ติดข้อง ...
โดย talaykwang  28 ส.ค. 2562
หัวข้อหมายเลข 31133

สอบถามคำว่า "ติดข้อง" ค่ะ ได้ฟังหลายๆ คลิบของท่านอาจารย์ อยากให้ช่วยขยายความ คำนี้ค่ะ ถ้าเป็นความติดข้องมากๆ จะเป็นปัจจัยให้เกิดอกุศลกรรมหนักอื่นๆ ได้ อันนี้พอเข้าใจค่ะ แต่สงสัยสภาพของการติดข้องแบบบางๆ อย่างการเห็นดอกไม้ เป็นความติดข้องด้วยเช่นกัน มันจะทำให้สภาพจิตเป็นอกุศลอย่างไรค่ะ รบกวนยกตัวอย่างประกอบสักนิดนะคะ

ขอบพระคุณค่ะ ^^



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 30 ส.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 45] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ หน้า ๕๔๐ มลสูตร

โลภะ ก่อให้เกิดความพินาศ โลภะทำจิตให้กำเริบ ชนไม่รู้สึกโลภะนั้นอันเกิดแล้วในภายในว่าเป็นภัย คนโลภย่อมไม่รู้ประโยชน์ ย่อมไม่เห็นธรรม โลภะย่อมครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อย่อมมีในขณะนั้น


ความติดข้องมีมากมายมหาศาล ทุกอย่างที่ทำไปด้วยโลภะที่จะอยู่ต่อไปในสังสารวัฏฏ์ แต่ขณะใดที่มีปัญญาเห็นโลภะตามความเป็นจริง เมื่อนั้นก็จะคลายโลภะได้ แต่ถ้ายังไม่เห็นโลภะ อย่างคนที่ทำกุศลก็เคลิบเคลิ้มหวังผลของกุศล ขณะนั้นจะละสังสารวัฏฏ์ได้อย่างไร

อ้างอิงจาก ... ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๓๖

ความเป็นจริงของธรรม ไม่เปลี่ยน เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น แม้แต่ ความติดข้อง หรือ โลภะ ก็มีจริง เป็นธรรม แต่เป็นธรรมฝ่ายที่เป็นอกุศล ว่าโดยลักษณะ คือ ติด ยึดในสิ่งนั้น ไม่สละ ไม่ปล่อย ซึ่งเป็นธรรม นั่นเองที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน แม้แต่เห็นดอกไม้สวย แล้วชอบ นั่นแหละ คือ ธรรม คือ โลภะ ความติดข้องต้องการเกิดขึ้นเป็นไปแล้ว ตามความเป็นจริงแล้ว โลภะ เป็นกิเลส เป็นเครื่องเศร้าหมอง เมื่อเกิดประกอบกับจิต ก็ทำให้จิตเศร้าหมองไปด้วย เพราะจิตในขณะนั้นถูกปรุงแต่งด้วยสิ่งที่ไม่สะอาด คือ โลภะ นั่นเอง รวมถึงอกุศลเจตสิกประการอื่นๆ ด้วย มี ความไม่ละอาย ความไม่เกรงกลัวต่ออกุศล ความไม่สงบ และความไม่รู้ เป็นต้น ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูกเท่านั้น ที่จะเข้าใจสิ่งที่มีจริงอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย wannee.s  วันที่ 4 ก.ย. 2562

ในวันหนึ่งๆ อกุศลเกิดมากกว่ากุศล เช่น ถ้าเห็นดอกไม้สวย คิดจะเอามาบูชาพระพุทธเจ้าก็เป็นกุศลจิต แต่ถ้าเอาดอกไม้มาแต่งบ้านให้สวยก็เป็นโลภะเป็นอกุศลจิต เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้เป็นไปในเรื่องของทาน ศีล ภาวนา ก็เป็นอกุศลจิตค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย talaykwang  วันที่ 8 ก.ย. 2562

กราบขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ^^


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย สิริพรรณ  วันที่ 25 ก.ค. 2568

กราบนอบน้อมพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า พระองค์ทรงตรัสรู้ธรรมะ และแสดงธรรมะ ที่ละเอียดลุ่มลึก ลึกซึ้งเห็นได้ยาก ถ้าไม่ฟังคำของพระองค์ ไม่มีทางที่จะ ออกจากความติดข้อง เพราะเหตุที่ไม่รู้ความจริง ที่แสนละเอียด แม้ชั้นของโลภะที่มากมาย

ทุกขณะจิตที่ติดข้องก็ไม่รู้ บางเบา จนถึงหยาบ ก็ไม่รู้ความจริงอีก มืดสนิท เนิ่นนาน ต่อไป

ผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรม เข้าใจความจริงที่ทรงแสดงเท่านั้น จึงน้อมบูชาพระคุณพระพุทธองค์ได้ด้วยใจ ไม่เพียงคำกล่าวตามๆ กัน


ความคิดเห็น 7    โดย สิริพรรณ  วันที่ 25 ก.ค. 2568

ความติดข้องมีมากมายมหาศาล ทุกอย่างที่ทำไปด้วยโลภะที่จะอยู่ต่อไปในสังสารวัฏฏ์

แต่ขณะใดที่มีปัญญาเห็นโลภะตามความเป็นจริง เมื่อนั้นก็จะคลายโลภะได้

แต่ถ้ายังไม่เห็นโลภะ อย่างคนที่ทำกุศลก็เคลิบเคลิ้มหวังผลของกุศล ขณะนั้นจะละสังสารวัฏฏ์ได้อย่างไร

🙏

คำของท่านอาจารย์ที่พร่ำกล่าวแสดงความละเอียดของพระธรรมคำของพระพุทธองค์ ให้เข้าใจในความลึกซึ้งของความติดข้อง ต้องเดินทางอีกแสนไกล กว่าจะประจักษ์ความจริงที่ลึกซึ้งที่จะออกจากความติดข้องได้ ขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลย

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย สิริพรรณ  วันที่ 25 ก.ค. 2568

โลภะ เป็นกิเลส เป็นเครื่องเศร้าหมอง เมื่อเกิดประกอบกับจิต ก็ทำให้จิตเศร้าหมองไปด้วย เพราะจิตในขณะนั้นถูกปรุงแต่งด้วยสิ่งที่ไม่สะอาด คือ โลภะ นั่นเอง รวมถึงอกุศลเจตสิกประการอื่นๆ ด้วย มี ความไม่ละอาย ความไม่เกรงกลัวต่ออกุศล ความไม่สงบ และความไม่รู้เป็นต้น ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูกเท่านั้น ที่จะเข้าใจสิ่งที่มีจริงอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง

กราบขอบพระคุณยินดีในกุศล อ.คำปั่น และทุกท่านค่ะ ในคำที่ให้เห็นประโยชน์ของการสะสมเหตุของปัญญาต่อไป


ความคิดเห็น 9    โดย talaykwang  วันที่ 31 ก.ค. 2568

กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่านทุกประการ