เรียนท่านสหายธรรมและท่านผู้รูธรรมทุกท่าน
ผมได้อ่านเจอในหนังสืออยู่หลายเล่ม (แต่ไม่ใช่พระไตรปิฏก เพราะยังไม่เจอ) เกี่ยวกับบุญต่างที่เราทำเริ่มต้นตั้งแต่ทาน ศีล และมาถึงสมาธิ รู้ว่าการทำสมาธิ ภาวนานั้นได้บุญใหญ่ และก็ได้ยินได้ฟังมาอีกว่า การทำสมาธิเพียงแค่ไก่กระพือปีก ช้างกระดิกหู คือ สมาธิขั้นขณิกสมาธิ บางทีก็ได้ยินมาว่าต้องให้ได้ฌาน ๑ เลยสับสน ครับ เพราะเคยรู้มาว่าฌาน ๑ ก็มีสมาธิ ๓ ขั้น รวมแล้วฌาน ๑ ถึง ๔ ก็จะเป็น ๑๒ ขั้น จึงขอถามท่านผู้รู้ธรรมดังนี้ครับ
๑. การทำสมาธิถึงขั้นไหน หรืออาการของสมาธิที่เป็นแบบใหน และต้องนานเท่าใด ที่เรียกว่าได้บุญใหญ่
๒. คนโดยทั่วไปที่นั่งกันตามพระที่วัด ครึ่งชั่วโมง ๑ ชั่วโมงบ้าง เช่นนี้ ถือว่าได้บุญ ใหญ่หรือไม่ หรือต้องให้ได้สมาธิจริงๆ ตามข้อกำหนด ถ้าเช่นนี้แล้วหากบุคคลใดที่รวบรวม สมาธิได้ไวจิตตั้งมั่นได้ไวเพียงแค่หลับตา ๑ นาที แล้วเกิดสมาธิ ก็ถือว่าได้บุญ ใหญ่หรือไม่
๓. การฝึกกรรมฐานแล้วบ้าเกิดจากอะไร
๔. เราสามารถฝึกสมถกรรมฐานเวลาใดดีที่สุดและเวลาใหนไม่ควรฝึกครับ
๕. เรื่องสมาธิ สมถกรรมฐานมีแสดงในหน้าใหนเล่มใหนของพระไตรปิฏกครับ
ขออนุโมทนาครับ
๑. และ ๒. สมาธิที่ได้บุญใหญ่ หมายถึง สัมมาสมาธิในองค์มรรค
๓. เพราะอกุศลจึงเป็นบ้า
๔. ถ้าเข้าใจควรทุกเวลา
๕. ในวิสุทธิมรรคสมาธินิเทศ แสดงเรื่องอารมณ์สมถภาวนา ๔๐ อย่าง
๑. บุญอยู่ที่จิต เช่น ขณะทีให้ทาน ขณะนั้นจิตสงบจากอกุศล เป็นขณิกสมาธิ ชั่วขณะสั้นๆ
๒. ขณะที่มีความต้องการให้จิตสงบ ขณะนั้นไม่สงบ เพราะมีอกุศลคือโลภะแทรก และ ไม่ใช่สัมมาสมาธิ
๓. ถ้าเป็นมิจฉาสมาธิก็ทำให้เป็นบ้า เพราะจิตในขณะนั้นเป็นโมหะ เป็นอกุศลจิตที่มีกำลัง จึงทำให้จิตวิกลจริต แต่ถ้าเป็นสติปัฏฐาน ปัญญาเกิดที่ไหนก็ได้ไม่จำกัดสถานที่
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะและขอความกรุณา อธิบายคำว่า "บุญ" โดยละเอียดอีกสักรอบเถอะค่ะ สงสารคนเฒ่าคนแก่ท่าน "...ไปเอาบุญที่วัด..." และ "...ทำบุญทำทานกันเยอะๆ บริจาคเยอะก็ยิ่งได้บุญเยอะ..." หรือ "...วันนี้วันพระ จะไปสวดมนต์ถือศีลแปดนอนอยู่วัดเอาบุญ..." ฯลฯ อีกมากมาย คล้ายๆ หลับหูหลับตาทำบุญ ไม่อยากให้การกระทำใดของท่านเหล่านั้น ต้องสูญเปล่าเลยจริงๆ และเพื่อการเตือนตนเองของดิฉันเสมอๆ ด้วยค่ะ
ขอเชิญอ่านคลิกเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ...
การทำบุญ
อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 3 โดย pornpaon
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
[เล่มที่ 45] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ ๓๘๗
วรรควรรณนาที่ ๒
ข้อความบางตอนจาก....
อรรถกถาปุญญกิริยาวัตถุสูตร
พึงทราบวินิจฉัยใน ปุญญกิริยาวัตถุสูตรที่ ๑ แห่ง วรรคที่ ๒ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปุญฺกิริยาวตฺถูนิ ความว่า กุศลทั้งหลายที่ให้เกิดผลในภพที่ควรบูชา หรือชำระสันดานของตน เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่าบุญ บุญเหล่านั้น ด้วย ชื่อว่า เป็น กิริยา เพราะต้องทำด้วยเหตุด้วยปัจจัยทั้งหลายด้วย เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า บุญกิริยา และบุญกิริยานั่นเอง ชื่อว่า บุญกิริยาวัตถุ เพราะความเป็นที่ตั้งแห่งอานิสงส์นั้นๆ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ยังตอบไม่เข้าใจในคำถามที่ 1 ครับ
ช่วยรบกวนอธิบายให้กระจ่างหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
เชิญคลิกอ่าน...
สมาธิในมรรคผลเป็นสมาธิที่มีผลมาก [ มหาปรินิพพานสูตร ]
สาธุ อ่านที่ไรก็ได้ปัญญา ได้ข้อคิดดีๆ ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยให้ธรรมะเป็นทาน
เข้าใจในสัมมาสมาธิแล้วครับ ขอบคุณครับ แต่ผมยังมีข้อข้องใจอีกนิดครับ ขอรบกวนอีกทีนะครับ ในคำถามที่ ๑ ที่สมาธิชั่วขณะแค่ไก่กระพือปีก หรือช้างกระดิกหูคือในสมาธิในขั้นไหนครับ
ขอบคุณครับ
ตอบ ความคิดเห็นที่ 9
ท่านกล่าวเปรียบเทียบเรื่องของการเจริญเมตตาค่ะว่า แม้เมตตาจะเกิดเพียงชั่วขณะแค่ไก่กระพือปีก หรือ ช้างกระดิกหู ก็มีอานิสงฆ์มาก มีผลมาก ส่วนเรื่องสมาธิ ถ้าไม่ใช่ความสงบขั้นอุปจาร อัปปนาแล้ว ต้องเป็นขณิกสมาธิทั้งสิ้นค่ะ
ขออนุโมทนาครับ