พระทำนายโชคชะตา
โดย มานพ  20 ธ.ค. 2559
หัวข้อหมายเลข 28452

กราบเรียนถามท่านอาจารย์ครับ

1. พระทำนายโชคชะตาว่าบุคคลนี้อนาคตจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นอาบัติหรือเปล่าครับ อาบัติอะไรครับ

2. พระทำน้ำมนต์ เป็นอาบัติหรือเปล่าครับ อาบัติอะไรครับ

3. พระทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ทำเครื่องราง ทำมหาเสน่ห์ หรือผ้ายันต์ เป็นอาบัติหรือเปล่าครับ อาบัติ อะไรครับ

กราบขอบพระคุณที่ให้ความเข้าใจในพระวินัยครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 20 ธ.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระภิกษุเป็นเพศที่สละทุกอย่างดั่งเช่นคฤหัสถ์และประพฤติขัดเกลายิ่งเพื่อดับกิเลสโดยส่วนเดียว เพราะฉะนั้น การดูหมอ ย่อมไม่สมควรโดยประการทั้งปวงกับเพศบรรพชิตพระภิกษุ และ ทำให้ท่านต้องอาบัติได้ ครับ

พระภิกษุที่ท่านมีพฤติกรรมอย่างนั้น เป็นผู้มีความประพฤติที่เสียหาย เป็นผู้มีการเลี้ยงชีพในทางที่ผิด เป็นผู้ไม่ดำรงอยู่ศีลของพระภิกษุ เป็นผู้ทำลายพระศาสนาบิดเบือนคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมเป็นผู้เสื่อมคุณความดีที่จะพึงมีพึงได้จากการเข้ามาสู่พระธรรมวินัยนี้ เมื่อกระทำแต่สิ่งที่ไม่เหมาะอยู่เรื่อยๆ แล้วภพหน้าจะเป็นอย่างไร โทษย่อมเกิดแก่ท่านเหล่านั้นโดยส่วนเดียว ทำให้เห็นถึงการสะสมมาของแต่ละบุคคล ว่า เป็นไปตามการสะสมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ถ้าหากว่าไม่ได้ศึกษาพระธรรม หรือ ศึกษาอย่างผิวเผินไม่ได้เข้าใจอย่างถูกต้องตามความเป็นจริง โอกาสที่จะประพฤติปฏิบัติผิด นั้น ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ

ส่วนในเรื่องน้ำมนต์ ก่อนอื่นต้องเข้าใจคำว่ามนต์ก่อนครับ เพราะ มนต์ (ภาษาบาลี คือ มนฺต) หมายถึง ปัญญา บางครั้งก็มีคำว่า พุทธมนต์ (พระปัญญาของพระพุทธเจ้า) ด้วย และประการที่สำคัญ คือ มนต์ในทางพระพุทธศาสนา ต้องเป็นพระธรรมคำสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเท่านั้น เช่น พระสูตร ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งถ้าไม่ฟัง ไม่ศึกษา ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจเลย

สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน เป็นไปตามกรรม ดังนั้น นำมนต์ ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เกิดความสุข สวัสดี มงคลอะไรเลย แต่ ความดีที่เป็นกุศลธรรมต่างหาก เป็นมงคล เพราะจะนำมาซึ่งสิ่งที่ดีจริงๆ ทั้งการได้รับสิ่งดี และสะสมสิ่งดีในจิตใจ ดังนั้นน้ำมนต์จึงไม่มีผลอะไร เพราะเป็นเพียงความเชื่อที่เข้าใจผิดว่า จะทำให้ได้รับสิ่งที่ดีจากสิ่งเหล่านี้ ซึ่งไม่ตรงตามหลักกรรมและผลของกรรม ครับ

การรดน้ำมนต์ ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธองค์ พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ ในสมัยครั้งพุทธกาล ท่านเว้นจากการรดน้ำมนต์

[เล่มที่ 11] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 14

ข้อความบางตอนจาก

พรหมชาลสูตร
(๒๕) ๗. พระสมณะโคดมเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยดิรัจฉานวิชา อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด ด้วยดิรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล

มหาศีล

(๑๑๔) ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายฟ้าผ่าเป็นต้น ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ ทำพิธีซัดรำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 20 ธ.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การดูหมอ ทำนายโชคชะตา ทำน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ ทั้งหมด ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่าเป็น เดรัจฉานวิชา เป็นวิชาที่ขัดขวางทางสวรรค์และมรรคผล ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรม มีแต่ทำให้เกิดความลุ่มหลง ทำให้เสื่อมจากคุณความดีที่จะเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และ ไม่ควรสนับสนุนด้วย ยิ่งเป็นเพศบรรพชิตแล้วยิ่งจะต้องขัดเกลากิเลส ด้วยความเป็นผู้จริงใจในการที่จะศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจ น้อมประพฤติปฏิบัติเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง ถ้าไปทำในสิ่งที่ผิดอย่างที่กล่าวถึงนั้น เป็นอาบัติทุกกฏ ยิ่งถ้าอวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีในตน ตลอดจนถึงไปนับถืออย่างอื่นที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย ก็ขาดจากความเป็นภิกษุ ครับ

สิ่งที่ควรเรียน ควรศึกษาให้เข้าใจจริงๆ คือ พระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลสำหรับผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง ไม่นำความทุกข์ความเดือดร้อนมาให้เลยแม้แต่น้อย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ....


ความคิดเห็น 3    โดย มานพ  วันที่ 20 ธ.ค. 2559

กราบอนุโมทนาในกุศลที่ท่านอาจารย์มีวิริยะที่จะตอบในสิ่งที่ไม่รู้ ให้ได้รู้ความจริง ครับ


ความคิดเห็น 4    โดย nopwong  วันที่ 21 ธ.ค. 2559

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย Lertchai  วันที่ 21 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 22 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย Mayura  วันที่ 23 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย ใหญ่ราชบุรี  วันที่ 24 ก.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย chatchai.k  วันที่ 24 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ