การเจริญสมถภาวนา เป็นสิ่งที่กระทำได้ยาก
โดย บ้านธัมมะ  16 ม.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 10920

การเจริญสมถภาวนาที่จะให้มหากุศลญานสัมปยุตตจิตเจริญขึ้นๆ จนเป็นบาทให้เกิดปฐมฌานกุศลจิตซึ่งเป็นรูปาวจรกุศลนั้น เป็นสิ่งที่กระทำได้ยากเพราะจะต้องไม่เป็น อภัพพบุคคล คือ ผู้ที่แม้เจริญสมถะหรือวิปัสสนา ก็ไม่อาจบรรลุฌานจิตหรือโลกกุตตรจิตได้ ผู้ที่เป็นภัพพบุคคล คือ ผู้ที่เมื่อเจริญสมถภาวนาหรือวิปัสสนาภาวนา ก็อาจจะบรรลุฌานจิตหรือโลกุตตรจิตได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่ ....

๑. ไม่มีวิบากเป็นเครื่องกั้น (๑) คือ ปฏิสนธิจิตเป็นติเหตุกะ มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย

๒. ไม่มีกรรมเป็นเครื่องกั้น คือ ไม่ได้กระทำอนันตริยกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งในอนันตริยกรรม ๕ ซึ่งเป็นเครื่องกั้นสวรรค์ มรรค ผล

อนันตริยกรรม ๕ คือ

ฆ่ามารดา ๑

ฆ่าบิดา ๑

ฆ่าพระอรหันต์ ๑

ทำร้ายพระผู้มีพระภาคให้ห้อพระโลหิต ๑

ทำสังฆเภท คือทำลายสงฆ์ให้แตกกันโดยไม่ทำสังฆกรรมร่วมกัน ๑

๓. ไม่มีกิเลสเป็นเครื่องกั้น คือ ไม่มีนิยตมิจฉาทิฏฐิ ๓ ได้แก่ นัตถิกทิฏฐิอเหตุกทิฏฐิ อกิริยทิฏฐิ แม้ว่าปฏิสนธิจิตเป็นติเหตุกะ ประกอบด้วยปัญญา แต่ถ้ายินดีเพลิดเพลินในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะโดยไม่เห็นโทษ ก็ย่อมจะไม่คิดจะบรรเทาความเพลิดเพลินในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ด้วยการรักษาศีลและเจริญภาวนา

ฉะนั้น การอบรมสมถภาวนาให้ถึงอุปจารสมาธิและอัปปนาสมาธิจึงไม่ง่ายเลย ไม่ใช่เพียงการจดจ้องที่อารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งที่ต้องการก็จะเป็นมหากุศลญาณสัมปยุตต์ ที่จะทำให้บรรลุถึงอุปจารสมาธิได้ ถ้าเข้าใจผิดว่าโลภมูลจิตขณะนั้นเป็นมหากุศลก็จะทำให้คิดว่า นิมิตต่างๆ ที่จิตปรุงแต่งให้เกิดขึ้นเห็นเป็นนรก สวรรค์ สถานที่ เรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ นั้น เป็นอุปจารสมาธิและอัปปนาสมาธิ ซึ่งเป็นฌานจิตขั้นต่างๆ

ฉะนั้น สมถภาวนาจึงเป็นเรื่องละเอียด ที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจถูกต้องจริงๆ

(๑) อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ภัพพสูตร ข้อ ๓๕๗และอาวรณตาสูตร ข้อ ๓๕๘

ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 19 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ