ญี่ปุ่น (6) ชีวิตนี้น้อยนัก ความตายไม่มีนิมิต หมั่นศึกษาพระธรรม
โดย Guest  4 มิ.ย. 2559
หัวข้อหมายเลข 27853

26 พฤษภาคม 2559

วันที่ 5 ของการเดินทาง เจแปนแอลป์ - ภูเขาไฟฟูจิ

ภาพที่หน้าโรงแรม ที่ฟูจิ

วันนี้ตื่นเช้าที่โรงแรม YUKIMURASAKI วันนี้แล้วสินะ ที่พวกเราจะต้องจากลา เจแปนแอลป์ อยู่กันมาสามวัน สามคืน มีทั้งสุขและทุกข์ ทุกขณะของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไป และก็ลืม เห็นเพื่อลืม มีแต่สิ่งที่สะสมไว้ คือ กุศล อกุศล ส่วนอกุศลทับถมเป็นปกติอยู่แล้ว แต่สาระที่ได้สำคัญที่สุด คือ ความเข้าใจพระธรรมแม้น้อย ก็สะสมสะสมมากขึ้น กิเลส อกุศลแม้มาก ก็สามารถดับได้จนหมดสิ้น ก็ถือได้ว่า เป็นสถานที่ที่ดี ที่ไม่ใช่เพียงเห็นแล้วเกิดโลภะ แต่เกิดปัญญาได้บ้างเมื่อสนทนาธรรมกัน

ออกกันสายๆ สบายๆ โรงแรม เช็คเอาท์ 10.00 น. ครับ ท่านอาจารย์บอกว่า ก็ไม่ต้องมีสนทนาธรรมที่โรงแรม เพราะ เราเช็คเอาท์เร็ว

เก้าโมงเช้าแล้ว คณะของเราออกเดินทาง จัดแจงขนกระเป๋าขึ้นรถ พร้อม รถค่อยๆ แล่นออกจากโรงแรม คนญี่ปุ่นน่ารักมาก พนักงานจะต้อนรับดูแลเป็นอย่างดี รถออกจากโรงแรมแล้ว แต่เห็น มือไหวๆ โบกมือให้เราจากพนักงานโรงแรม จนลับตา ซาโยนาระ ลาก่อน สายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ สภาพธรรมเกิดดับ ใหม่ตลอด จากไป ไม่มีวันกลับ ครับ

จุดหมายปลายทางของคณะเราวันนี้ ครับ ภูเขาไฟฟูจิ เราจะไปพักที่โรงแรมใกล้ฟูจิ ริมทะเลสาบ YAMANAKO หมายมั้นปั้นมือที่จะชมภูเขาไฟฟูจิเต็มๆ เพราะ วันที่สองของการเดินทางแวะมาทานอาหารกลางวันแถวฟูจิ เห็นเลือนลางมาก โลภะติดตามไปทุกที่ ไม่เห็นก็อยากเห็น แม้ไม่เห็น ก็คิดนึกว่าอยากจะเห็นได้ เอากับเขา ครับ สะสมมาแสนโกฏิกัปป์ นี่คือความเป็นปกติของธรรมที่เกิดแล้ว

แต่เช็คพยากรณ์อากาศแล้ว คงยาก เมฆมาก มีฝนด้วย ก็ตามเหตุ ครับ ออกเดินทางไปเมือง MATSUMOTO ระหว่างทางแวะทานอาหารกลางวัน แล้ว ก็แวะชมปราสาท MATSUMOTO บนรถ นักกายภาพสมัครเล่น ก็ลุยนวดท่านอาจารย์ตลอดทาง พี่เล็กนี่ขาประจำครับ ต่อด้วยคุณหมอเหน่ง คุณป้าวรรณ ท่านอื่นๆ และ เบรคพัก ที่ปราสาท MATSUMOTO กันครับ

ถ่ายรูปกันครับ ท่านอาจารย์บอกดิฉันไม่ลง ค่ะ มีคนถาม สนทนาว่าทำไมไม่ลง คะ ท่านอาจารย์ตอบว่า เห็นที่บนรถตู้ ตอนนี้ กับ เห็นที่ลงไปเหมือนกัน ค่ะ โอ้โห ลึกซึ้งครับ สิ่งที่ปรากฏทางตา สี เหมือนกัน แต่ เราปรุงแต่งเองว่าเราอยู่ใกล้ปราสาท โลภะพาไป เหมือนเดิม ครับ

ปราสาท MATSUMOTO นี่เป็นปราสาทดั้งเดิม เก่าและสวย ดูสีดำ สมบูรณ์มาก อย่างปราสาทโอซาก้าและที่อื่นๆ นี่เขาสร้างใหม่ เพราะโดนระเบิด แต่ ปราสาท MATSUMOTO ไม่โดนระเบิด ครับ จึงคงสภาพของเดิมที่สวยงามและสมบูรณ์ คงไม่เข้าไปข้างในกัน ต้องขึ้นบันไดเยอะ ถ่ายภาพข้างนอกก็แล้วกันครับ

ท่านอาจารย์มองดูอยู่บนรถที่พวกเราถ่ายรูปกันมีความสุข ด้วยสายตาที่เมตตาเป็นอย่างมาก

เอ้าเร็วๆ ขึ้นรถ กระผมเรียกลูกทัวร์ ไปทานอาหารกลางวัน ไม่ทานกันเหรอ ครับ ทุกคนรีบขึ้นรถครับ ทานกันในเมือง MATSUMOTO

ขาดไม่ได้เลย แพนเค้ก ไอศครีม ท่านอาจารย์และคณะเราชอบทานกัน อร่อยยยมากก ครับ

ทานกลางวันเรียบร้อย ก็เดินทางต่อ สู่ ภูเขาไฟฟูจิ โรงแรมที่เราพัก ชื่อ Mt.Fuji Hotel เป็นโรงแรมที่อยู่บนยอดเขาอีกลูก ที่จะทำให้เห็นภูเขาไฟฟูจิได้เต็มๆ ครับ (แต่ถ้ามีเมฆมากก็อด ครับ)

คุณถัง คนขับรถบอกว่า ภูเขาไฟฟูจิ ขี้อาย (นึกในใจ เอ่อ รูปธรรมขี้อายไม่ได้นะครับ เพราะรูป ไม่รู้อะไร) อ้อ ความหมายของพี่เขา คือ เห็นยาก มากๆ พี่ถังพาลูกทัวร์มาที่ฟูจิ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนลูกทัวร์ สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะได้เห็นกัน เพราะ สภาพอากาศของภูเขาไฟฟูจิ จะมีเมฆป้วนเปี้ยนแถวภูเขาไฟตลอด ก็จะปิดบังให้มองไม่เห็นแล้ว เพื่อนๆ ในคณะท่านนึงวิเคราะห์ว่า ภูเขาไฟฟูจิ เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่มาก และ ยังไม่ได้ดับ ระเบิดครั้งล่าสุด เมื่อ 307 ปีที่แล้ว ข้อมูลเป๊ะ (เปิดกูเกิลเอา) เพราะฉะนั้น เมื่อยังไม่ได้ดับ ภูเขาไฟ ก็มีแรงดึงเมฆเป็นส่วนมาก มาใกล้บริเวณภูเขาไฟ ... ผมพยักหน้า สงสัยจะจริง มั้งงง..ครับ

เดินทางสองชั่วโมง ถึงยามเย็นที่บริเวณทะเลสาบ yamanako ที่เป็นที่พักของเราที่ติดทะเลสาบนี้ ยามานาโกะ แปลว่า หงส์ เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่รอบภูเขาไฟฟูจิ จะมีทะเลสาบ ห้าแห่ง เกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่แล้ว ทำให้เกิดทะเลสาบขึ้นมา ครับ

มีหงส์ด้วย แต่เป็นหงส์ปลอมที่เป็นเรือนะ

รถค่อยๆ แล่นขึ้น จุดหมายโรงแรม Mt.Fuji hotel ต้องขึ้นไปบนยอดเขา สูงมาก จนถึงจุดหมาย ลงจากรถ อากาศเย็นสบายมาก เมฆลอยอยู่ใกล้ในระดับเรา ท่านอาจารย์ลงจากรถ บอกกับกระผมว่า ชอบมากเลย ค่ะ อากาศดี วิวดีมาก

ถ่ายรูปกันในและหน้าโรงแรม สวยงามจริงๆ ครับ

มองไปรอบๆ เพื่อหาภูเขาไฟฟูจิ เธอขี้อาย หลบเพราะเมฆเยอะมาก พยากรณ์อากาศว่าวันนี้ พรุ่งนี้ จะมีเมฆมาก มีฝน เป็นอันว่ารู้ในใจแล้ว ไม่ได้เห็นฟูจิแน่นอนสองวัน แต่เราพักที่นี่สองคืน ไว้ลุ้นวันจะกลับกันครับ จะได้เห็นไหม พึ่งบุญอาจารย์ คำนี้พูดกัน แต่ไม่มีในพระไตรปิฎกนะครับ บุญใคร ก็ บุญคนนั้น

เช็คอิน เป็นเด็กยกกระเป๋า เรียบร้อย ให้คณะและท่านอาจารย์ ห้องพักใหญ่ กว้างขวางสบายมาก ระเบียงยื่นออกไปให้ดูภูเขาฟูจิ แต่ออกไปมีแต่เมฆเต็มไปหมด มีฝนนิดๆ ด้วย ดังนั้น โปรแกรมที่วางไว้ พรุ่งนี้ที่จะขึ้นกระเช้าดูฟูจิ กับ เที่ยวสวนแนวยุโรปดูฟูจิ ก็แจ้งสมาชิกว่า ยังไงก็ไม่เห็น อาจจะต้องเป็นวันมะรืน พรุ่งนี้ขอเป็นสนทนาธรรมที่โรงแรม สองชั่วโมง ช่วงเช้า และ บ่ายไป ช้อปปิ้ง กลายเป็นว่า พระธรรม ความเห็นถูกจะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ ที่ท่านอาจารย์จะกล่าวเรื่อง ปรมัต สมมติ บัญญัติแตกต่างกันอย่างไรให้เข้าใจถูกกัน อันนำมาซึ่งความเข้าใจของหลายๆ คน ทั้งที่อยู่ญี่ปุ่น และติดตามฟังกันที่เมืองไทย

วิวจากโรงแรม เมฆเยอะมากและแอบมีฝนนิดๆ ภูเขาไฟฟูจิไม่เห็นแน่นอนครับ

เช็คอินกันเรียบร้อย ไปทานข้าวกันดีกว่า อาหารเย็นที่นี่ ในโรงแรม แพงมาก ครับ 90 เหรียญต่อคน จะแพงไปถึงไหน เลยไปทานที่โรงแรมอื่นใกล้ๆ ครับ ชื่อโรงแรม hana ที่มีบุฟเฟท์ปูด้วย ก็ตกหัวท่านละ 3500 เยน ประมาณพันบาท ต่อหัว ก็ถูกกว่าโรงแรมนี้ก็แล้วกันครับ ทานกันเต็มที่ ได้ออกแรง เป่ายิ๊งชุ่บ กรรไกร ครับ ใช้กรรไกร ตัดก้ามปู พี่เล็ก เตรียมบางสิ่งจากเมืองไทยมา น้ำจิ้มซีฟู้ด ครับ จัดกันไป

ก่อนออกจากโรงแรม ผู้จัดการโรงแรม hana ที่เราไม่ได้พัก แต่แค่มาทานอาหารเย็น ถามคุณถังว่าคณะเราพักที่ไหน ถ้ายังไม่มีพักที่เขาก็ได้ คุณถังพูดภาษาญี่ปุ่นกับเขาว่า เรามีที่พักแล้ว ผู้จัดการถามว่าโรงแรมอะไร เราตอบไปว่า Mt. Fuji hotel yamanako ผู้จัดการบอกคุณถังว่าดีมาก ดีที่สุดในย่านนี้ แถมบอกว่า โรงแรมเขาไม่ดี พักที่นั่นดีแล้ว.. เห็นถึงความตรงไหมครับ ไม่ว่าชนชาติใด ที่สมมติขึ้น แต่ความตรงเกิดขึ้นได้ไม่ว่ากับใคร คุณถังมาเล่า เราก็โยงไปธรรมกัน สาธุครับ

ทานมื้อเย็นเสร็จก็กลับโรงแรม ตกลงกันในกลุ่ม ไปออนเซ็นกัน คราวนี้ ไม่มีออนเซ็นในห้องแล้ว เอ้าหละสิ เป็นออนเซ็นสาธารณะ เพราะฉะนั้น ใครขี้อาย หมดสิทธิ์ ครับ พยายามเกลี้ยกล่อมกันก็แล้ว ก็นะ บังคับไม่ได้อนัตตา แล้วแต่แล้วกัน ครับ ว่าใครจะไป ตามเหตปัจจัย ตามการสะสม ในโรงแรม มีออนเซ็นทั้งข้างในและข้างนอก แยกชายหญิง คนที่จะไป ก็เปลี่ยนชุดยูกาตะ กัน และก็เก็บภาพก่อนลง

ก่อนมา ข้าพเจ้าแจกรายละเอียด วิธีแช่ออนเซ็นที่ถูกต้อง ให้อ่านกันครับ เพราะ ออนเซ็นเป็นน้ำแร่ แช่นานก็ไม่ได้ รีบลงแช่ทั้งตัวก็ไม่ได้ เราจะต้องค่อยๆ ปรับให้ร่างกายชิน ค่อยๆ ราดที่เท้า หรือ แช่ที่เท้าก่อนสักพัก แล้วค่อยลงไปแช่ทั้งตัว ไม่เกิน สิบห้านาที เดี๋ยวเป็นลมได้ เอาเป็นว่าอ่านกัน แต่จะทำหรือไม่นั้น อนัตตา ครับ

ลงไปพร้อมกัน ผมผู้ชายคนเดียวครับ แยกไปห้องผู้ชาย ผู้หญิงก็ไปห้องผู้หญิง

ข้าพเจ้า แช่เสร็จ 15 นาที ก็ออกมารอข้างนอก เอ๋นึกสงสัย รอสักพัก ทำไมช้าจัง สักพัก ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคุยกันเสียงดัง ผมนึกเกิดอะไรกันเหรอ!!! เดินออกมากันแล้ว พี่มลดูหน้าซีด เอ้า คุณป้าวา พี่สาวพี่เล็กบอก พี่มลเป็นลม ป้าวา รับทัน ไม่งั้นหัวฟาดพื้น ตอนเป็นลมลงไป ปากซีด หน้าซีด ไม่มีเลือดเลย เกือบจุติจิตจะเกิดที่ญี่ปุ่นแล้วไหมนั่น ตกใจกัน ครับ เขาเล่าว่า พี่มลเขาขึ้นจากบ่อแล้ว สักแป๊บ หัวฟุบที่กำแพง แล้วก็หงายหลังเลย ดีที่ป้าวาอยู่ตรงนั้น รับทัน แล้วก็เอาน้ำมันนวด กันใหญ่ สักพักถึงฟื้น ถามเจ้าตัว บอก พี่ๆ มามุงอะไรกัน หนูไม่เป็นอะไรแล้ว พี่มลบอกตอนน๊อกวูบไป ไม่รู้ตัวเลย สมที่ท่านอาจารย์บอกว่า จุติจิตเกิด หรือ ตาย สบาย ค่ะ เพราะ เป็นวิบากจิต รู้อารมณ์ชาติก่อน ไม่รู้อารมณ์ชาตินี้อะไรทั้งสิ้น แต่ พี่มลเขาไม่ใช่ตายแล้วฟื้น คงเป็นภวังคจิตเกิดดับสืบต่อยาวหนะครับ ที่แท้พี่มลเขาลงแช่ทั้งตัวเลย ไม่แช่เท้าก่อน และ ไปข้างนอก outdoor ที่อากาศเย็น มีฝนปอยๆ ผลก็คือ อย่างที่เห็น นี่คือ ข้อคิดสำหรับ คนที่จะไปแช่ออนเซ็นนะครับ ปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง แต่จริงๆ ก็ไม่มีใครทำให้ กรรมที่ทำมาเท่านั้น จัดสรร ครับ แล้วก็พูดกันว่า อนัตตาจริงๆ ความจริง เราก็แค่เอาเรื่องมาเข้าใจว่าอนัตตา แท้ที่จริง ต้องเป็นตัวธรรมแต่ละขณะ จึงจะเป็นอนัตตา

รูปนี้ คนขวาจากท่านผู้ชม คุณป้าวา ช่วยรับตอนจะฟาดพื้น คนซ้าย คุณเพ็ญศรี ช่วยยาดม นวด และคนอื่นๆ ในกลุ่มก็ช่วยๆ กัน พี่เล็ก เปลี่ยนจากนวดท่านอาจารย์ ก็มานวดพี่มลแทน อิอิ อนุโมทนาครับ

แคล้วคลาดจากเหตุการณ์ไปแล้ว โล่งใจ ก็หลับพักไป เหมือนฝันไป เพราะเกิดดับหมดไปไม่เหลือเลย ก็ยังดีที่จะได้มีชีวิตต่อเพื่อฟังพระธรรม สนทนาธรรมกันในวันพรุ่งนี้ที่โรงแรม พบกันพรุ่งนี้ครับ


"ดูกรพราหมณ์ ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายนี้ ... น้อยนัก นิดเดียว รวดเร็ว มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมากข้อนี้จะพึงรู้ได้ด้วย ปัญญาต้องกระทำกุศล ประพฤติพรหมจรรย์เพราะสัตว์ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตายนั้น ไม่มี."



ความคิดเห็น 1    โดย ปาริชาตะ  วันที่ 4 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย panasda  วันที่ 4 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย siraya  วันที่ 4 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย apiwit  วันที่ 4 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ


ความคิดเห็น 5    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 5 มิ.ย. 2559

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย pulit  วันที่ 5 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ (ตอนนี้อ่านสนุกจัง)


ความคิดเห็น 7    โดย kullawat  วันที่ 5 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย wirat.k  วันที่ 5 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย thilda  วันที่ 5 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย ใหญ่ราชบุรี  วันที่ 6 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย peem  วันที่ 10 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ