คนที่ประมาทในการเจริญสติ วันหนึ่งๆ ชีวิตก็ผ่านไปด้วยความเพลิดเพลินทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หลงยึดถือเป็นไปกับการเป็นตัวตน แต่ผู้ที่เห็นโทษเห็นภัยย่อมระลึกได้ สติอาจจะเกิดทีละเล็กทีละน้อยในตอนต้น แต่ยังดีกว่าที่สติไม่เคยเกิดเลย ไม่เคยพิจารณาลักษณะของนามและรูปเลย
สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค อัปปมาทวรรคที่ ๑๐ ตถาคตสูตรที่ ๑
มีข้อความว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายที่ไม่มีเท้าก็ดี มี ๒ เท้าก็ดี มี ๔ เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี มีรูปก็ดี ไม่มีรูปก็ดี มีสัญญาก็ดี ไม่มีสัญญาก็ดี มีสัญญาก็มิใช่ ไม่มีสัญญาก็มิใช่ก็ดี มีประมาณเท่าใด พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า บัณฑิตกล่าวว่า เป็นผู้เลิศกว่าสัตว์เหล่านั้น ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งทั้งหมดนั้น มีความไม่ประมาทเป็นมูล รวมลงในความไม่ประมาท ความไม่ประมาท บัณฑิตกล่าวว่า เลิศกว่ากุศลธรรมเหล่านั้น ฉันนั้นเหมือนกัน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ไม่ประมาทแล้ว พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยมรรคมีองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ [ตอนที่ 74]
รับฟัง ... ตถาคตสูตร

ยินดียิ่งในกุศลจิตค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ฟังธรรมบ่อยๆ เนืองๆ เพื่อเป็นเครื่องเตือนให้รู้ว่า มีเพียงธรรมที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ไม่มีเราแม้เพียงขณะเดียว ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ที่ไม่สามารถบังคับบัญชาได้เลย
ศึกษาเพิ่มเติม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่านทุกประการ
ยินดีในกุศลจิตครับ
ธรรม คือสิ่งที่มีจริง.. ไม่รู้ธรรมคือไม่รู้ความจริง.. ความไม่รู้เป็นโทษที่สุดตลอดสังสารวัฎฎ์ ..ศึกษาพระธรรมจึงเข้าใจความลึกซึ้งในคำของพระองค์ " การให้ธรรมชนะการให้ทั้งปวง"
กราบยินดีในกุศลทุกท่านค่ะ