ทุกคนอยากจะหมดบาป ไม่อยากมีอกุศลเครื่องเศร้าหมองเลย แต่ก็น่าคิด น่าพิจารณาอย่างลึกซึ้งจริงๆ ว่า การที่จะดับกิเลสได้จริงๆ นั้น ควรจะเป็นไปด้วยวิธีใด
ข้อความในพระสูตรมีว่า
ชาณุสโสณีพราหมณ์ กราบทูลว่า
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พราหมณ์ทั้งหลายในโลกนี้ ในวันอุโบสถ สนานเกล้านุ่งห่มผ้าไหมทั้งคู่อันใหม่ ทาแผ่นดินด้วยโคมัยสด ลาดด้วยหญ้าคาทั้งหลายที่เขียวสดแล้ว สำเร็จการนอนในระหว่างกองทรายและเรือนไฟ ในราตรีนั้น พราหมณ์เหล่านั้นย่อมลุกขึ้น ประนมอัญชลีนมัสการไฟ ๓ ครั้ง ด้วยการกล่าวว่า ข้าพเจ้าขอปลงบาปกะท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอปลงบาปกะท่านผู้เจริญ ดังนี้ และย่อมยังไฟให้อิ่มหนำด้วยเนยใส น้ำมัน และเนยข้นอันเพียงพอ พอล่วงราตรีนั้นไป ย่อมเลี้ยงพราหมณ์ทั้งหลายให้อิ่มหนำด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีต
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พิธีปลงบาปของพราหมณ์ทั้งหลาย ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้แล ฯ
เอาบาปไปทิ้งเสียในไฟก็คงจะหมด ข้าพเจ้าขอปลงบาปกะท่านผู้เจริญ และ ย่อมยังไฟให้อิ่มหนำด้วยเนยใส น้ำมัน และเนยข้น และก็ปลงบาปไปเรื่อยๆ รุ่งเช้าก็ยังมีเลี้ยงพวกพราหมณ์ทั้งหลายให้อิ่มหนำสำราญด้วยขาทียโภชนียาหารอันประณีต ซึ่งเป็นกุศลขั้นทาน แต่ไม่ใช่การที่จะปลงบาปได้จริงๆ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกร พราหมณ์ พิธีปลงบาปของพราหมณ์ทั้งหลาย ย่อมมีโดยประการอย่างอื่น ส่วนพิธีปลงบาปในวินัยของพระอริยะ ย่อมมีโดยประการอย่างอื่น ฯ
ชาณุสโสณีพราหมณ์กราบทูลว่า
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พิธีปลงบาปในวินัยของพระอริยะย่อมมีโดยประการใดเล่า ขอประทานพระวโรกาส ขอพระโคดมผู้เจริญ โปรดทรงแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์ตามพิธีปลงบาปในวินัยของพระอริยะด้วยเถิด ฯ
ท่านผู้ฟังคิดว่าจะปลงบาปได้อย่างไร พระธรรมมีมากทีเดียว ปลงเป็นขั้นๆ ตามควรแก่ความสามารถ ตามควรแก่ความรู้ความเข้าใจถูก
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกร พราหมณ์ ถ้าเช่นนั้นท่านจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว
ชาณุสโสณีพราหมณ์ทูลรับแด่พระผู้มีพระภาคแล้ว
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ...
ที่มา และ ขอเชิญรับฟัง
พิธีปลงบาป
