
ข้อความในอรรถกถา ทุกขสัจจนิทเทส ปฏิสัมภิทามรรค จึงกล่าวว่า
อันที่จริง ทุกข์นี้มีอยู่ในโลกตลอดกาล
ผู้ที่มีปัญญาจะไม่เว้นเลยที่จะรู้ว่า ทุกขณะเป็นทุกข์
ประโยชน์อะไรที่จะต้องพูดมากไปในกาลไหนๆ มิใช่หรือ
คือไม่จำเป็นต้องจารนัย เป็นทุกข์ไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกประการทีเดียว ไม่ว่าในเรื่องการบริโภค การที่บริโภคแล้วก็เป็นทุกข์อีก ปวดท้อง เจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าจะพิจารณาจริงๆ แล้ว
ประโยชน์อะไรที่จะต้องพูดมากไปในกาลไหนๆ มิใช่หรือ ทุกข์เว้นจากชาติเสียแล้ว ก็มีไม่ได้ เพราะพระผู้มีพระภาคทรงแสวงหาคุณยิ่งใหญ่ตรัสถึงชาตินี้ว่าเป็นทุกข์ก่อนทุกข์อื่นทั้งหมด ดังนี้
ถ้าจะรู้ที่มาของทุกข์ ก็จะต้องรู้ว่า ชาติ คือ ความเกิดขึ้นนั่นเองนำมาซึ่งทุกข์ทั้งปวง ถ้าเพียงแต่ไม่มีชาติ ความเกิด ทุกข์ทั้งหลายก็ย่อมจะมีไม่ได้
เพราะฉะนั้นการเกิดของอุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ โดยสภาพของขันธ์ ๕ นั้นก็เป็นทุกข์อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีการยึดถือขันธ์ ๕ ซึ่งเป็นทุกข์ ด้วยความเป็นของเรา หรือด้วยความเป็นตัวตนอีก เพราะฉะนั้นก็ลองคิดดูว่า ความทุกข์นั้นจะเพิ่มสักแค่ไหน ทั้งๆ ที่ขันธ์ ๕ ก็ไม่เที่ยง ก็ยังยึดถือสภาพที่เกิดดับไม่เที่ยงนั้นว่าเป็นของเราด้วย
ทุกข์ทั้งหลายถ้าไม่มีชาติ คือ ความเกิดขึ้น ทุกข์ทั้งหลายก็มีไม่ได้เลย การเกิดของอุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ ดุจไฟกำจัดเชื้อไฟ ดุจหญ้าและเถาวัลย์เกิดบนแผ่นดิน ดุจดอกไม้ ผลไม้ และใบไม้อ่อนเกิดในต้นไม้
นี่เป็นคำอุปมาที่น่าคิด ลักษณะของทุกข์อยู่ที่ไหน ทุกข์อยู่ที่ขันธ์ ๕ ดุจไฟกำจัดเชื้อไฟ
ไฟไม่ได้กำจัดอย่างอื่นเลย นอกจากเชื้อไฟ เพราะฉะนั้นทุกข์ที่เกิดก็เพราะขันธ์ ๕ เกิด ไม่ใช่นอกไปจากขันธ์ ๕ เลย เมื่อมีขันธ์ ๕ ก็มีทุกข์ เพราะฉะนั้นก็อุปมาเหมือนไฟกำจัดเชื้อไฟ
หรือดุจหญ้าและเถาวัลย์เกิดบนแผ่นดิน ถ้าไม่มีแผ่นดิน หญ้าและเถาวัลย์ก็เกิดไม่ได้ ดุจดอกไม้ ผลไม้ และใบไม้อ่อนเกิดในต้นไม้
โสภณธรรม ครั้งที่ 089
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ