สานุสูตร วาดวยสามเณรถูกยักษสิง
โดย chatchai.k  4 มิ.ย. 2564
หัวข้อหมายเลข 34349

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 397

๕. สานุสูตร

วาดวยสามเณรถูกยักษสิง

[๘๑๔]  สมัยหนึ่ง พระผูมีพระภาคเจาประทับอยูในพระวิหารเชตวัน อารามของทานอนาถบิณฑิกเศรษฐี ในกรุงสาวัตถี. สมัยนั้นแล บุตรของอุบาสิกาคนหนึ่งชื่อสานุ ถูกยักษเขาสิง

[๘๑๕]  ครั้งนั้นแล อุบาสิกานั้นไดปริเวทนาการกลาวคาถาเหลานี้ในเวลานั้นวา ฉันไดสดับตอพระอรหันตทั้งหลายวา ชนเหลาใดเขาอยูอุโบสถอันประกอบ ดวยองค ๘ ประการดวยดี ตลอดดิถีที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แหงปกษ ทั้งตลอดปาริหาริกปกษ ประพฤติพรหมจรรยอยู ยักษทั้งหลายยอมไมเลนกับชนเหลานั้น บัดนี้ ฉันเห็นในวันนี้ยักษเลนกับสามเณรสานุ

[๘๑๖]  ยักษกลาววา ทานไดสดับตอพระอรหันตทั้งหลายวา ชนเหลาใดเขาอยูอุโบสถอันประกอบดวยองค ๘ ประการดวยดี ตลอดดิถีที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แหงปกษ ทั้งตลอดปาริหาริกปกษ ประพฤติพรหมจรรยอยู ยักษทั้งหลายยอมไมเลนกับชนเหลานั้น เปนการชอบ ทานพึงบอกสานุผูฟนขึ้นแลว



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 4 มิ.ย. 2564

พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรคเลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 398

วา ยักษสั่งคํานี้ไววา ทานอยาไดกระทําธรรมอันลามกทั้งในที่แจงและที่ลับ ถาทานจักกระทํากรรมอันลามกไซรถึงทานจะเหาะหนีไปก็ไมพนจากทุกข.

[๘๑๗]  สามเณรสานุฟนขึ้นแลวกลาววา โยม ญาติและมิตรทั้งหลายยอมรองไหถึงคนที่ตายแลวหรือยังเปนอยูแตหายไป โยมยังเห็นฉันเปนอยู ไฉนโยม จึงรองไหถึงฉัน.

[๘๑๘]  อุบาสิกากลาววา ลูกเอย ญาติและมิตรทั้งหลายยอมรองไหถึงคนที่ตายแลวหรือยังเปนอยูแตหายไป แตคนใดละกามทั้งหลายแลวจะกลับมาในกามนี้อีก ลูกรัก ญาติและมิตร ทั้งหลายยอมรองไหถึงคนนั้น เพราะเขาเปนอยูตอไปอีกก็เหมือนตายแลว แนพอ เรายกทานขึ้นจากเถารึงที่ยังรอนระอุแลว ทานอยากจะตกลงไปสูเถารึงอีก แนพอ เรายกทานขึ้นจากเหวแลว ทานอยากจะตกลงไปสูเหวอีก เราจะโพนทะนาแก


ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 4 มิ.ย. 2564

พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรคเลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 399

ใครเลาวา ขอทานจงชวยกัน ขอความเจริญจงมีแกทาน ประดุจสิ่งของที่ขนออกแลวจากเรือนที่ไฟไหม แต่ทานอยากจะเผามันเสียอีก.

อรรถกถาสานุสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในสานุสูตรที่ ๕ ตอไปนี้ :-

บทวา ยกฺเขน คหิโต โหติ ความวา เลากันวา บุตรนั้นเปนบุตรคนเดียวของอุบาสิกานั้น. ครั้งนั้น นางใหบุตรนั้นบรรพชาในเวลาเปนหนุมแล. สานุสามเณรนั้น ตั้งแตเวลาบรรพชาแลว มีศีลถึงพรอมดวยวัตร. สามเณรไดทําวัตรแกอาจารยอุปชฌายะและพระอาคันตุกะเปนตน เดือนละแปดวัน ลุกแตเชาเขาไปตั้งน้ําไวในโรงน้ํา กวาดโรงฟงธรรม ตามประทีป ประกาศฟงธรรมดวยเสียงไพเราะ. พวกภิกษุทราบกําลังของสามเณรนั้น จึงเชื้อเชิญวา พอเณร จงกลาวบทสรภัญญะเถิด. สามเณรนั้นไมนําอะไรมาอางวาลมเสียดแทงหัวใจของผม หรือโรคไอรบกวน ขึ้นธรรมาสนกลาวบทสรภัญญะ เหมือนยังแมน้ําคงคาในอากาศใหตกลงอยูฉะนั้น ลงมากลาววา ขอสวนบุญในสรภัญญะนี้ จงมีแกมารดาบิดาของขาพเจาเถิด. สวนมารดาบิดาของสามเณรนั้นไมรูวาสวนบุญสามเณรนั้นใหแลว. ก็มารดาของสามเณรในอัตภาพกอนนั้นเกิดเปนนางยักษิณี นางมากับพวกเทวดาฟงธรรมแลว จึงกลาววา ลูก ขาพเจาขออนุโมทนาสวนบุญอันสามเณรใหแลว. ก็ธรรมดาพวกภิกษุผูถึง พรอมดวยศีล ยอมเปนที่รักของโลกพรอมทั้งเทวโลกดวยประการฉะนี้. เหลา


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 4 มิ.ย. 2564

พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรคเลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 400

เทวดามีความละอาย มีความเคารพในสามเณรนั้น ยอมสําคัญสามเณรนั้น เหมือนทาวมหาพรหม และเหมือนกองไฟ ยกนางยักษิณีนั้นขึ้นเปนที่เคารพดูแล ดวยความเคารพในสามเณร ไดใหอาสนะ น้ํา กอนขาวอันล้ําเลิศแกนางยักษิณีดวยสําคัญวา มารดาของสานุ ดังนี้ ในสถานที่ฟงธรรมและยักขสมาคม เปนตน พวกยักษผูมีศักดิ์ใหญ พบนางยักษิณีนั้นหลีกทางใหลุกจากอาสนะ

ครั้งนั้น สามเณรนั้น ถึงความเจริญ มีอินทรียแกกลา ถูกความไมยินดีบีบคั้น เมื่อไมอาจจะบรรเทาความไมยินดีได จึงปลอยใหผมและเล็บยาวรกรุงรัง ทั้งสบงและจีวรสกปรกเหลือเกิน ไมบอกแกใคร ถือบาตรและจีวรไปยังประตูเรือนของมารดาแตผูเดียวเทานั้น. อุบาสิกาเห็นสามเณร ไหวแลว ไดกลาววา ลูก เมื่อกอน เจามาในที่นี้กับอาจารยอุปชฌายะหรือภิกษุหนุมและสามเณร เพราะเหตุไร ในวันนี้ เจามาแลวแตผูเดียวเลา. สามเณรนั้นบอกความเปนผูกระสัน. อุบาสิกาเปนคนมีศรัทธา แสดงโทษในการอยูครองเรือนโดยประการตางๆ กลาวสอนสามเณร เมื่อไมอาจจะใหสามเณรนั้นยินยอมได คิดวา กระไรเสีย สามเณรจักกําหนดแมตามธรรมดาของตนได จึงชักชวนกลาววา ลูก เจาจงหยุดอยูจนกวาแมจะใหจัดขาวยาคูและภัตพรอมแกเจา แมจักถวายผาที่พอใจแกเจาผูดื่มขาวยาคูทําภัตกิจเสร็จแลว ดังนี้แลว จึงจัดอาสนะถวาย. สามเณรนั่งแลว. อุบาสิกาใหจัดขาวยาคูและของขบเคี้ยว ถวายเสร็จแลวโดยครูเดียวเทานั้น.

ตอมา นางคิดวา จักใหจัดภัตใหพรอม นั่งซาวขาวอยูในที่ไมไกล. สมัยนั้น นางยักษิณีนั้น รําพึงอยูวา สามเณรไดอาหารอะไร ในที่ไหนหนอแล หรือไมได รูวา สามเณรนั้นนั่งแลวเพราะ จะสึก คิดวา สามเณรอยาพึงใหความละอายเกิดขึ้นระหวางเทวดาของเรา เราจะไปทําอันตรายในการสึกของสามเณรนั้น มาแลวสิงที่รางบิดคอใหลมลงที่


ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 4 มิ.ย. 2564

พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรคเลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 401

พื้น. สามเณรนั้น มีนัยตาเหลือก น้ําลายไหล ดิ้นอยูที่พื้น. เพราะเหตุนั้น ทานจึงกลาววา บุตรชื่อวาสานุของอุบาสิกาถูกยักษสิงแลว

บทวา อชฺฌภาสิ ความวาอุบาสิกา เห็นอาการแปลกนั้นของบุตร มาแลวโดยเร็ว กอดบุตรใหนอนบนขา. ชาวบานทั้งสิ้นมาทําพิธีมีพลีกรรมเปนตน. อุบาสิกา เมื่อคร่ําคราญ ไดกลาวคาถาเหลานี้.

บทวา ปาริหาริกปกฺขฺจ ความวา พวกมนุษยคิดวา เราจักทําการรับและการสงอุโบสถดิถีที่ ๘ จึงสมาทานองคอุโบสถในดิถีที่ ๗ บาง ดิถีที่ ๙ บาง. เมื่อทําการรับและการสงดิถีที่ ๑๔ และ ๑๕ สมาทานในดิถีที่ ๑๓ บาง ในวันปาฏิบทบาง. มนุษย0คิดวา พวกเราจักทําการสงการอยูจําพรรษา เปนผูรักษาอุโบสถเปนนิตยกึ่งเดือนระหวางปวารณาทั้งสอง. อุบาสิกา หมายเอาขอนี้ จึงกลาววา ปาริหาริกปกฺขฺจ.

บทวา อฏงฺคสุสมาคต ความวา ประกอบดวย คือ ประกอบดีแลวดวยองค ๘.

บทวา พฺรหฺมจริย แปลวา ประพฤติประเสริฐ.

บทวา น เตหิ ยกฺขา กีฬนฺติ ความวา พวกยักษ ยอมไมสิงชนเหลานั้นเลน. นางยักษิณีสิงที่รางของสามเณรแลว จึงกลาวคาถาเหลานี้วา จาตุทฺทสึ ดังนี้อีก.

บทวา อาวิ วายทิ วารโห ความวา ในที่ตอหนาหรือในที่ลับหลังใครๆ .

บทวา ปมุตฺยตฺถิ ตัดบทวา ปมุตฺติ อตฺถิ แปลวา ความพน มีอยู.

บทวา อุปฺปจฺจาป แปลวา แมเหาะไป. นางยักษิณีกลาววา ถาเจาจะเหาะหนีไปเหมือนนก แมอยางนั้นเจาก็พนไปไมได. ก็แลครั้นกลาวอยางนี้แลว จึงปลอยสามเณร. สามเณรลืมตา. มารดาสยายผม รองไหสะอึกสะอื้น. สามเณรนั้นไมรูวา เราถูกอมนุษยสิงแลว. ก็สามเณร แลดูอยู คิดวา ในกอน เรานั่งบนตั่งแลว มารดานั่งซาวขาวอยูในที่ไมไกลเรา แตเดี๋ยวนี้ เรานั่งแลวบนพื้น สวนมารดาของเรารองไหสะอึกสะอื้นอยู แมชาว


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 4 มิ.ย. 2564

พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรคเลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 402

บานทั้งสิ้นก็ประชุมกันแลว นั่นอะไรกันหนอแล ดังนี้ ทั้งที่นอนนั่นแหละ กลาวคาถาวา มต วาอมฺม เปนตน

บทวา กาเม จชิตฺวาน ความวาละกามแมสองอยาง.

บทวา ปุน อาคจฺฉเต ไดแก ยอมมาดวยอํานาจการสึก.

บทวา ปุน ชีว มโต หิ โส ความวา คนใดสึกแลว แมจะเปนอยูตอไปอีก ก็เหมือนตายแลว เพราะฉะนั้น ญาติและมิตรทั้งหลายย่อมรองไหถึงบุคคลนั้น. บัดนี้ นางเมื่อแสดงโทษในการอยูครองเรือนแกสามเณรนั้น จึงกลาวคําเปนตนวา กุกฺกุฬา ดังนี้. บรรดาบทเหลานั้น

บทวา กุกฺกุฬา ความวาไดยินวาการอยูครองเรือนชื่อวา เถารึง เพราะอรรถวารอนระอุ.

บทวา กสฺส อุชฺฌาปยามเส ความวา มารดา กลาวอยางนี้วา ขอทานจงชวยกัน ขอความเจริญจงมีแกทานดังนี้ แลวกลาวอยูวา เจาอยากสึก ถูกยักษสิง เราจะยกโทษบอกอาการอันแปลกนี้แกใครเลา

บทวา ปุน ฑยฺหิตุมิจฺฉติ ความวา เจาออกจากเรือนบวชในพระพุทธศาสนาแลว เหมือนสิ่งของที่เขาขนออกแลวจากเรือนที่ไฟไหม แตทานยังปรารถนาจะถูกเผาในการอยูครองเรือน เชนถูกเผาใหญอีกหรือ. เมื่อมารดากลาวอยู สามเณรนั้นกําหนดแลว กลับไดหิริและโอตตัปปะ จึงกลาววา เราไมตองการเปนคฤหัสถ. ครั้งนั้น มารดาของสามเณรนั้น ยินดีวา ดีละลูก ดังนี้ ถวายโภชนะอันประณีตใหฉันแลว จึงถามวา ลูก เจาอายุกี่ป. สามเณรตอบวา แม ยี่สิบปบริบูรณ. อุบาสิกากลาววา ลูก ถาเชนนั้น ขอเจา จงทําการอุปสมบทเถิด ไดถวายผาจีวรแลว. สามเณรนั้น ใหทําจีวรแลว อุปสมบท เรียนพระพุทธพจนอยู ทรงพระไตรปฎก ยังพระพุทธพจนนั้นใหบริบูรณในอาคตสถานแหงศีลเปนตน ไมนาน บรรลุความเปนพระอรหันต


ความคิดเห็น 6    โดย chatchai.k  วันที่ 4 มิ.ย. 2564

พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรคเลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 403

เปนพระธรรมกถึกผูใหญ ดํารงอยูได ๑๒๐ ป ใหชมพูทวีปทั้งสิ้นสั่นสะเทือน แลวก็ปรินิพพาน.

จบ อรรถกถาสานุสูตรที่ ๕


ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 4 มิ.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น