ถ้าเป็นบัญญัติธรรม ก็หลงสุข หลงทุกข์ในสิ่งซึ่งไม่มีอะไรเป็นของจริง นอกจากเป็นการคิดนึกเท่านั้นเอง เหมือนสัญญา คือ กำมือเปล่า ซึ่งทำให้เกิดความหวังว่า มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่เมื่อปรากฏตามความเป็นจริงก็ไม่มีสิ่งใดทั้งสิ้น
รับฟัง ...
หลงสุข หลงทุกข์ในสิ่งซึ่งไม่มี
ธรรมเป็นเรื่องละเอียดที่จะต้องรู้ว่า เป็นการรู้ทั่วถึงในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นปรมัตถธรรมและบัญญัติธรรมนั่นเอง สามารถแยกรู้ได้ว่า สุขทุกข์ในวันหนึ่งๆ นี้ เกิดจากปรมัตถธรรม หรือว่าเกิดจากบัญญัติธรรม
ถ้าเป็นบัญญัติธรรม ก็หลงสุข หลงทุกข์ในสิ่งซึ่งไม่มีอะไรเป็นของจริง นอกจากเป็นการคิดนึกเท่านั้นเอง เหมือนสัญญา คือ กำมือเปล่า ซึ่งทำให้เกิดความหวังว่า มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่เมื่อปรากฏตามความเป็นจริงก็ไม่มีสิ่งใดทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่รู้ปรมัตถธรรม ก็ยังคงอยู่ในโลกของบัญญัติ และไม่สามารถประจักษ์ทุกขสัจซึ่งท่องว่า ได้แก่จิตเท่าไร ได้แก่เจตสิกเท่าไร ได้แก่รูป นั่นคือการท่อง การจำ แต่ไม่สามารถประจักษ์ทุกขสัจได้ [ตอนที่ 1601]