ทุกคำที่เราจะได้ฟัง ก็เป็นเรื่องของสิ่งที่มีจริงๆ ซึ่งทุกคนก็ทราบว่า ถ้าไม่มีการได้ยินได้ฟัง ก็ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่แม้มีจริงทุกวัน ทุกขณะ ทุกชาติ ก็ไม่เคยรู้ ด้วยเหตุนี้ถ้าจะพูดว่าขณะนี้มีจิต ก็ยากที่จะรู้ลักษณะของจิต เพราะขณะที่เห็นเดี๋ยวนี้ก็คือจิตชนิดหนึ่ง เพราะจิตเป็นสภาพที่รู้
การที่เราจะเข้าใจสภาพธรรมที่ยากที่จะรู้ได้ ก็โดยอาศัยการไตร่ตรอง และไม่ลืม ขณะนี้เป็นความไม่ประมาท ก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไป ก็ควรที่จะได้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมีทุกโอกาส ไม่ว่าโอกาสใด เช้า สาย บ่าย ค่ำ เป็นโอกาสที่จะได้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีจริงๆ ในขณะนั้น
ขณะใดๆ ก็เหมือนขณะนี้ คือ เห็นก็ยังคงเป็นเห็น เป็นสิ่งที่มีจริง แม้จะได้ยิน ได้ฟังว่า ไม่ใช่เรา แต่เป็นจิต เป็นธาตุรู้ที่กำลังเห็น คำนี้ไม่เปลี่ยน เพราะว่า ความจริงเปลี่ยนไม่ได้ แต่กว่าจะรู้ถึงความจริงเช่นนี้ก็ไม่ใช่ง่าย ถ้าไม่ฟังเลย
ที่ถามกันว่าจิตเป็นอย่างไร จิตอยู่ที่ใด ก็คือขณะที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้นั่นเอง คือขณะใดก็ตามที่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดปรากฏ แสดงว่าขณะนั้นมีจิตที่กำลังรู้สิ่งนั้น เช่น ขณะหนึ่งขณะใดก็ตามเสียงปรากฏ แค่เสียงปรากฏ ก็แสดงว่าต้องมีจิตที่กำลังได้ยินเสียง เพราะถ้าไม่มีจิตที่ได้ยิน เสียงก็ปรากฏไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ ไม่ขาดจิตเลย นานแสนนานมาแล้ว จิตก็เกิดดับไม่ขาดสาย มีปัจจัยที่จะทำให้จิตที่เกิดแล้วดับ เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิด
ที่มา และ รับฟังเพิ่มเติม ...
พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 924

"พระพุทธศาสนาเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แสดงถึงความจริงของสิ่งที่มีจริงว่า สิ่งใดที่เกิดขึ้นต้องมีเหตุปัจจัยให้เกิดแล้วก็ดับไป เช่นเห็นเกิดขึ้น ... เห็นแล้วก็ดับ ได้ยินเกิดขึ้น ... ได้ยินแล้วก็ดับ เป็นคนละขณะ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องในสภาพธรรมะที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง"
ศึกษาเพิ่มเติม
ความจริงในพระพุทธศาสนา
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่านทุกประการ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนายินดีในกุศลค่ะ