เมื่อไม่รู้ ก็ชื่อว่า หลงลืมสติ
โดย Guest  21 ม.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 2679

จากการบรรยาย ชุด เทปวิทยุ ครั้งที่ 501

สำหรับทุกท่าน ไม่ว่าท่านจะอยู่ในสถานที่ใดก็ตาม ทุกท่านมีตา มีหู มีจมูก​ มีลิ้น มีกาย มีใจ ท่านไม่ใช่เห็นอย่างเดียว โดยไม่ได้ยิน โดยไม่ได้กลิ่น โดยไม่ได้รู้รส โดยที่ไม่ได้รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นผู้ที่เจริญสติ ขณะที่ตาเห็น ไม่รู้ลักษณะของนามและรูปทางตา จะชื่อว่า​หลงลืมสติ หรือ เจริญสติ​ เมื่อไม่รู้ก็ชื่อว่า หลงลืมสติ ทางหู ถ้าท่านไม่รู้นามรูปทางหู จะชื่อว่าหลงลืมสติหรือ เจริญสติ ก็ต้องชื่อว่า ท่านหลงลืมสติอีกแล้ว​ เพราะฉะนั้น ท่านก็หลงลืมสติทางตา ทางหู พอถึงทางจมูก ก็จะไม่ระลึกรู้ จะระลึกเฉพาะบรรพเดียวในกายานุปัสสนาสติปัฏฐานเท่านั้น ไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงเลยท่านจะไม่ชื่อว่าเป็นผู้เจริญสติเลย ท่านจะเป็นผู้ที่ชื่อว่า หลงลืมสติทั้งทางตา ทางหู​ ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย​ ทางใจ ท่านก็จะมีการจดจ้องอยู่เฉพาะบรรพหนึ่งในสติปัฏฐานหมวดหนึ่ง ที่ท่านคิดว่า ถ้าท่านเพียงรู้สิ่งนั้น ท่านก็จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้โดยความเป็นจริงแล้ว ท่านเป็นผู้หลงลืมสติทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น​ ทางกาย ทางใจ ไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงตามปกติเลยไม่ชื่อว่าท่านเป็นผู้เจริญสติ​ ไม่ชื่อว่า เป็นผู้ที่รู้ยิ่ง



ความคิดเห็น 1    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 21 ม.ค. 2550

ขณะจดจ้องมิใช่สติ แต่เป็นโลภะที่ต้องการจดจ้อง แต่ไม่มีปัญญารู้เลยว่าเป็นธัมมะ​ สติเป็นอนัตตา แล้วแต่เหตุปัจจัยที่สติจะระลึกสภาพธัมมะใดก็ได้ดังนั้น จึงไม่มีการเลือกเจาะจง ว่าจะเจริญ กายยา เวทนา จิตตา และธัมมานุปัสสนา แต่แล้วแต่สตินะครับ ว่าจะระลึกเป็นไปในหมวดไหน เป็นเรื่องของการละตั้งแต่ต้นครับ

อนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย saowanee.n  วันที่ 22 ม.ค. 2550

" ...กาย (เวทนา จิต ธรรม) มีอยู่ ก็เพียงแค่อาศัยระลึกเท่านั้น..." เป็นข้อความสั้นๆ แต่ลึกซึ้งมากนะคะ เมื่อหลงลืมสติ ชีวิตในวันนึงๆ ก็เหมือนอยู่ในความฝัน เพราะความจริงไม่ปรากฎ


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 6 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ