ชีวิตเป็นอยู่แค่เพียงชั่วขณะจิตเดียวเท่านั้น หมายความว่าไงคับ
โดย prapan  8 ก.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 9789

ได้ฟังบรรยายธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ รู้สึกประทับใจมาก แต่อยากฟังความคิดเห็นจากสหายธรรมท่านอื่นๆ ครับ เรามีความตายอยู่ทุกขณะ เป็นขณิกมรณะ หมายความว่าไงครับ ขอท่านผู้รู้ทุกท่าน แสดงความคิดเห็น ให้ ผมเข้าใจมากขึ้นด้วยครับ



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 8 ก.ย. 2551

ชีวิตเป็นอยู่แค่เพียงชั่วขณะจิตเดียวเท่านั้น หมายความว่า โดยปรมัตถ์ ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมิได้ยืนยาวเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เป็นสิบปี หรือร้อยปี แต่ชีวิตแตกดับทุกๆ ขณะ ขณะอดีตก็แตกดับไปแล้ว ขณะอนาคตก็ยังไม่เกิด แต่เป็นไปอยู่เพียงชั่วขณะของจิตที่กำลังเกิดอยู่เท่านั้น ดังนั้นสัตว์ทั้งหลายจึงตายทุกขณะ เพราะจิตทุกขณะตั้งอยู่ชั่วขณะเล็กน้อยเท่านั้น ขณิกมรณะ คือตายทุกๆ ขณะครับ

ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยอย่างไร? ชีวิตเป็นอยู่แล้วในขณะจิตเป็นอดีต ย่อมไม่เป็นอยู่ จักไม่เป็นอยู่. ชีวิตจักเป็นอยู่ในขณะจิตเป็นอนาคตย่อมไม่เป็นอยู่ ไม่เป็นอยู่แล้ว. ชีวิตย่อมเป็นอยู่ในขณะจิตเป็นปัจจุบันไม่เป็นอยู่แล้ว จักไม่เป็นอยู่.

สมจริงดังพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า :-

ชีวิตํ อตฺตภาโว จ สุขทุกฺขา จ เกวลา เอกจิตฺตสมายุตฺตา ลหุโส วตฺตเต ขโณ. ชีวิต อัตตภาพ สุขและทุกข์ทั้งหมด ประกอบด้วยจิตดวงเดียว ขณะของจิตนั้น ย่อมเป็นไปเร็วพลัน


ความคิดเห็น 2    โดย เมตตา  วันที่ 9 ก.ย. 2551

ทุกๆ ขณะของชีวิตที่ดำเนินไปในขณะนี้ก็เป็นเพียง จิต เจตสิก รูป ที่เกิดขึ้นและดับไปสืบต่อกันอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลาไม่ขาดสาย ตั้งแต่อดีตอนันตชาติจนถึงขณะนี้ และจะเกิดดับสืบต่อไปอีกในอนาคตตราบใดที่ยังมีเหตุปัจจัยให้จิตเกิดดับสืบต่อไปอีก จึงกล่าวได้ว่าชีวิตเป็นอยู่แค่เพียงชั่วขณะจิตเดียวเท่านั้น ดังที่ท่านอาจารย์ prachern.s กล่าวว่า ดังนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงตายทุกขณะ เพราะจิตทุกขณะ ตั้งอยู่ชั่วขณะเท่านั้น ขณิกมรณะ คือตายทุกๆ ขณะ

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย choonj  วันที่ 9 ก.ย. 2551

ผมเข้าใจว่าจิตเกิดดับ เกิดคือเป็น ดับคือตาย เมื่อชีวิตเป็นอยู่เพียงชั่วขณะจิตก็หมายความว่าเราตายและเป็นอยู่ทุกขณะเหมือนจิตเกิดดับอยู่ทุกขณะ ตายคือ หมดไปไม่น่าจะสงสัยแต่เป็นชีวิตอยู่ทุกวัน นี่สิน่าสงสัย ท่านบอกว่าที่เป็นอยู่ได้นี่เพราะกรรม หมดกรรมของชาตินี้เมื่อไรก็ไม่มีคนนี้ในชาตินี้อีก ครับ


ความคิดเห็น 4    โดย prapan  วันที่ 9 ก.ย. 2551
-ขออนุโมทนา ในกุศลจิตทุกท่านคับ

ความคิดเห็น 5    โดย suwit02  วันที่ 9 ก.ย. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 6    โดย ajarnkruo  วันที่ 11 ก.ย. 2551

สมมติมรณะ ความตายโดยสมมติกันว่าคนตาย สัตว์ตายขณิกมรณะ ความตายทุกขณะจิต จิตเกิดแล้วก็ดับ แต่จิตดวงใหม่ก็เกิดสืบต่อกันอย่างรวดเร็วที่สุด และไม่มีระหว่างคั่น จึงแสนยากที่จะรู้แต่ละขณะจิต สมุทเฉทมรณะ ความตายครั้งสุดท้าย เมื่อจุติจิตของพระอรหันต์เกิด ก็ปรินิพพาน


ความคิดเห็น 7    โดย pornpaon  วันที่ 11 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย wannee.s  วันที่ 11 ก.ย. 2551

มีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะจิตเดียว คือมีชีวิตอยู่เพียงลมหายใจเข้าออกเท่านั้น พระพุทธเจ้า

ทรงสอนให้ภิกษุเจริญมรณานุสติ พิจารณาความตายทุกลมหายใจเข้าออก

จะได้ไม่ประมาทกับชึวิต และมีความเพียรในการบำเพ็ญธรรมค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย pamali  วันที่ 2 มิ.ย. 2554
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 10    โดย Jarunee.A  วันที่ 27 มี.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ