จุนทสูตร ... วันเสาร์ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๒
โดย มศพ.  10 เม.ย. 2562
หัวข้อหมายเลข 30633

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••

... สนทนาธรรมที่ ...

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)

พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๒

คือ

จุนทสูตร

...จาก...

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ หน้าที่ ๒๙๓

จุนทสูตรที่ ๕

(ว่าด้วยสมณะมี ๔ จำพวก)

นายจุนทกัมมารบุตรทูลถามว่า

[๓๐๒] ข้าพระองค์ ขอทูลถามพระพุทธเจ้า ผู้เป็นมุนี ผู้ทรงมีพระปัญญามาก ผู้เป็นเจ้าของแห่งพระธรรม ผู้มีตัณหาปราศจากไปแล้ว ผู้สูงสุดกว่าสัตว์ ผู้ประเสริฐกว่าสารถีทั้งหลาย ว่า สมณะในโลกมีเท่าไร ขอเชิญพระองค์ตรัสบอกสมณะเหล่านั้นเถิด

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนจุนทะ สมณะมี ๔ สมณะที่ ๕ ไม่มี เราถูกท่านถามซึ่งหน้าแล้ว ขอชี้แจงสมณะทั้ง ๔ เหล่านั้น ให้แจ่มแจ้งแก่ท่าน คือ สมณะผู้ชนะสรรพกิเลสด้วยมรรค ๑ สมณะผู้แสดงมรรค (แก่ชนเหล่าอื่น) ๑ สมณะผู้เป็นอยู่ในมรรค ๑ สมณะผู้ประทุษร้ายมรรค ๑

นายจุนทกัมมารบุตร ทูลถามว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมตรัสว่า สมณะผู้ชนะสรรพกิเลสด้วยมรรค เป็นอย่างไร สมณะผู้แสดงมรรค เป็นอย่างไร สมณะผู้เป็นอยู่ในมรรค เป็นอย่างไร ข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอพระองค์ตรัสบอกแก่ข้าพระองค์ อนึ่ง ขอพระองค์ทรงชี้แจง สมณะผู้ประทุษร้ายมรรค ให้แจ้งแก่ข้าพระองค์เถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสตอบว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมตรัส สมณะผู้ข้ามความสงสัยได้แล้ว ผู้ไม่มีกิเลสดุจลูกศร ผู้ยินดียิ่งแล้วในนิพพาน ผู้ไม่มีความกำหนัด ผู้คงที่ เป็นผู้นำโลกพร้อมด้วยเทวโลก ว่า สมณะผู้ชนะสรรพกิเลส ด้วยมรรค

ภิกษุใด ในศาสนานี้ รู้ว่านิพพานเป็นธรรมอย่างยิ่ง ย่อมบอกได้ ย่อมจำแนกธรรมในธรรมวินัยนี้แล พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตรัสภิกษุที่ ๒ ผู้ตัดความสงสัย ผู้เป็นมุนี ผู้ไม่หวั่นไหวนั้น ว่า สมณะผู้แสดงมรรค

ภิกษุใด เมื่อบทธรรมอันพระพุทธเจ้า ทั้งหลายทรงแสดงไว้ดีแล้ว เป็นผู้สำรวมแล้ว มีสติ เสพบทอันไม่มีโทษอยู่ ชื่อว่าเป็นอยู่ ในมรรค พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตรัสภิกษุที่ ๓ นั้นว่า เป็นอยู่ในมรรค

บุคคล กระทำเพศแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสาวกผู้มีวัตร อันงามให้เป็นเครื่องปกปิดแล้ว มักประพฤติ แล่นไป ประทุษร้ายตระกูล เป็นผู้คะนอง มีมายา ไม่สำรวม เป็นคนแกลบ บุคคลนั้น แลชื่อว่า เป็นสมณะผู้ประทุษร้ายมรรค
อย่างยิ่งด้วยวัตตปฏิรูป (คือ ข้อประพฤติเทียม เพื่อหลอกลวงคนอื่นว่าตนเองเป็นผู้ประพฤติดีงาม)

ก็พระอริยสาวกผู้ได้สดับ มีปัญญา ทราบสมณะเหล่านั้นทั้งหมดว่าเป็นเช่นนั้น เห็นแล้วอย่างนี้ ย่อมไม่ยังศรัทธาของคฤหัสถ์ ผู้ทราบชัดสมณะเหล่านี้ให้เสื่อม จะพึง กระทำสมณะผู้ไม่ถูกโทษประทุษร้าย ให้ เสมอด้วยสมณะผู้ถูกโทษประทุษร้าย จะพึง กระทำสมณะผู้บริสุทธิ์ ให้เสมอด้วยสมณะ ผู้ไม่บริสุทธิ์ อย่างไรได้

จบจุนทสูตรที่ ๕



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 10 เม.ย. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

จุนทสูตร

(ว่าด้วยสมณะ ๔ จำพวก)
นายจุนทะ กัมมารบุตร ได้ทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า สมณะ มีกี่จำพวก

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสตอบว่า สมณะ มี ๔ จำพวก คือ

สมณะผู้ชนะกิเลสทั้งปวงด้วยมรรค

สมณะผู้แสดงมรรคแก่ชนเหล่าอื่น

สมณะผู้เป็นอยู่ในมรรค

สมณะผู้ประทุษร้ายมรรค
ต่อจากนั้นนายจุนทะ กัมมารบุตรได้ทูลถามต่อไปอีกถึงความเป็นจริงของสมณะแต่ละจำพวก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสตอบว่า

-สมณะที่ดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้หมดสิ้น เป็นสมณะผู้ชนะกิเลสทั้งปวงด้วยมรรค

-สมณะที่รู้ว่านิพพานเป็นธรรมอย่างยิ่ง ย่อมบอกได้ ย่อมจำแนกธรรมในธรรมวินัยนี้ได้ เป็นสมณะผู้แสดงมรรคแก่ชนเหล่าอื่น

-สมณะผู้ประพฤติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อถึงความเป็นผู้ดับกิเลสจนหมดสิ้น เป็นสมณะผู้เป็นผู้ในมรรค
-สมณะผู้ประพฤติชั่ว คึกคะนอง ไม่สำรวม หลอกลวงผู้อื่นด้วยการประพฤติที่เหมือนการเป็นผู้มีความประพฤติดีงาม เป็นสมณะผู้ประทุษร้ายมรรค
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
พระอริยะในเพศคฤหัสถ์ เป็นสมณะหรือไม่

ความหมายของขีณาสพ [อรรถกถา มูลปริยายสูตร]

ภิกษุ เป็นเพศที่ขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง

พระภิกษุก็ตกนรกได้

พระภิกษุ ต้องงดงามตามพระธรรมวินัย

ธรรมะที่เป็นหนทาง

โสตาปัตติมัคคจิต - โสตาปัตติผลจิต

สกทาคามิมัคคจิต - สกทาคามิผลจิต

อนาคามิมัคคจิต - อนาคามิผลจิต

อรหัตตมัคคจิต - อรหัตตผลจิต
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 2    โดย มกร  วันที่ 19 เม.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 17 เม.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น