โรคที่ร้ายแรงกว่าโรคทางกาย
โดย บ้านธัมมะ  23 พ.ย. 2564
หัวข้อหมายเลข 40809

比身體的病痛更危險的病

โรคที่ร้ายแรงกว่าโรคทางกาย


問: 對於現今世界各地深受新冠肺炎蔓延的恐慌以及阿富汗局勢的惡化,請問在如此紛擾不安的情勢下,佛法能夠如何幫助我們呢?

ผู้ถาม: โลกทุกวันนี้ได้รับผลกระทบจากโควิดทั่วทุกแห่งหน รวมไปถึงสถานการณ์ร้ายในอัฟกานิสถาน ขอเรียนถามว่า ในสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้ พระธรรมสามารถช่วยอะไรเราได้บ้าง

Ajhan Sujin: 都是一樣的,任何一刻都是經由眼,耳,鼻,舌,身經驗到的。當聽到”新冠肺炎”時,它就只是聲音,生起就滅了,因為無明掩蓋了真相,所以一直有個”我”在想著不同的情境故事。當智慧生起的那一刻就不會覺得很困擾,因為智慧瞭解在那裡的是什麼,智慧可以瞭解就只是因緣和合的法。每一刻都只是那個去看的,去聽的,去想的 這些法的生滅。

อ.สุจินต์: ทุกอย่างเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ไม่ว่าขณะใดก็ไม่พ้นไปจาก ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ขณะที่ได้ยินคำว่า"โควิด" ก็เป็นเพียงเสียงเท่านั้น เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เพราะอวิชาปิดบังความจริง ดังนั้นตลอดเวลาจึงเป็นตัวเรา มีเราไปคิดเรื่องราวต่างๆ แต่ขณะใดที่ปัญญาเกิด ขณะนั้นจะไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเหตุว่าปัญญาเข้าใจว่าสิ่งที่มีจริงที่อยู่ตรงนั้นคืออะไร ปัญญาสามารถเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฎตามความเป็นจริง ทุกขณะก็เป็นเพียงสิ่งที่กำลังเห็น สิ่งที่กำลังได้ยิน ที่กำลังคิด ทั้งหมดคือ ธรรมะที่เกิดดับ

現在新冠肺炎在哪呢?現在是什麼樣的心在想著這些情況呢?那個去想的心是帶著貪愛,瞋恨還是智慧呢?不管是不是有染上新冠肺炎,現在在那裡的法一樣是生起立刻就滅了。任何的煩惱困擾都是因為以不善的思考去思考這些情境故事,然而這些情境故事只帶來累積更多的不善。

ขณะนี้โควิดอยู่ไหน? ขณะนี้คือจิตอะไรที่คิดถึงเรื่องนี้? จิตที่คิดนั้นคิดด้วยโลภะ คิดด้วยโทสะ หรือคิดด้วยปัญญา? ไม่ว่าจะติดเชื้อโควิดหรือไม่ติดเชื้อโควิด ขณะนี้สิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตรงนี้เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่ว่าจะเป็นความไม่สบายใจหรือความกังวลใดๆ ก็ตาม เพียงเพราะเหตุว่าอกุศลจิตคิดถึงเรื่องราวนั้นๆ จากนั้นเรื่องราวนั้นๆ ก็จะนำมาซึ่งการสะสมอกุศลเพิ่มขึ้น

身體的病痛比較可怕還是心裡的病呢?佛陀的教導能夠治癒各種心裡的疾病。我們有看到無明的危險嗎?無明是所有一切不善汙染的根源。在日常生活中,我們恐懼這個害怕那個,但卻不害怕無明。現在開始一點一點去瞭解在那裡的是什麼了嗎?隨著智慧的累積,無明才會一點一滴地減少。

การเจ็บป่วยทางกายน่ากลัวหรือว่าการป่วยทางใจน่ากลัวกว่ากัน? พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนสิ่งที่สามารถรักษาโรคทางใจได้ เราเห็นภัยอันตรายของอวิชชาแล้วหรือยัง? อวิชชาคือเหตุของกิเลสทั้งปวง ในชีวิตประจำวันเดี๋ยวเราก็หวั่นเกรงสิ่งนั้นหวาดกลัวสิ่งนี้ แต่เราไม่เคยกลัวอวิชชาเลย ขณะนี้เริ่มที่จะค่อยๆ เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่มีอยู่ตรงนี้ว่าคืออะไรแล้วหรือยัง? เพราะการสะสมของปัญญา อวิชชาจึงจะสามารถค่อยๆ ลดลงทีละเล็กทีละน้อย

Jon: 佛陀的教導最珍貴的是現在無論外界所關注的任何問題或喧嘩,其實就只是那些生滅的法。不管世俗傳統語言所描述的新冠肺炎或是阿富汗緊張的局勢,永遠都只會是那個去看的,去聽的,和去想的法在那裡。我們想東想西但卻不知道現在就有那些可以去經驗的和被經驗的法可以去瞭解。

จอน: พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนสิ่งที่มีค่าที่สุดคือ ไม่ว่าโลกภายนอกจะโกลาหลวุ่นวายเพียงใด แท้จริงก็เป็นเพียงธรรมะที่เกิดดับ สิ่งที่ชาวโลกสมมุติเรียกกัน ไม่ว่าจะโควิดก็ดี หรือสถานการณ์ตึงเครียดในอัฟกานิสถานก็ดี ก็เป็นเพียงเห็น ได้ยิน และคิดนึกเท่านั้น เราคิดเรื่องโน้นคิดเรื่องนี้ แต่ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ก็กำลังมีสิ่งที่รู้กับสิ่งที่ถูกรู้ที่สามารถจะเข้าใจได้

新冠肺炎的確對我們的生活造成相當程度的衝擊,比如我們得遵守一些新的限制措施,避免外出或是與人社交。但既使是如此,事實上每一刻也都是法在生滅,只是我們附予它們不同的故事情境罷了。雖然我們現在在理智上是可以瞭解佛陀的話,但在實際生活上大部份時間我們都還是以不善的方式去思考。如果不能夠開始正確地去思考現在在那裡的是什麼,那麼這種不善的思惟就會一直持續下去。每個人都有過去不同習性的累積,沒有什麼一定是正確的或不是正確的回應方式。就只去瞭解現在在那裡的是什麼,無論它是善的還是不善的。

โควิดมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก เราต้องปฏิบัติตามกฎข้อจำกัดใหม่ๆ เช่น ไม่ออกนอกบ้าน หรือเว้นระยะห่าง แม้จะเป็นอย่างนี้ แต่ความเป็นจริงธรรมะเกิดดับทุกขณะ เพียงแต่เรากับคนอื่นนั้น มีเรื่องราวที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง

แม้เราเริ่มเข้าใจคำสอนในขั้นปริยัติ แต่ความจริงในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ยังคงคิดเป็นไปในอกุศล ถ้าหากยังไม่สามารถคิดพิจารณาได้ถูก ว่าสิ่งที่อยู่ตรงนั้นจริงๆ คืออะไร การคิดที่เป็นไปในอกุศลก็ยังต้องเกิดขึ้นต่อไป และเพราะแต่ละคนสะสมอุปนิสัยมาไม่เหมือนกัน ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นตัวบ่งชี้ได้อย่างแน่ชัดว่าเป็นการคิดถูกหรือคิดผิด จึงมีเพียงปัญญาเท่านั้นที่สามารถเข้าใจสิ่งที่กำลังมีอยู่ตรงนี้คืออะไร ไม่ว่าสิ่งที่กำลังมีอยู่ตรงนี้จะเป็นกุศลหรืออกุศลก็ตาม

Sarah: 許多人可以把經文和巴利文背的滾瓜爛熟,但卻對佛陀所要教導的真相不瞭解。真相是現在就只是不同的心,心所和色法在生滅,對這一點的瞭解才是佛陀教導可以帶給我們最有利的幫助。

ซาร่า: มีหลายคนสามารถที่จะท่องคาถาและพระบาลีได้อย่างคล่องปาก แต่ว่าไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่มีจริง ไม่เข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ ความจริงคือขณะนี้เดี๋ยวนี้เป็นเพียงจิต เจตสิก และรูป ที่กำลังเกิดดับ ความเข้าใจอย่างนี้จึงจะนำมาซึ่งประโยชน์อย่างแท้จริง

昨晚有位朋友16歲的小孩在一場車禍中過世,在聽到這個消息的那一刻就只是心去聽到聲音,然後去想著所聽到的,也許有悲傷,震驚或慈愛,這些都是可以去瞭解的。所以生活中不管是任何一刻,都是不同的法在生滅,都是可以去瞭解的。

เมื่อคืนวานมีลูกของสหายธรรมท่านหนึ่งอายุ 16 ปี ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะที่ได้ยินข่าวนี้ ในขณะนั้นก็เป็นเพียงจิตได้ยินเสียง จากนั้นก็คิดถึงเรื่องที่ได้ยิน หรืออาจจะเกิดความเศร้าใจ ตกใจ หรือเมตตา ทั้งหมดเป็นสภาพธรรม เป็นสิ่งที่ให้ปัญญาเข้าใจได้ เพราะฉะนั้นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะขณะใดก็ตาม เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นแล้วดับไป และเป็นสิ่งที่รู้ได้

Jon: 妳剛提到,當聽到這些不幸的事件時妳是受到干擾的,那是正常的,因為我們潛藏的不善汙染雜質還沒有完全根除。學習瞭解佛陀的教導,去瞭解現在在那裡的法,瞭解它們都是無常,苦,無我的,這會是唯一的解答。

จอน: เมื่อสักครู่คุณผู้ถามได้กล่าวว่า ขณะที่ได้ยินเรื่องที่ไม่ดีก็จะรู้สึกว้าวุ่นไม่สบายใจ นั่นเป็นเรื่องปกติ เพราะเหตุว่ายังไม่ได้ดับกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิต ศึกษาพระพุทธศาสนาเพื่อเข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่อยู่ตรงนั้น ว่าคือธรรมะ ไม่ใช่เรา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ นี่เป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การหลุดพ้น

問: 最近受了傷,身體每天都在痛苦中。我就會想著這些都是不善的果報,可是有時候痛到不能睡的時候,心情會很消沉。

ผู้ถาม: ช่วงนี้ได้รับบาดเจ็บ แต่ละวันๆ ร่างกายก็มีแต่ความเจ็บปวด ก็พอจะคิดได้ว่านี่คือผลของอกุศลกรรม แต่ในบางเวลาก็ปวดจนนอนไม่หลับ อารมณ์ก็ไม่ดี หดหู่มาก

Sarah: 痛只是一個法還是它是屬於你的呢?

ซาร่า: ปวดเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่งหรือเป็นเราปวด?

問: 我心裡想的是痛是一個法,但痛起來的時候就會覺得是我在痛。

ผู้ถาม: ก็คิดว่านี้คือสภาพธรรมอย่างหนึ่ง แต่ขณะที่ปวดก็รู้สึกว่าเป็นเราปวด

Sarah: 現在有痛嗎?

ซาร่า: ขณะนี้มีปวดไหม?

問: 現在有時痛有時不痛。

ผู้ถาม: ขณะนี้ก็มีปวดบ้างไม่ปวดบ้าง

Sarah: 當痛出現時它就只是法,它生起很快就滅了,但通常我們會一直去想著它而且大都是帶著瞋恨去想。當”痛”出現時,無論是多強烈的疼痛,它都是生起就滅了。 就像剛剛老師的提醒,是身體的痛比較危險還是瞋恨以及對真相無明比較危險呢?

ซาร่า: ขณะที่ปวดปรากฎเป็นเพียงสภาพธรรมเท่านั้น เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็ว แต่โดยปกติแล้วเราก็จะคิดถึงสภาพธรรมนั้นด้วยโทสะ ขณะที่ปวดปรากฎไม่ว่าจะปวดมากน้อยเพียงไร สภาพธรรมนั้นก็เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ก็เหมือนกับที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวย้ำเตือนเมื่อสักครู่ว่า ระหว่างความเจ็บป่วยทางกาย กับสภาพโทสะรวมถึงอวิชาที่ปิดบังความจริง สิ่งใดอันตรายยิ่งกว่ากัน?

在佛陀時期,許多已開悟的聖人仍然會有身體上的不舒服,但第三果聖人不會再有瞋恨生起。所以現在不管是在想著新冠肺炎,阿富汗惡劣的局勢或是身體上的痛苦時,在想的就只是一個法,是帶著瞋恨去想然後愈來愈不安還是仔細思惟去想著這些都是因緣和合的法,生起就滅了,哪一種比較好呢?

ในสมัยพุทธกาล ผู้บรรลุอริยสัจจธรรมก็ยังคงมีความเจ็บป่วยทางกาย แต่พระอนาคามีท่านไม่มีโทสะใดๆ เกิดอีกเลย ดังนั้นตอนนี้ขณะนี้ไม่ว่าจะคิดเรื่องโควิด คิดเรื่องสถานการณ์ร้ายในอัฟกานิสถาน หรือ เรื่องความเจ็บปวดทางกาย ที่คิดนั้นคือสภาพธรรมอย่างหนึ่ง จะคิดว่า เป็นสภาพคิดที่เป็นไปด้วยกับโทสะที่ไม่สงบ หรือจะพิจารณาโดยแยบคายว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย เกิดขึ้นแล้วดับไป คิดอย่างไหนจะดีกว่ากัน?

身體上的不舒服是來自於過去不善的果報,這提醒我們應該更去瞭解真相是什麼,珍惜行善的重要性。既使是阿羅漢或佛陀都還是會經歷不善的果報,沒有人可以去阻止改變過去的業在時機成熟時所帶來的結果。苦的止息唯一之道是智慧的培養,根除所有的不善,輪迴的停止。

ความเจ็บปวดทางกายนั้นมาจากผลของอกุศลกรรม นี่เป็นสิ่งที่เตือนใจยิ่งว่าสิ่งที่ควรเข้าใจจริงๆ นั้นคืออะไร ควรเห็นความสำคัญของการเจริญกุศล แม้พระอรหันต์ทั้งหลายหรือแม้แต่องค์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้รับผลของอกุศลกรรม ไม่มีผู้ใดที่จะต้านทานการให้ผลของกรรมที่สุกงอมได้ มีเพียงทางเดียวที่จะดับทุกข์ ยับยั้งการเวียนว่ายในสังสารวัฏ คือการอบรมเจริญปัญญา ดับอกุศลทั้งปวง

問: 我知道痛是一個法,但痛的時候心情的焦躁不是我們能控制的,痛起來心情就不好。

ผู้ถาม: ดิฉันทราบดีว่าปวดคือสภาพธรรมอย่างหนึ่ง แต่ขณะที่ปวด จิตใจก็ว้าวุ่นกระสับกระส่าย ไม่อาจบังคับได้ เวลาที่ปวดเกิดขึ้น อารมณ์ก็จะไม่ดี

Sarah: 不管是痛的那一刻還是焦躁不安的那一刻都只是法,不是你。我們習慣於貪愛愉悅的感受,只要有不愉悅的感受就會想要去改變,但這些都是由於無明和貪愛才會這麼想,尤其是對”我”的執取。

ซาร่า: ไม่ว่าจะเป็นขณะที่ปวดหรือขณะที่ว้าวุ่นไม่สงบ ขณะนั้นเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา เราชินและติดข้องในสุขเวทนา ขณะใดที่ทุกขเวทนาเกิด ก็อยากจะแก้ไขให้ไม่เป็นทุกข์ นี่เพราะเหตุว่าโมหะและความติดข้องจึงมีความคิดต้องการอย่างนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความยึดถือด้วยความเป็นรา

通常我們都會歡迎愉悅的感受,我們對吃到美食或睡得很好時都不會抱怨。我們通常只會認為不愉悅的感受是個問題,但事實上貪愛執取於愉悅的感受同樣也是個問題。佛陀說所有生起就滅去的法永遠不能得到滿足,因此都是苦的。身體上的病痛可以尋求醫療協助,但內心的瞋恨以及貪愛執取只有透過學習瞭解佛陀教導的真相才會是真正的解藥。

โดยปกติทุกคนก็ชอบสุขเวทนา ได้รับประทานอาหารที่อร่อย ได้นอนหลับสนิท ก็ไม่รู้สึกจะมีความเดือดร้อนใดๆ โดยปกติเราก็จะเข้าใจเอาเองว่าทุกขเวทนานั้นเป็นปัญหาเป็นภัยอย่างหนึ่ง แต่ความจริงแล้วความติดข้องยึดมั่นในสุขเวทนานั้นก็เป็นปัญหาเป็นภัยเช่นกัน พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า สิ่งใดที่เกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมดับไป ไม่อาจนำสุขมาให้ เพราะเหตุนี้สิ่งนั้นจึงเป็นทุกข์ ความเจ็บปวดทางกายสามารถหาหมอรักษาบรรเทาอาการได้ แต่โรคโทสะ โรคโมหะ โรคทางใจ มีเพียงการศึกษาพระธรรม เข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ จึงเป็นยารักษาโรคได้โดยแท้จริง

Ajhan Sujin: 當對真相不瞭解時,就會把實相當作是我的。隨著智慧程度的不同會依序根除不同的不善汙染雜質。當智慧生起的那一刻,無論現在在那裡的是什麼都不會把它當作是我的。在法清楚被經驗前,我們必須在理智上很堅定的培養智慧去瞭解

อ.สุจินต์: ขณะที่ไม่เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง ก็ยึดถือสภาพธรรมนั้นว่าเป็นเรา การที่จะละกิเลสต่างๆ ก็ต้องเป็นไปตามระดับขั้น ตามกำลังของปัญญาที่จะละกิเลสนั้นได้ ขณะที่ปัญญาเกิด ไม่ว่าสิ่งที่กำลังมีจริงที่อยู่ตรงนั้นคืออะไร ปัญญาเข้าใจตรงตามความเป็นจริงว่าไม่ใช่เรา แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้น ควรอย่างยิ่งที่จะต้องอบรมเจริญปัญญาให้มั่นคงในขั้นปริยัติ



敬感恩阿姜舒淨 (Ajhan Sujin Boriharnwanaket) 的恩惠
น้อมเคารพในคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

謹以此施法之功德與我們在輪迴裡每一世的父母 師長 同修 親友 仙人 各位讀者及其他一切眾生分享
กุศลในการนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศแด่บิดามารดาในทุกภพทุกชาติ ครูบาอาจารย์ ญาติมิตรสหาย เทวดา และผู้อ่าน รวมถึงสัตว์ทั้งหลาย

By line group Just Dhamma

หมายเหตุ
ที่มา : การสนทนาธรรมออนไลน์ระหว่างท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กับ ชาวจีน

สรุปใจความภาษาจีน โดย 陳品彤 เฉินผิ่นถง (คุณแพท)
แปลภาษาไทย โดย คุณปาล สว่างพัฒนกุล (黃如蓮)


อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... บทความแปลภาษาจีน



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 23 พ.ย. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย เข้าใจ  วันที่ 23 พ.ย. 2564

กราบอนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย มังกรทอง  วันที่ 24 พ.ย. 2564

มีหลายคนสามารถที่จะท่องคาถาและพระบาลีได้อย่างคล่องปาก แต่ว่าไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่มีจริง ไม่เข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ ความจริงคือขณะนี้เดี๋ยวนี้เป็นเพียงจิต เจตสิก และรูป ที่กำลังเกิดดับ ความเข้าใจอย่างนี้จึงจะนำมาซึ่งประโยชน์อย่างแท้จริง น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ


ความคิดเห็น 4    โดย มังกรทอง  วันที่ 26 ก.พ. 2565

ขณะที่ไม่เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง ก็ยึดถือสภาพธรรมนั้นว่าเป็นเรา การที่จะละกิเลสต่างๆ ก็ต้องเป็นไปตามระดับขั้น ตามกำลังของปัญญาที่จะละกิเลสนั้นได้ ขณะที่ปัญญาเกิด ไม่ว่าสิ่งที่กำลังมีจริงที่อยู่ตรงนั้นคืออะไร ปัญญาเข้าใจตรงตามความเป็นจริงว่าไม่ใช่เรา แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้น ควรอย่างยิ่งที่จะต้องอบรมเจริญปัญญาให้มั่นคงในขั้นปริยัติ

น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 26 ก.พ. 2565

ขออนุโมทนาครับ