คำสอนของนิกายของศาสนาพุทธ
โดย ไอเฟล  22 ส.ค. 2557
หัวข้อหมายเลข 25372

พอดีผมได้อ่านคำสอนของนิกายเซน แล้วผมคิดว่าศาสนานี้มีคำสอนคล้ายกับศาสนาพุทธ ผมจึงเกิดความสงสัยว่า จุดมุ่งหมายสูงสุดของนิกายนี้เหมือนกับจุดมุ่งหมายของศาสนาพุทธคือนิพพานหรือไม่ครับ แล้วนิกายต่างๆ ในศาสนาพุทธนี้เป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาคล้วนหรือแต่งเติมครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 22 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตามความเข้าใจนั้น พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นเรื่องที่ยาก ละเอียดลึกซึ้ง ดังนั้น การอบรมปัญญาจึงต้องเป็นไปตามลำดับขั้น คือ เริ่มจาก ปริยัติ การฟังพระธรรมให้เข้าใจ ซึ่งต้องใช้เวลาและอบรมยาวนาน เมื่อมีความเข้าใจพระธรรมแล้ว ปัญญาขั้นการฟังนั่นเอง ที่จะเป็นปัจจัยให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้อง คือ การเกิดสติ และปัญญารู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ และจนถึงที่สุด คือ ปฏิเวธ การบรรลุธรรม ถึงการตรัสรู้ ที่สำคัญ เมื่อเราพูดถึงความจริงที่ควรรู้ คือ สภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้ชื่อศาสนาเซ็น ความเชื่อ ลัทธิอะไรก็ตาม สัจจะความจริง คือ สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ไม่ว่าสภาพธรรม เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น สี กลิ่น รส คิดนึก เป็นความจริงที่มีอยู่ ไม่ว่าใคร ศาสนาใด บุคคลใด ก็มีความจริงเหล่านี้ ดังนั้น การจะตรัสรู้สัจจะ ความจริง คือ เข้าใจความจริงในขณะนี้ การตรัสรู้ จึงเป็นสัจจะ โดยไม่ใช่การคิดนึกโดยการใช้อุบาย เพราะอุบาย คือ ทางแห่งความสำเร็จในพระพุทธศาสนา คือ อาศัยการฟังพระธรรมในเรื่องสภาพธรรมที่มีจริง เพื่อเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้นั่นเองครับ การตรัสรู้สัจจะ จึงต้องอาศัยการฟังพระธรรมอย่างยาวนาน และไม่ใช่เรื่องการคิดนึก แล้วจะเข้าใจได้ครับ ต้องเป็นปัญญาที่รู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมจริงๆ ครับ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นลัทธิ ศาสนาใด สัจจะไม่เปลี่ยนแปลง คือ ต้องเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ครับ ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย nopwong  วันที่ 22 ส.ค. 2557

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 22 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลกทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา สิ่งที่พระองค์ทรงแสดง ก็ไม่พ้นไปจากสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ทรงพร่ำสอนอยู่บ่อย ๆ เนือง ๆ ก็เพื่อให้ผู้ฟังมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตาม ในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม จนกระทั่งถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลสได้ในที่สุด

จึงเห็นได้ว่า สิ่งที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงในชีวิต คือ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจตามความเป็นจริง เป็นไปเพื่อการเจริญขึ้นของปัญญา เพื่อขัดเกลากิเลสจนหมดสิ้น ถ้าไม่ได้อาศัยพระธรรม ไม่มีการอบรมเจริญปัญญาแล้ว สังสารวัฏฏ์ก็จะดำเนินไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น ดังนั้น จึงต้องเริ่มสะสม อบรมเจริญปัญญา ด้วยตนเอง เห็นประโยชน์สูงสุดของปัญญา เพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูกขึ้นไปตามลำดับ ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 22 ส.ค. 2557

นิกายไหนไม่สำคัญเท่ากับความเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ให้ละชั่ว ทำดี อบรมจิตให้ผ่องใส และ ศาสนาพุทธเน้นเรื่องของกรรม และ ปัญญา ค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย peem  วันที่ 23 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย j.jim  วันที่ 23 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย วิริยะ  วันที่ 25 ส.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย อนุโมทนา  วันที่ 16 ก.ค. 2559

@ พระธรรมคำสอนเป็นไปทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ปรากฏอยู่ในชีวิตประจำวัน สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ