่ไม่รู้ว่าจิตว่างคืออะไร แต่ถ้าจิตว่าง จริงๆ ขณะนั้นก็ต้องไม่มีปัญญาด้วย เพราะว่าง ถ้าว่างแล้วจะมีปัญญาได้อย่างไร และจะเอาไหมจิตอย่างนั้น
อ.สุภีร์ กล่าวคำว่า ว่าง ในภาษาไทยไปแล้ว ผมจะกล่าวคำว่า ว่าง ในภาษาบาลีบ้าง ภาษาบาลีที่แปลว่าว่าง มาจากคำว่าสุญญตาแปลว่าความว่าง ไม่ใช่จิตอย่างเดียวที่เป็นสุญญตา อันนี้ไม่เกี่ยวกับภาษาไทยแล้ว เป็นภาษาบาลีที่แปลกันออกมา ปกติก็จะแปลว่าเป็นของว่างเปล่า สุญญตา ไม่ใช่เฉพาะจิตอย่างเดียวที่เป็นสุญญตาทั้งจิต เจตสิก รูป ทั้งหมดเป็นสุญญตาทั้งหมด คือในขณะนี้ก็เป็นจิต เจตสิก รูป เป็นสุญตา ก็คือเป็นสิ่งที่ว่างเปล่าจากความเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล ขณะนี้ทุกๆ ท่านมีจิต เจตสิก เกิดขึ้นกระทำหน้าที่กิจการงานต่างๆ มีจิตที่เกิดขึ้นเห็น ไม่ใช่เราเห็น ฉะนั้นจิตเป็นสุญตา ก็คือ จิตนี้ว่างเปล่าจากความเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล จากการที่ใครจะสามารถบังคับบัญชาได้ เจตสิกก็เหมือนกันเกิดขึ้นทำกิจทำกิจหน้าที่การงาน ไม่มีเราเลย รูปก็เช่นเดียวกันทั้งจิต เจตสิก รูป เป็นของว่างเปล่า เรียกว่าสุญตา ไม่ใช่เฉพาะจิตอย่างเดียวที่เป็นของว่างเปล่า ซึ่งตามภาษาบาลีที่ส่วนใหญ่ก็นิยมแปลกันว่าเป็นของว่างเปล่าก็คือแปลมาจากคำว่าสุญญตานั่นเอง ก็คือสภาพธรรมทุกอย่างเป็นสุญญตาเพราะว่าไม่มีสัตว์บุคคลตัวตน ไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาอะไรได้
ท่านอาจารย์ ได้ฟังอย่างนี้แล้วต้องการไหมสุญญตา ว่าง แต่ตามความจริงก็คือว่างจริงๆ เพราะเหตุว่าไม่ใช่เรา เพียงเกิดปรากฏแล้วหมดไปเลย ไม่เหลือ สิ่งที่เกิด แล้วดับแล้วจะไม่กลับมาอีกเลย เพราะฉะนั้นทุกขณะไม่มีอะไรเหลือที่จะเป็นของเก่าของเดิมเลย แม้แต่เห็นที่กำลังเห็นขณะนี้ ก็ไม่ใช่เห็นตอนที่เพิ่งเข้ามาในห้องนี้แล้วเห็น เพราะฉะนั้นทุกขณะนี้ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริงเพราะว่าเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับหมดไปๆ แล้วทุกอย่างไม่มีอะไรเหลือเลย คืนนี้ก็คงจะเป็นอย่างนี้ใช่ไหม ไม่เหลืออะไร วันนี้จบแล้ว แต่ว่าจริงๆ แล้วทุกขณะเป็นอย่างนั้น คือเกิดแล้วก็ดับไปทันที ต้องการอย่างนี้หรือเปล่า ต้องการว่างอย่างนี้หรือเปล่า ว่างคือว่างจากความเป็นเรา ความเป็นตัวตน แต่ต้องเป็นปัญญาที่สามารถที่จะเห็นความจริงนี้ได้เพราะเหตุว่ายังคงเป็นเราที่เข้าใจ ยังเป็นเราที่คิดอย่างนี้ แต่ว่ายังไม่ใช่การรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง ขณะนั้นต้องเป็นปัญญาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งจะเกิดต่อเมื่อมีความเข้าใจถูกต้องมั่นคงในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่าเป็นสิ่งที่มีจริงเกิดแล้วดับ ยิ่งฟังยิ่งเข้าใจ ยิ่งเป็นสัจจญาณที่มั่นคงว่า ปัญญาสามารถที่จะประจักษ์ความจริงในขณะนี้จึงจะเป็นปัญญาขั้นที่เป็นอริยสัจธรรม เพราะเหตุว่าสามารถที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรมตามความเป็นจริงที่กำลังเกิดดับได้ [สนทนาธรรมที่รัฐสภา ตอนที่ 065]
ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา