การแผ่เมตตา....
โดย oom  13 ม.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 10898

1. อยากทราบเรื่องการแผ่เมตตา เราสามารถแผ่เมตตาให้ภูมิของเทวดาได้หรือไม่

2. การแผ่เมตตาให้กับคนที่เราไม่ชอบ โดยขอให้เขามีความสุขและอย่าได้มาพบเจอกันอีกเลย ถ้าแผ่แบบนี้ ถือว่ามีโทสะร่วมด้วยหรือไม่



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 13 ม.ค. 2552

๑. ผู้ที่อบรมเจริญเมตตาจนมีกำลังมากแล้ว ท่านย่อมแผ่เมตตาไปโดยไม่เจาะจง และ ไม่มีขอบเขต คือทั่วทุกทิศ ในหมู่สัตว์ทุกหมู่เหล่า

๒. ผู้นั้นต้องทราบเองว่ามีโทสะหรือไม่มีโทสะเกิดร่วมด้วย เพียงคำพูดบุคคลอื่น ไม่รู้เท่ากับตนเองครับ ที่สำคัญเข้าใจคำว่าแผ่หรือยังครับ

ขอเชิญคลิกอ่าน...

การแผ่เมตตา กับ ความมีเมตตา

การแผ่เมตตาที่ถูกต้องเป็นอย่างไร และเมื่อไร


ความคิดเห็น 2    โดย oom  วันที่ 13 ม.ค. 2552

เคยอ่านพบว่าการเจริญเมตตานั้น ต้องมีสัตว์บุคคลเป็นอารมณ์ กรณีของเทวดา ถ้าเรามีเมตตาที่มีกำลังมาก เราสามารถแผ่ให้ได้ใช่หรือไม่ ที่ อ.ประเชิญ บอกว่า การเจริญเมตตา สามารถแผ่ได้โดยไม่มีขอบเขต ไม่มีประมาณ ไม่เจาะจง ในหมู่สัตว์ทั้งหลายแสดงว่าหมู่สัตว์ทั้งหลายรวมทุกภพภูมิใช่หรือไม่ค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย ajarnkruo  วันที่ 13 ม.ค. 2552

1. จะแผ่ได้ ก็จะต้องมีเมตตาที่มีกำลังมาก (ขั้นฌานจิต) จึงจะแผ่ได้ครับ สำหรับปุถุชน อย่างเรา ถ้าแม้แต่กับคนในบ้าน หรือคนที่พบปะเสมอๆ หรือคนที่พบปะบางครั้งบาง คราวที่รู้จักกันบ้าง หรือไม่รู้จักกันบ้าง ในชีวิตประจำวัน เจอแล้วก็ยังเฉยๆ หรือเจอ แล้วก็ขุ่นใจ หรือเจอแล้วก็รักใคร่ชอบพอ ก็แสดงว่า เมตตาที่มีนั้น ยังไม่ทั่วไป ไม่สาธารณะแก่สรรพสัตว์ ไม่มีกำลังมากพอที่จะแผ่ออกไปได้ ก็คงไม่ต้องกล่าวถึง เทวดาครับ เพราะคนใกล้ตัวเราเอง เห็นอยู่ทุกวัน เราก็ยังแผ่ไม่ได้ แต่ว่ามีเมตตา ต่อกันได้ โดยไม่ต้องรอว่าเมื่อไรจึงควรจะแผ่ ทางที่ดีกว่าในขณะนี้ คือ เมื่อเราได้ กระทำกุศลใดๆ ก็ตามสำเร็จลุล่วงลงไปแล้ว ก็ควรที่จะได้อุทิศส่วนกุศลที่ได้กระทำ นั้นให้กับผู้ที่สามารถจะล่วงรู้แล้วอนุโมทนาได้ ซึ่งรวมถึงเทวดาด้วย ถ้าท่านได้รับรู้ แล้วท่านอนุโมทนา กุศลจิตของท่านก็เกิด และจิตของผู้ที่อุทิศส่วนกุศลในขณะ นั้นก็เป็นกุศลที่มีมีเมตตาเกิดร่วมด้วย เป็นการเจริญเมตตาไปในตัวแล้วครับ เพราะถ้าไม่มีเมตตา แม้การอุทิศส่วนกุศลก็มีไม่ได้แน่ๆ

2. ถ้ายังมีคนที่เราไม่ชอบ เราก็แผ่ไม่ได้แล้วครับ เพราะเมตตานั้นยังไม่ทั่ว ยังไม่เจริญพอ ด้วยความที่ยังมีบุคคลที่ตนชิงชังอยู่ ซึ่งแทนที่จะแผ่ เราก็มีเมตตากับเขาทันที ดีกว่า คิดถึงเขาด้วยความเป็นมิตร หาส่วนที่ดีของเขาแล้วคิดถึงความดีของเขา ส่วนไม่ดีของเขา ที่ทำให้เราถึงกับไม่อยากจะเจอเขาอีก ก็ไม่ควรคิด ถ้าเผลอคิด ก็ควรที่จะได้ระลึกรู้ตามความเป็นจริงว่า ขณะนั้น "เพียงคิด" และก็ยังเป็นอกุศลจิต ของผู้ที่คิดอีกด้วย อย่างไรก็ดี การเจริญเมตตาก็เพียงแต่บรรเทา หรือข่มโทสะไว้ เท่านั้น ที่จะดับโทสะ ดับความอาฆาตพยาบาทให้หมดสิ้นได้ ต้องถึงความเป็นพระ อนาคามีบุคคล ซึ่งก่อนหน้านั้น (อีกไกลมาก) ก็ต้องเริ่มอบรมเจริญปัญญาด้วยการ ฟังพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ ว่า ทุกอย่างเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ครับ


ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 15 ม.ค. 2552

อยากให้คุณ oom ฟังเอ็มพี 3 ชุด เมตตา ที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บรรยาย ดีมากค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย pornpaon  วันที่ 19 ม.ค. 2552

จากที่ฟังเรื่องเมตตาทั้งทางวิทยุและจากแผ่น mp3 หลายครั้ง คำกล่าวใดๆ ไม่สำคัญเท่ากับสภาพจิตขณะนั้น ว่าเป็นเมตตา ปราถนาดี มีความเป็นเพื่อนเป็นมิตรกับบุคคลที่เอ่ยนามหรือนึกถึงหรือไม่ การแผ่เมตตาเพียงเพื่อให้เราเกลียดเขาน้อยลง หรือเพื่อให้เขาไม่เข้าใกล้เรา ไม่ทำร้ายเรา ไม่ใช่ประโยชน์ของการแผ่เมตตา ไม่ใช่จุดประสงค์ที่ควรทำ ที่สำคัญ ปุถุชนไม่มีฌาณจิต จะเอากำลังจากที่ไหนไปแผ่เมตตาโดยรอบได้คะ แค่ไม่ให้ขุ่นใจหรือโกรธ ยังเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย oom  วันที่ 19 ม.ค. 2552
ขอบพระคุณค่ะ ที่ให้ความกระจ่าง ในเรื่องการแผ่เมตตา

ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 25 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ