คำถามทบทวน ปรมัตถธรรม ตอนที่ ๓
โดย pannipa.v  27 พ.ย. 2552
หัวข้อหมายเลข 14366

คำถามทบทวน ปรมัตถธรรม ๕ ข้อ
จากการบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ ต่อจากตอนที่ ๒ (ผู้ที่ตอบได้ ขอเชิญร่วมตอบ ผู้ที่ตอบไม่ค่อยได้ ขอชวนให้ลองตอบ ตอนนี้ยังไม่ค่อยยาก)

๑๑.ปรมัถธรรมอะไร เป็นเวทนาขันธ์

๑๒.ปรมัตถธรรมอะไร เป็นสัญญาขันธ์บ้าง

๑๓. สังขารขันธ์ ได้แก่ ปรมัตถธรรมอะไร

๑๔.รูปขันธ์ เป็นรูปใช่ไหม เพราะอะไร

๑๕.รูป เป็นรูปขันธ์ใช่ไหม เพราะอะไร

อนุโมทนาในกุศลวิริยะ

เฉลยคำตอบ

๑๑. เจตสิกปรมัตถ์ ๑ ดวง คือ เวทนาเจตสิก

๑๒. เจตสิกปรมัตถ์ ๑ ดวง คือ สัญญาเจตสิก

๑๓. ได้แก่ เจตสิกปรมัตถ์ ๕๐ ดวง

๑๔. ใช่ เพราะเป็นธรรมที่ไม่รู้อะไร

๑๕. ใช่ เพราะรูปไม่รู้อารมณ์ (โดยนัยของขันธ์ สามารถจำแนกออกได้โดยลักษณะ ๑๑ อย่าง คือ เป็นอดีต เป็นปัจจุบัน เป็นอนาคต เป็นภายใน เป็นภายนอก หยาบ ละเอียด ทราม ประณีต ไกล ใกล้

ขออนุโมทนาค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย anong55  วันที่ 27 พ.ย. 2552

๑๑.ปรมัถธรรมอะไร เป็นเวทนาขันธ์
ตอบ เจตสิก
๑๒.ปรมัตถธรรมอะไร เป็นสัญญาขันธ์บ้าง
ตอบ เจตสิก

๑๓.สังขารขันธ์ ได้แก่ ปรมัตถธรรมอะไร
ตอบ เจตสิก
๑๔.รูปขันธ์ เป็นรูปใช่ไหม เพราะอะไร
ตอบ ใช่ เพราะรูปขันธ์เป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร
๑๕.รูป เป็นรูปขันธ์ใช่ไหม เพราะอะไร
ตอบ ใช่ เพราะรูปเป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร
ถ้าตอบไม่ถูกต้อง กรุณาแก้ไขด้วย

ขอบคุณ และขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย เมตตา  วันที่ 27 พ.ย. 2552

๑๑.ปรมัถธรรมอะไร เป็นเวทนาขันธ์?
ตอบ เจตสิกปรมัตถ์ ๑ ดวง เป็นเวทนาขันธ์

๑๒.ปรมัตถธรรมอะไร เป็นสัญญาขันธ์บ้าง
ตอบ เจตสิกปรมัตถ์ ๑ ดวง เป็นสัญญาขันธ์

๑๓.สังขารขันธ์ ได้แก่ ปรมัตถธรรมอะไร
ตอบ เจตสิกปรมัตถ์ ๕๐ ดวง (เว้นสัญญาเจตสิก และเวทนาเจตสิก) เป็นสังขารขันธ์

๑๔. รูปขันธ์ เป็นรูปใช่ไหม เพราะอะไร
ตอบ ใช่ เพราะรูปขันธ์เป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร

๑๕.รูป เป็นรูปขันธ์ใช่ไหม เพราะอะไร
ตอบ ใช่ เพราะรูปเป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อารมณ์

ขอเรียนถามท่านอาจารย์วิทยากรค่ะ การที่รูปเป็นรูปขันธ์ก็ต่อเมื่อเป็นอารมณ์ของจิตใช่ไหมค่ะ ถ้ารูปที่ปรากฏเกิดขึ้น แต่ไม่ได้เป็นอารมณ์ของจิต รูปนั้นก็ไม่เป็นรูปขันธ์ ถูกหรือไม่อย่างไร ขอความกรุณาช่วยอธิบายด้วยค่ะ

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย prachern.s  วันที่ 28 พ.ย. 2552

เรียนความเห็นที่ ๒ ครับ

รูปธรรม เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็เป็นรูป จะเป็นอารมณ์ของจิตหรือไม่ก็ตาม ก็คือ รูป รูปเมื่อเกิดขึ้นย่อมเกิดพร้อมกันหลายรูป อาศัยกันเกิดขึ้น เป็นกองแห่งรูป เป็น

รูปขันธ์ เมื่อเกิดแล้วย่อมดับไป เป็นอดีตบ้าง อนาคตบ้าง ปัจจุบันบ้าง และยังมีความต่างกันโดยนัยอื่นๆ เช่น หยาบ ละเอียด ไกล ไกล้ เป็นต้น


ความคิดเห็น 4    โดย วิริยะ  วันที่ 28 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย เมตตา  วันที่ 28 พ.ย. 2552

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย khampan.a  วันที่ 1 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย ที่พึ่งที่ระลึก  วันที่ 16 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ