พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 75
๒. นันทิสูตร
ว่าด้วยผู้ไม่มีความยินดี
[๒๖] เทวดานั้น ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล
ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
คนมีบุตรย่อมยินดีเพราะบุตรทั้งหลายคนมีโคย่อมยินดีเพราะโคทั้งหลาย
เหมือนกันฉะนั้น เพราะอุปธิเป็นความยินดีของคน บุคคลใดไม่มีอุปธิ บุคคลนั้นไม่มียินดีเลย.[๒๗] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
บุคคลมีบุตร ย่อมเศร้าโศกเพราะบุตรทั้งหลายบุคคลมีโค ย่อมเศร้าโศกเพราะโคทั้งหลายเหมือนกันฉะนั้น เพราะอุปธิเป็นความเศร้าโศกของคนบุคคลใดไม่มีอุปธิ บุคคลนั้นไม่เศร้าโศกเลย.
...........................................
บุคคลใดไม่มีอุปธิ คือ ไม่มีกิเลส ย่อมไม่ยินดีและไม่เศร้าโศกเลย
บุคคลผู้ไม่ยินดี คือ ไม่มีโลภะ ผู้ไม่มีโลภะก็เพราะมีปัญญา
รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง
ดังนั้น บุคคลผู้ไม่ต้องการความยินดี (โลภะ) ก็อบรมเจริญสติปัญญาให้เพี่มขึ้นความยินดีก็จะลดลงตามปัญญาที่เพี่มขึ้น นะครับ
ธรรมะเป็นเครื่องระงับ ความเศร้าโศก คือ การอบรมเจริญปัญญาจนกระทั่งปัญญาคมกล้า
สามารถรู้แจ้งอริยบุคคลได้ สูงสุด คือ การบรรลุเป็นพระอรหันต์ ไม่เกิดอีกเกิดค่ะ
ขออนุโมทนาคุณหมอเพิ่มสมบัติด้วยค่ะ เห็นรูปภาพภูเขาทองทำให้คิดถึงพระธาตุของ
พระพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่บนภูเขาทองค่ะ
ผู้ที่มีปัญญามากขึ้น ก็เดือดร้อนใจน้อยลง และจะไม่เดือดร้อนใจเลยเมื่อเป็นพระอรหันต์ครับขออนุโมทนาครับ
* * * ขอบพระคุณมากครับ และ อนุโมทนากุศลที่ทุกท่านได้เจริญแล้ว * * *