ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๙๘
~ ข้อสำคัญที่สุด คือ พระพุทธประสงค์ให้เข้าใจพระธรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้เพื่อรับลาภสักการะเครื่องบูชาต่างๆ แต่เพื่ออนุเคราะห์สัตว์โลก เพราะฉะนั้น ที่สำคัญที่สุด คือ ไม่ใช่เพียงเคารพด้วยศรัทธาอย่างเดียว แต่ต้องด้วยความเข้าใจในพระธรรมที่ได้ทรงแสดงด้วย
~ ต้องรู้จุดประสงค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้สิ่งที่มีจริงๆ ทุกขณะ ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสให้เข้าใจความลึกซึ้ง เราสามารถจะเข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ได้ไหม จุดประสงค์ไม่ใช่ให้จำชื่อจำคำ แต่จุดประสงค์คือให้เริ่มรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
~ พระธรรม เพื่อการน้อมประพฤติปฏิบัติตาม อย่าคิดว่าพระธรรมเป็นวิชาการหนึ่งสำหรับให้เรียนให้จบ แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นธรรมข้อใดก็ตามที่สมบูรณ์ด้วยเหตุผล เมื่อได้พิจารณาแล้ว ก็เป็นปัจจัยให้ประพฤติปฏิบัติตามในทางที่เป็นการเจริญกุศลยิ่งขึ้น
~ ถ้าไม่มีคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเข้าใจถูกต้องได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ยิ่งศึกษายิ่งรู้ความละเอียดว่า ต้องศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพอย่างยิ่ง มิฉะนั้น ถ้าเข้าใจเอง ก็ผิดหมด จะทำให้พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลบเลือน ด้วยความเข้าใจผิด เพราะเหตุนั้น จึงต้องศึกษาพระธรรมทีละคำ
~ ควรที่จะได้ระลึกว่า ความดีที่ได้ทำมาแล้วทั้งหมด ไม่พอ ทำดีเท่าไหร่ ก็ยังไม่พออยู่นั่นเอง ถ้าเทียบส่วนกับอกุศลจิตที่เกิดในวันหนึ่งๆ ความดีที่ได้ทำ เล็กน้อยเหลือเกิน
~ แต่ละคนสะสมอัธยาศัยทั้งฝ่ายกุศลทั้งฝ่ายอกุศลมามากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะต้องควรอบรมเจริญขึ้นทางฝ่ายกุศล “ทำดีเท่าไหร่ ไม่มีวันพอ” ควรจะเป็นคติประจำใจจริงๆ เพราะว่า อกุศลนั้นมากมายเหลือเกินที่จะต้องละ
~ ถ้าเป็นผู้ไม่อดทน ก็เป็นผู้ที่มักโกรธ ซึ่งไม่เป็นมงคลเลย เพราะฉะนั้น ก็ทำให้เป็นคนว่ายาก เมื่อเป็นผู้ว่ายากแล้วก็ไม่อดทนที่จะฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมเพื่อที่จะน้อมประพฤติปฏิบัติตามเพื่อขัดเกลากิเลส ซึ่งการเป็นผู้ว่ายาก ก็ไม่เป็นมงคล
~ ถ้ายังมีกิเลสอยู่ เห็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจ ก็เดือดร้อน ได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจ ก็เดือดร้อน ได้กลิ่นที่ไม่น่าพอใจ ก็เดือดร้อน ลิ้มรสที่ไม่น่าพอใจก็เดือดร้อน เดือดร้อนไปหมด
~ ถ้าเข้าใจธรรมจริงๆ ก็รู้ว่า อะไรเป็นประโยชน์ อะไรเป็นโทษ ซึ่งจะทำให้ละคลายความไม่ดีมากขึ้น เพราะเห็นโทษของความไม่ดี เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ เตรียมพร้อมสำหรับเป็นคนในชาติต่อไป
~ บางท่านไม่ทราบว่า ขณะที่ผู้อื่นกำลังฟังพระธรรมหรือว่าจะทำกุศลประการหนึ่งประการใด แล้วมีอุปสรรคโดยการขัดขวางของท่าน เท่ากับท่านปล้นบุคคลนั้น เพราะเหตุว่า บุคคลนั้นกำลังจะได้สมบัติซึ่งเป็นพระธรรมอันประเสริฐ แต่ก็มีเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้สมบัตินั้น
~ เวลาที่ไม่รู้ ก็คิดว่าเป็นคนอื่นที่ทำร้ายเรา ทำให้เราเสียใจ ทำให้เราผิดหวัง ทำให้เราโกรธที่ไม่เป็นไปอย่างใจหวัง แต่ความจริง ไม่มีใครทำร้ายใจใครได้เลยนอกจากกิเลสที่อยู่ในใจของคนนั้นเท่านั้นที่ทำร้ายคนนั้น เวลาที่กิเลสเกิดทำร้ายทันทีทุกขณะ
~ คนไม่โกรธ เป็นคนประเสริฐ ในทุกวันนี้ ถ้ามีใครซึ่งอาจจะมีคนว่าร้ายกล่าวร้าย เข้าใจผิด หรือแสดงกิริยาอาการต่างๆ แต่ผู้นั้นก็ยังไม่โกรธ ใครๆ ก็ต้องเห็นความเป็นคนประเสริฐของคนที่ไม่โกรธ
~ ขณะใดที่โกรธ เป็นมิตรกับคนที่เรากำลังโกรธหรือเปล่า? ไม่ใช่เลย เครื่องพิสูจน์มีมาก ว่า เป็นมิตรจริงๆ หรือเปล่า ไม่ใช่คิดจะให้คนอื่นเป็นมิตรกับเรา แต่ที่ถูกต้อง ก็คือ ผู้ที่ฟังธรรมนั่นแหละประพฤติปฏิบัติตามธรรมแค่ไหน ตามความเข้าใจของตนเอง เพราะฉะนั้น น้อม ก็คือ ขณะที่ฟัง เปลี่ยนจากเดิมที่เคยโกรธง่ายแล้วก็เคยว่าร้ายง่ายๆ ก็มีความเป็นเพื่อนมากขึ้น เป็นมิตรมากขึ้น
~ สำหรับเรื่องของกุศล ทำไมจะควรต้องคิดตอนที่ใกล้จะสิ้นชีวิต ขณะนี้ไม่ควรหรือ? ควรทุกขณะ ไม่ต้องรอจนถึงขณะนั้นแล้วจึงควร เรื่องของกุศลทั้งหมดเป็นสิ่งที่ดีงาม ไม่ต้องรอจนกว่าจะสิ้นชีวิต แม้ในขณะนี้ก็ควร ถ้าเป็นไปได้ ข้อสำคัญ คือ เป็นไปได้อย่างใจหรือเปล่า?
~ มีสภาพธรรมให้ศึกษาอยู่ตลอดเวลา โดยการฟังพระธรรมและเข้าใจขึ้นๆ แล้วเจริญกุศลทุกประการ เพื่อที่จะขัดเกลาอกุศลด้วยความจริงใจที่จะละคลายอกุศล ไม่ใช่ต้องการหรือปรารถนาสิ่งอื่น นี่คือ ผู้เห็นคุณของพระธรรม และเห็นโทษของอกุศล และรู้ว่าสิ่งที่ควรเจริญในชาตินี้ คือ ปัญญา เพราะเหตุว่า สิ่งอื่นไม่สามารถจะติดตามไปได้ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีอยู่ ก็ติดตามไปไม่ได้ แต่ปัญญาความเข้าใจพระธรรมจากชาติหนึ่งไปอีกชาติหนึ่ง จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น
~ ใครโกรธพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วจะทำให้ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหมดไปได้ไหม ทำให้พระองค์ไม่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ไหม? ใครโกรธพระอรหันต์ จะทำกิเลสของพระอรหันต์ที่ดับแล้วให้เกิดขึ้นมาอีกได้ไหม? ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก็เห็นชัดเจนว่า ความโกรธอยู่ที่ไหน ทำร้ายบุคคลผู้โกรธ ไม่ใช่ไปทำร้ายคนอื่น
~ ต้องเป็นผู้ที่มั่นคงในกุศลจริงๆ ถ้าท่านเป็นผู้ที่มั่นคงในกุศลแล้ว ไม่ต้องกลัวอะไร จะไม่มีโทษภัยอะไรซึ่งเกิดเพราะกุศลของท่าน แต่ถ้าท่านจะได้รับโทษภัยต่างๆ ให้ทราบว่าไม่ใช่เพราะกุศลของท่าน แต่การที่ท่านได้รับโทษภัยนั้น เพราะท่านมีอกุศลธรรมของท่านเอง
~ ถ้าไม่ตรง ไม่ได้สาระจากพระธรรม พระธรรม ตรง ถ้าเข้าใจผิดแม้เล็กน้อยก็ไม่ได้สาระแล้ว ไม่เข้าใจแล้ว เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ตรง จะรักษาพระศาสนาต้องเข้าใจพระศาสนา ถ้าไม่เข้าใจพระศาสนา รักษาอะไร? รักษาโบสถ์ รักษาวิหาร สร้างโน่น สร้างนี่ เพื่ออะไร? เพื่อรักษาพระศาสนาหรือ? พระศาสนาอยู่ที่ไหน? เพราะฉะนั้น ทุกอย่างต้องตรง
~ พุทธบริษัทฟังพระธรรม เพราะรู้ว่า ผู้มีปัญญาตรัสรู้ธรรม ทรงแสดงให้คนที่ไม่รู้ ฟัง เพราะฉะนั้น ทุกคนที่ฟังพระธรรม ต้องรู้ว่า ก่อนฟัง เป็นคนที่ไม่รู้อะไร ไม่เข้าใจอะไร เพราะฉะนั้น ฟังเพื่อให้รู้
~ ธรรม ทั้งหมด เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เมื่อมีปัญญาแล้ว กาย วาจาของเราจะดีขึ้น คนที่เคยพูดคำที่ไม่น่าฟัง แต่พอเข้าใจในความเป็นเพื่อน และคิดถึงว่าคนอื่นก็ไม่อยากได้ยินคำอย่างนี้ จะหยุด แม้ว่ากำลังจะกล่าวคำที่ไม่น่าฟัง นี่คือ ความเมตตา ความเป็นมิตร เป็นเพื่อน ทุกกรณี ทุกสถานการณ์ เป็นประโยชน์
~ ที่พึ่งจริงๆ คือ ปัญญาความเห็นถูก ขณะใดปัญญาเกิด ขณะนั้นไม่มีอกุศลใดๆ เกิดได้เลย และถ้ามีปัญญามาก อกุศลที่สะสมมาทั้งหมด ก็สามารถดับ ไม่เกิดอีกเลย ดีหรือเปล่า? พึ่งได้หรือเปล่า?
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๙๗


...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
อนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาครับ
พุทธบริษัทฟังพระธรรม เพราะรู้ว่า ผู้มีปัญญาตรัสรู้ธรรม ทรงแสดงให้คนที่ไม่รู้ ฟัง ทุกคนที่ฟังพระธรรม ต้องรู้ว่า ก่อนฟัง เป็นคนที่ไม่รู้อะไร ไม่เข้าใจอะไร ฟังเพื่อให้รู้
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
แต่ละคำองค์พระศาสดา จักศึกษาจนเข้าใจ หนักแน่นไม่หวั่นไหว ด้วยเข้าใจในอนัตตา กราบอาจารย์สุจินต์ให้ เมตตาได้ทุกเวลา อีกเปี่ยมความกรุณา น้อมศรัทธาอาจารย์เทอญ