
เพราะฉะนั้น ก็ไม่ควรที่จะหวัง อยากจะมีสติมากๆ หรือว่ามีสตินานๆ เพราะว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าคิดถึงเหตุผลตามความเป็นจริงที่เคยสะสมอวิชชา ความไม่รู้ และความหลงลืมสติมามาก เพียงแต่ให้ทราบว่า เมื่อมีปัจจัย สติเกิดขณะใด สติก็ระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้น ชั่วขณะสั้นๆ เท่านั้นเอง เพราะว่าสิ่งที่สติระลึกก็ดับและสติก็ดับ เพราะฉะนั้น ก็แล้วแต่ว่าสติจะเกิดระลึกใหม่ ระลึกที่ลักษณะของสภาพธรรมใด แล้วก็ดับไปทั้งรูปธรรมและนามธรรมในขณะนั้น
นี่ก็จะเป็นผู้มีปกติเจริญสติปัฏฐาน และรู้ตามความเป็นจริงว่า สติปัฏฐานไม่ได้เกิดตลอดเวลา แต่วันหนึ่งๆ มีปัจจัยที่จะให้สติปัฏฐานเกิดหรือไม่เกิด ก็เป็นเรื่องของสังขารขันธ์ เพราะเหตุว่าแม้ว่าสติปัฏฐานจะไม่เกิด สติในการฟังพระธรรมก็เกิด ในเมื่อมีสติในการฟังพระธรรม และพิจารณาพระธรรม ก็เป็นปัจจัยเป็นสังขารขันธ์ที่จะปรุงแต่งให้สติปัฏฐานเกิดในขณะใด ก็เป็นสติปัฏฐานในขณะนั้น
เพราะฉะนั้น ในวันหนึ่งๆ ก็มีสติหลายขั้นในชีวิตประจำวัน
ฟังเพิ่มเติม
โสภณธรรม ครั้งที่ 014