ไปปฏิบัติธรรม
โดย oom  3 ธ.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 5743

วันที่ ๖ -๑๖ ธันวาคม๕๐ ตั้งใจไปปฏิบัติธรรมเพื่อถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อชำระล้างกิเลสของตัวเองให้เบาบ้าง เพราะตั้งใจว่า จะไปปฏิบัติธรรมรักษาศีลปีละ ๑ ครั้ง ซึ่งในชีวิตประจำวันก็ปฏิบัติอยู่ แต่ศีลไม่ค่อยบริสุทธิ์ เท่ากับไปถือบวชเนกขัมมะ ถึงแม้จะเป็นในช่วง ระยะเวลาสั้นๆ ก็คิดว่าได้สะสมบุญเพิ่มขึ้นเท่าที่มีโอกาส อำนวย



ความคิดเห็น 1    โดย ไตรสรณคมน์  วันที่ 4 ธ.ค. 2550

ปฏิบัติธรรมขึ้นอยู่กับความเข้าใจ ไม่ใช่สถานที่ ขณะใดที่สภาพจิตเป็นกุศล ขณะนั้นเป็นบุญ


ความคิดเห็น 2    โดย oom  วันที่ 4 ธ.ค. 2550

ใช่ค่ะ แต่สถานที่ก็มีส่วนสำคัญ เพราะเคยอ่านในพระอภิธรรมบอกว่า การปฏิบัติจะได้ผลดี สถานที่ต้องสัมปายะด้วย เช่น ไม่อยู่ในชุมชน ที่มีคนพลุกพล่าน หรืออยู่ไกลเกินไปการไปมาไม่สะดวก


ความคิดเห็น 3    โดย ไตรสรณคมน์  วันที่ 4 ธ.ค. 2550

ถ้าเข้าใจลักษณะของสภาพจิตว่า ขณะใดเป็นกุศล ขณะใดเป็นอกุศล และเพราะเหตุใด ก็จะตอบคำถามตรงนี้ได้ค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 5 ธ.ค. 2550

การศึกษาพระธรรมคำสอนต้องสอดคล้องกันทั้งสามปิฎก การอ้างข้อความบางตอน โดย ขาดความรู้ความเข้าที่แท้จริงจะเป็นอันตรายต่อตนเอง ดังคำกล่าวที่ว่าหากศึกษาพระธรรมผิด ก็เหมือนจับงูพิษข้างหางนั่นเทียว ก็ในเมื่อหลักอนัตตาเป็นหลักใหญ่ในคำสอน เมื่อธรรมทั้งปวง (ไม่เว้นเลย) เป็นอนัตตา (บังคับบัญชามิได้) ดังนั้น การจะมีใคร ไปปฏิบัติธรรมจึงค้านกับหลักธรรมดังกล่าวตั้งแต่ต้น นี่คือ เหตุผลที่ว่า เพราะเหตุใดการศึกษาต้องเป็นไปตามลำดับขั้น (ข้ามขั้นไม่ได้) นั่นคือ ปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ ดังนั้น ผู้ศึกษาธรรมจึงไม่ควรใจร้อนเร่งรีบที่ จะไปปฏิบัติใดๆ ก่อนการศึกษาให้เข้าใจก่อน ทั้งนี้ ย่อมแน่นอนว่าไม่มีใครที่ห้ามใครไปปฏิบัติ แต่หากศึกษาธรรมอย่างเข้าใจในหลักการที่ถูกตั้งแต่ต้นย่อมรู้ว่า ไม่มีใครที่..จะ..ไป..ปฏิบัติ เป็นหน้าที่ของธรรมทั้งสิ้นที่ปฏิบัติ และก็ไม่ใช่ที่ไหนๆ เสียด้วย แต่เป็นที่นี่และเดี๋ยวนี้เอง ขออนุโมทนาในความสนใจใน ธรรมของท่าน และขอชวนให้ท่านฟังธรรมในเวปนี้ซึ่งมีหลากหลายหัวข้อธรรมให้ท่าน ได้ศึกษาร่วมกันนะครับ


ความคิดเห็น 7    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 5 ธ.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สัปปายะ
แน่นอนครับ สถานที่ก็มีส่วนในการปฏิบัติเช่นกัน แต่หากขาดความเข้าใจเบื้องต้นในขั้นการฟังแล้วว่าธรรมคืออะไร อยู่ในขณะไหน ธรรมเป็นอนัตตาบังคับบัญชาไม่ได้ หากขาดความเข้าใจเบื้องต้น (ปริยัติ) แล้ว ปฏิบัติหรือสติและปัญญาจะเกิดได้ไหม ไม่ว่า สถานที่ใดก็ตาม หากขาดความเข้าใจเบื้องต้น แต่เมื่อมองมุมกลับ คนที่เริ่มมีความเข้าใจธรรมเบื้องต้น ขั้นการฟังว่า ทุกอย่างเป็นธรรม อยู่ในขณะนี้ ไม่ต้องไปหาธรรม สติและปัญญาเป็นธรรมและเป็นอนัตตาบังคับบัญชาไม่ได้ เมื่อมีความเข้าใจมั่นคงขึ้น ไม่ว่าอยู่สถานที่ใด ถ้าสติและปัญญาเกิด ธรรมปฏิบัติหน้าที่ สถานที่ที่สติและปัญญาเกิด (สติปัฏฐาน) ที่ๆ นั้นเองก็เป็นสัปปายะของบุคคลนั้นเพราะกุศลเกิด (กุศลขั้นสติปัฏฐาน) แต่ถ้าขาดความเข้าใจเบื้องต้นแล้ว ที่ไหนจะเป็นสัปปายะได้เพราะไม่มีปัญญา ที่จะเป็นปัจจัยให้สติและปัญญาเกิดครับ ขอให้เริ่มฟังว่าธรรมคืออะไร ในไฟล์ต่างๆ ใน เว็ปนี้ครับ และขอยกข้อความในพระไตรปิฎกในเรื่องสัปปายะที่บางท่านอาจจะไม่เคยอ่าน ซึ่งแสดงความเป็นสัปปายะคือ ความเข้าใจที่เป็นปัญญาที่รู้ลักษณะของสภาพธัมมะ ทาง ตา หู จมูก ..ใจ ซึ่งมีอยู่ในชีวิตประจำวันแม้ในขณะนี้ ขณะที่รู้สภาพธัมมะที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันอย่างนั้น ก็เป็นสัปปายะแล้วครับ ดังนั้นความเข้าใจที่เป็นปัญญา ขั้นการฟังเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญครับ และเมื่อใดสติปัฏฐานเกิด ที่นั้นก็เป็นสัปปายะ หากแต่ว่าเรามีปัญญาที่จะให้สติปัฏฐานเกิดหรือยังครับ

ขออนุโมทนา ลองอ่านดูนะ


ความคิดเห็น 8    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 5 ธ.ค. 2550

เชิญคลิกอ่านที่นี่..

ข้อปฏิบัติที่สบาย ตอนที่ 1 [ทุติยสัปปายสูตร]


ความคิดเห็น 9    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 5 ธ.ค. 2550

เชิญคลิกอ่านที่นี่..

ข้อปฏิบัติที่สบาย ตอนที่ 2 [ทุติยสัปปายสูตร]


ความคิดเห็น 10    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 5 ธ.ค. 2550

เชิญคลิกอ่านที่นี่..

ข้อปฏิบัติที่สบาย ตอนที่ 3 [ทุติยสัปปายสูตร]


ความคิดเห็น 11    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 5 ธ.ค. 2550

เชิญคลิกอ่านที่นี่..

ข้อปฏิบัติที่สบาย ตอนที่ 4 [ทุติยสัปปายสูตร]


ความคิดเห็น 12    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 5 ธ.ค. 2550

เชิญคลิกอ่านที่นี่..

ข้อปฏิบัติที่สบาย ตอนที่ 5 [ทุติยสัปปายสูตร]


ความคิดเห็น 13    โดย อิสระ  วันที่ 6 ธ.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 14    โดย wannee.s  วันที่ 6 ธ.ค. 2550

ถ้าเป็นผู้เจริญสติปัฏฐานเป็นปกติ อยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติธรรมได้ ถ้ามีความเข้าใจถูกในหนทางที่อภิธรรมแสดงไว้ว่า ต้องอยู่ในที่ไม่ชุมชน ไม่พลุกพล่าน ไม่ไกลเกินไป ท่านแสดงสำหรับพระภิกษุ และผู้ที่เจริญสมถภาวนา จึงต้องการสถานที่สงบค่ะ แต่สำหรับ การเจริญวิปัสสนา ไม่กำจัดสถานที่ค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย oom  วันที่ 17 ธ.ค. 2550

ขออนุโมทนาสาธุ ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ เรื่อง สถานที่สัปปายะ ต่อไปคงจะไม่แสวงหาแล้วค่ะ จะไปตามเหตุตามปัจจัย เพราะหลังจากที่ไปปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ ทำให้เข้าใจตนเองมากขึ้น และจะพยายามศึกษาธรรมะให้เข้าใจ


ความคิดเห็น 16    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 17 ธ.ค. 2550

ขออนุโมทนาครับ อย่าลืมฟังธรรมในเวปนี้ต่อนะครับ บ่อยๆ เนืองๆ ครับ


ความคิดเห็น 17    โดย oom  วันที่ 19 ธ.ค. 2550

ปัจจุบันก็ฟังธรรมของอจ.สุจินต์ เกือบทุกวัน แต่ก็ไม่วายที่จะชอบไปตามสถานที่ ต่างๆ ตามใจ ตามกิเลสตัวเอง บางครั้งอยู่ทางโลกก็เบื่อ อยากไปวัดบ้าง ชีวิตเป็นเช่นนี้เอง เอาแน่อะไรไม่ได้ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา


ความคิดเห็น 18    โดย pornpaon  วันที่ 21 ธ.ค. 2550

เข้าใจได้ดีค่ะ ดิฉันก็เคยเป็นแบบนี้

ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ


ความคิดเห็น 19    โดย chatchai.k  วันที่ 9 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 


ความคิดเห็น 20    โดย chatchai.k  วันที่ 9 พ.ค. 2564

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)