การจับด้ามมีด ด้ามมีดจะสึกเพราะการจับ
โดย บ้านธัมมะ  20 ก.ย. 2550
หัวข้อหมายเลข 4853

การจับด้ามมีด

ลองจับด้ามมีด เมื่อจับนานๆ เข้าด้ามมีดจะสึกเพราะการจับ แต่ขณะที่จับครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ร้อยที่พันไม่เห็นด้ามมีดสึกเลย ต่อเมื่อไหร่ที่ด้ามมีดสึกแล้วเมื่อนั้นจึงจะรู้สึกว่าสึกเพราะการจับ อวิชชาความไม่รู้หรือการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนที่จะค่อยๆ คลาย ค่อยๆ หมดไปได้เพราะสติระลึกแล้วระลึกอีกจนกว่าปัญญาจะค่อยๆ รู้ขึ้นเจริญขึ้น จนกระทั่งสามารถที่จะดับความเห็นผิด ความไม่รู้ในลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมได้ แต่ต้องคิดถึงความอดทนของคนจับด้ามมีด ถ้าไม่อดทน จับสักร้อยปีด้ามมีดอาจจะยังไม่สึกก็ได้ แต่จับต่อไปอีกวันหนึ่งก็ต้องสึกได้
จากหนังสือ บทบาท อ.สุจินต์ ในการเผยแผ่พุทธธรรมโดย พระธนนาถ นิธิปญฺโญ



ความคิดเห็น 1    โดย พุทธรักษา  วันที่ 20 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย wannee.s  วันที่ 20 ก.ย. 2550

ขณะที่ฟังธรรมเข้าใจ หรือสติปัฏฐานเกิด ขณะนั้นเริ่มจับด้ามมีดค่ะ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 3    โดย Komsan  วันที่ 20 ก.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 20 ก.ย. 2550

สึกไม่สึกเป็นเรื่องของปัญญานะ


ความคิดเห็น 5    โดย ครูโอ  วันที่ 21 ก.ย. 2550

สึกเมื่อไร รู้ได้ด้วยปัญญาขั้นสูงเมื่อนั้นขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย พุทธรักษา  วันที่ 22 ก.ย. 2550

ขอเรียนถามท่านวิทยากร

มีคาถาไหนในพระไตรปิฎกที่กล่าวถึงคำว่า "การจับด้ามมีด" ถ้ามี..กรุณาแนะนำด้วยค่ะ.


ความคิดเห็น 7    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 22 ก.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้าที่ 34

นาวาสูตร ว่าด้วยความสิ้นและไม่สิ้นไปแห่งอาสวะ

[๒๖๐] กรุงสาวัตถีฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราตถาคต กล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายของภิกษุผู้รู้อยู่เห็นอยู่ไม่กล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ของภิกษุผู้ไม่รู้อยู่ ไม่เห็นอยู่ ภิกษุทั้งหลายเมื่อรู้ เมื่อเห็นอะไร จึงมีความสิ้นอาสวะ เมื่อบุคคลรู้รูปอย่างนี้ การเกิดขึ้นแห่งรูปอย่างนี้ ความดับสูญไปแห่งรูปอย่างนี้ เวทนาอย่างนี้...สัญญาอย่างนี้... สังขารอย่างนี้...วิญญาณอย่างนี้ ความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณอย่างนี้ความดับสูญไปแห่งวิญญาณอย่างนี้ (จึงมีความสิ้นไปแห่งอาสวะ) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลรู้อยู่ เห็นอยู่ อย่างนี้แล จึงมีความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย.


ความคิดเห็น 8    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 22 ก.ย. 2550

[๒๖๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุไม่ประกอบเนืองๆ ซึ่งภาวนานุโยคอยู่ ถึงจะเกิดความปรารถนาว่าไฉนหนอ จิตของเราพึงหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ยึดมั่นก็จริง แต่ที่แท้จิตของเขาก็ไม่หลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ยืดมั่นได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไรข้อนั้นพึงกล่าวได้ว่าเพราะไม่ได้อบรมแล้ว เพราะไม่ได้อบรมอะไรเพราะไม่ได้อบรมสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์๗ (และ) มรรคมีองค์ ๘ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายฟองไข่ของแม่ไก่ ๘ ฟองบ้าง ๑๐ ฟองบ้าง ๑๒ ฟองบ้าง ที่แม่ไก่ไม่ได้นอนทับไม่ได้กกไม่ได้ฟัก ถึงแม่ไก่นั้นจะเกิดความปรารถนาอย่างนี้ขึ้นว่าไฉนหนอ ลูกของเรา จะพึงใช้ปลายเล็บเท้า หรือจะงอยปาก เจาะกะเปาะฟองออกมาโดยสวัสดี ก็จริงแล แต่ทว่าไม่ควรที่ลูกไก่เหล่านั้นจะใช้ปลายเล็บเท้า หรือจะงอยปาก เจาะกะเปาะฟองออกมาโดยสวัสดีได้ข้อนั้นเพราะเหตุไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะว่าฟองไข่ ของแม่ไก่๘ ฟอง ๑๐ ฟองหรือ ๑๒ ฟองแม่ไก่ไม่ได้นอนทับ ไม่ได้กกไม่ได้ฟักเลย ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุไม่ได้ประกอบเนืองๆ ซึ่งภาวนานุโยคอยู่ ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล ถึงจะเกิดความปรารถนาอย่างนี้ว่าไฉนหนอ จิตของเรา จะพึงพ้นจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ยึดมั่น ก็จริงแล แต่ที่แท้ จิตของเธอจะไม่หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ยึดมั่นได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร ข้อนั้นพึงกล่าวได้ว่า เพราะไม่ได้อบรมแล้ว เพราะไม่ได้อบรมอะไร เพราะไม่ได้อบรมสติปัฏฐาน ๔


ความคิดเห็น 9    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 22 ก.ย. 2550

สัมมัปปธาน๔ อิทธิบาท๔ อินทรีย์๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ และมรรคมีองค์ ๘ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุประกอบเนืองๆ ซึ่งภาวนานุโยคอยู่ ถึงจะไม่เกิดความปรารถนาขึ้นอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ จิตของเรา จะพึงพ้นจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ยึดมั่นก็จริงแลถึงกระนั้น จิตของเธอก็จะหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ยึดมั่นได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร ข้อนั้นพึงกล่าวได้ว่า เพราะได้อบรมแล้วเพราะได้อบรมอะไร เพราะได้อบรม สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์๕ พละ๕ โพชฌงค์ ๗ และ มรรคมีองค์๘ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาฟองไข่ ๘ ฟอง ๑๐ ฟอง หรือ ๑๒ ฟอง ที่แม่ไก่นอนทับแล้ว กกแล้ว ฟักแล้ว ถึงแม้แม่ไก่นั้น จะไม่พึงเกิดความปรารถนาอย่างนี้ว่าไฉนหนอ ลูกของเราจึงจะใช้ปลายเล็บเท้าหรือจะงอยปาก ทำลายกะเปาะฟองออกมาโดยสวัสดี ก็จริงแล แต่ทว่าลูกไก่เหล่านั้น ควรจะใช้ปลายเล็บเท้าหรือจะงอยปาก ทำลายกะเปาะฟองออกมาโดยสวัสดี ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะว่าฟองไข่ ๘ ฟอง ๑๐ ฟองหรือ ๑๒ ฟอง แม่ไก่ได้นอนทับได้กก ได้ฟักมาแล้วอย่างนั้น แม้ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุประกอบเนืองๆ ซึ่งภาวนานุโยคอยู่ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่เกิดความปรารถนาขึ้นอย่างนี้ว่าไฉนหนอ จิตของเราจะพึงพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ยึดมั่นก็จริงแล แต่จิตของเธอก็จะพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ยึดมั่น ข้อนั้นเพราะเหตุไร ข้อนั้นพึงกล่าวได้ว่าเพราะได้อบรมแล้วถามว่าเพราะได้อบรมอะไร แก้ว่า เพราะได้อบรม สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ (และ) มรรคมีองค์ ๘


ความคิดเห็น 10    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 22 ก.ย. 2550

[๒๖๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลายรอยนิ้วมือหรือรอยหัวแม่มือของช่างไม้หรือลูกมือของช่างไม้ย่อมปรากฏด้ามมีดให้เห็น แด่ว่าช่างไม้ หรือลูกมือของช่างไม้นั้นหารู้ไม่ว่า วันนี้ ด้ามมีดของเราสึกไปเท่านี้ วานนี้สึกไปเท่านี้ วานซืนนี้สึกไปเท่านี้ มีความรู้แต่เพียงว่าด้ามมีดนั้นสึกๆ แม้ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลายภิกษุประกอบเนืองๆ ซึ่งภาวนานุโยคอยู่ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่มีความรู้อย่างนี้ว่าวันนี้ อาสวะทั้งหลายของเราสิ้นไปเท่านี้ วานนี้สิ้นไปเท่านี้ วานซืนนี้สิ้นไปเท่านี้ก็จริง แต่เธอก็รู้ว่าสิ้นไปแล้วๆ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อเรือเดินสมุทร ที่เขาผูกด้วยเชือกผูกคือหวาย แช่อยู่ในน้ำ๖เดือน ในฤดูหนาวลากขึ้นบก เชือกคือหวายที่ถูกลมและแดดพัดเผา ถูกเมฆฝนตกชะรดก็จะเปื่อยผุไป โดยไม่ยากฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเมื่อภิกษุประกอบเนืองๆ ซึ่งภาวนานุโยคอยู่ก็ฉันนั้นเหมือนกัน สัญโญชน์ก็จะเสื่อมสิ้นไปโดยไม่ยากเลย.

จบ นาวาสูตรที่ ๙

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


ความคิดเห็น 11    โดย พุทธรักษา  วันที่ 24 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนาท่านวิทยากรที่กรุณานำข้อความในพระสตูรมาแสดง เข้าใจว่า อุปมาในการจับด้ามมีดหมายถึง การศึกษาอย่างถูกต้องปฏิบัติ (เจริญสติ) อย่างถูกต้อง เป็นเรื่องของการอบรมที่ไม่คำนึงถึงระยะเวลา แต่เมื่อเหตุสมควรแก่ผล ผู้อบรม (เจริญสติ) ย่อมรู้ผลจากการอบรม (เจริญสติ) ได้เอง

สรุป คือ ขาดการฟังธรรม อันเป็นปัจจัยเกื้อกูลในการอบรม (เจริญสติ) ไม่ได้เลยในฐานะที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่


ความคิดเห็น 12    โดย chatchai.k  วันที่ 26 มิ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ