พญาช้างยอดกตัญญู มาตุโปสกชาดก
โดย khampan.a  8 ส.ค. 2557
หัวข้อหมายเลข 25245

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"ถ้าพ่อแม่ของตนเอง ยังทำดีกับท่านไม่ได้ แล้วจะทำดีกับคนอื่นได้อย่างไร"

อ้างอิงจาก ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๒๔

"ตอบแทนพระคุณของผู้มีพระคุณ ต้องด้วยคุณความดีเท่านั้น ไม่ใช่ตอบแทนด้วยการกระทำชั่ว กระทำในสิ่งที่ผิด"

อ้างอิงจาก ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๐๔

"พ่อแม่ มีคุณ สิ่งที่มีคุณ เราจะไม่นับถือหรือ?"

อ้างอิงจาก ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๐๕


ขออนุญาตกล่าวถึงความประพฤติเป็นไปของบุคคล ผู้เป็นบัณฑิตในปางก่อนคือ พระโพธิสัตว์ ที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่เป็นมารดา อย่างยิ่ง เป็นแบบอย่างที่ดีที่บุตรธิดาจะได้น้อมระลึกถึงและคล้อยตามความประพฤติที่ดี ด้วยความกตัญญูกตเวที รู้คุณของผู้มีพระคุณแล้วกระทำตอบแทน

ช่วงแรกจะขอสรุปชาดก ก่อนที่จะได้นำเข้าสู่เนื้อหาของมาตุโปสกชาดกทั้งหมด ซึ่งเป็นชาดกที่ว่าด้วยพญาช้างผู้เลี้ยงดูมารดา (มาตุ = มารดา โปสกะ = ผู้เลี้ยงดู) ดังต่อไปนี้ .-

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงปรารภภิกษุผู้เลี้ยงดูมารดา ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกต้องไม่ผิดพระวินัยด้วยเพราะแม้บัณฑิตในปางก่อนก็ได้กระทำอย่างนี้มาแล้ว จึงได้ทรงยกชาดก (เรื่องที่เกิดขึ้น) นี้ขึ้นแสดง

ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาช้างเผือก มีรูปร่างสวยงาม มีช้าง ๘๐,๐๐๐ เชือกเป็นบริวาร พระโพธิสัตว์เลี้ยงดูมารดาผู้ตาบอด พระโพธิสัตว์จะฝากผลไม้อันมีรสอร่อยให้กับมารดาไปกับช้างที่เป็นบริวาร แต่ช้างเหล่านั้นกลับกินผลไม้เสียเอง ไม่ถึงมารดาพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์พบเห็นมารดาซูบผอม จึงทราบได้ว่ามารดา ไม่ได้ผลไม้ที่ตนฝากมาให้เลย จึงได้หลีกออกจากหมู่ช้าง เพื่อเลี้ยงดูมารดาเท่านั้น ด้วยการนำมารดาหนีออกจากหมู่ ไปอยู่ที่เชิงเขา แล้วพักมารดาไว้ที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ส่วนตนเองก็ออกเที่ยวหาผลไม้มาเลี้ยงดูมารดาเป็นประจำ

วันหนึ่ง มีพรานป่าชาวเมืองพาราณสีคนหนึ่งเข้าป่ามาแล้วหลงทางออกจากป่าไม่ได้ จึงนั่งร้องไห้เศร้าโศกเสียใจอยู่ พระโพธิสัตว์พอได้ยินเสียงคนร้องไห้ ด้วยความเมตตากรุณาในเขา จึงนำเขาออกจากป่าไปส่งที่ปากทางเข้าเมือง แล้วตนเองก็กลับไปยังที่อยู่ตามเดิม ฝ่ายนายพรานเมื่อพบช้างที่สวยงามเช่นนี้ ก็คิดชั่วร้ายตามการสะสมของเขา มุ่งหวังทรัพย์ที่จะได้จากการนำเรื่องนี้ไปกราบทูลแด่พระราชา เขาจึงทำสัญลักษณ์ต่างๆ เป็นเครื่องหมายเพื่อที่จะกลับมายังป่านี้อีกในภายหลัง

ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ช้างมงคลของพระราชาได้ล้ม (ตาย) ลงพอดี พระราชาทรงมีรับสั่งให้ตีกลองร้องป่าวประกาศว่า ใครที่พบว่ามีช้างที่สวยงามขอให้บอกด้วยเพื่อที่จะได้เป็นช้างมงคลต่อไป นายพรานป่าผู้ชั่วช้าได้โอกาสเข้าเฝ้า เพื่อกราบทูลเรื่องพญาช้าง พร้อมทั้งให้นายหัตถาจารย์ (ควาญช้าง) พร้อมด้วยบริวารติดตามตนเข้าป่าเพื่อนำพญาช้างนั้นมาถวายแด่พระราชา

นายหัตถาจารย์เมื่อพบพญาช้าง คือ พระโพธิสัตว์ ก็รู้สึกถูกใจ ชอบในความสวยงาม ส่วนพระโพธิสัตว์ ขณะนั้น กำลังดื่มน้ำอยู่ในสระ เมื่อเห็นนายพรานป่านั้นกลับมาพร้อมกับผู้คนอีกมากมาย ก็ทราบถึงภัยมาถึงตัวแล้ว เพราะคนชั่วคนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แม้พระโพธิสัตว์จะมีกำลังมาก แต่ก็ไม่ทำอันตรายแก่ชนเหล่านั้น นายหัตถาจารย์ได้นำพญาช้างเข้าไปในเมืองพาราณสี ฝ่ายนางช้างผู้เป็นมารดาของพระโพธิสัตว์ เมื่อไม่เห็นลูกมา จึงเศร้าโศกคร่ำครวญคิดถึงลูกว่า ลูกของเราคงจะมีคนจับไปเป็นแน่แท้

ฝ่ายนายหัตถาจารย์ ในระหว่างทางขณะกลับเข้าเมือง ได้ส่งสาส์นไปถึงพระราชาเพื่อตบแต่งพระนครให้สวยงาม เมื่อถึงแล้วก็ประพรมน้ำหอมพญาช้าง ประดับเครื่องทรงแล้วนำไปไว้ที่โรงช้าง แล้วกราบทูลแด่พระราชา

พระราชาทรงนำอาหารอันมีรสเลิศต่างๆ มาให้พระโพธิสัตว์ด้วยพระองค์เอง พระโพธิสัตว์คิดถึงมารดา จึงไม่ยอมกินอาหารนั้น เพราะจากแม่มาวันนี้เป็นวันที่ ๗ แล้ว พระโพธิสัตว์คร่ำครวญว่า นางช้างผู้กำพร้า ตาบอดไม่มีผู้นำทางคงสะดุดตอไม้ล้มลง ประสบอันตรายมากมายเป็นแน่

พระราชา ทรงสงสัย จึงตรัสถามว่า นางช้างที่ท่านกล่าวถึงนั้นเป็นอะไรกับท่าน พระโพธิสัตว์ ทูลว่า นางช้างนั้น เป็นมารดาของข้าพระองค์เอง

พระราชาเมื่อฟังแล้ว ทรงสะเทือนพระทัยเป็นอย่างยิ่งจึงทรงมีรับสั่งให้นำพญาช้างกลับไปที่เดิมเพื่อที่จะได้เลี้ยงดูมารดาต่อไป

พระโพธิสัตว์ ได้ทูลให้พระราชาทรงตั้งอยู่ในคุณธรรมเป็นผู้ไม่ประมาท แล้วได้กลับไปยังที่อยู่ของตน ได้นำน้ำในสระมา รด ตัวมารดาที่นอนร่างกายซูบผอม เพราะไม่ได้อาหารมาเป็นเวลา ๗ วัน ให้รู้สึกตัวก่อน เป็นอันดับแรก

ฝ่ายช้างมารดา เมื่อถูกน้ำราดตัว ก็เข้าใจว่าฝนตก จึงพูดขึ้นว่า ฝนช่างตกไม่รู้เวลาเลย ตอนนี้ลูกเราก็ไม่อยู่เสียแล้ว แล้วเราจะอยู่อย่างไร พระโพธิสัตว์ จึงพูดปลอบใจมารดาว่านี้คือลูกเอง ลูกปลอดภัยแล้ว พระราชาทรงปล่อยลูก ให้มาอยู่ดูแลแม่แล้ว ทำให้มารดาดีใจมากและได้กล่าวชื่นชมอนุโมทนาในน้ำพระทัยของพระราชา พร้อมทั้งได้ขอให้พระองค์มีพระชนม์ยิ่งยืนนาน

พระราชาทรงเลื่อมใส ในความกตัญญูของพญาช้าง จึงมีรับสั่งให้ตั้งอาหารไว้เพื่อพญาช้างและมารดาเป็นประจำตั้งแต่วันที่ปล่อยพญาช้างไป และรับสั่งให้สร้างรูปเหมือนพญาช้าง เตือนให้ระลึกถึงความกตัญญูของพญาช้างผู้มีความกตัญญูต่อมารดา จัดงานฉลองช้างขึ้นเป็นประจำทุกปี

พระโพธิสัตว์เมื่อมารดาเสียชีวิตแล้ว ก็ได้อยู่อุปัฏฐากพระฤๅษี ๕๐๐ ที่อาศรม ชื่อ กรัณฑกะ ด้วยทานวัตถุเท่าที่ตนเองจะหาได้ จนตราบเท่าชีวิตของตนในชาตินั้น

[ประชุมชาดก นางช้าง คือ พระนางสิริมหามายา นายพรานใจชั่วช้า คือ พระเทวทัต นายหัตถาจารย์ คือ พระสารีบุตร พระราชา คือ พระอานนท์ ส่วนพญาช้าง คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า]

สารธรรมที่เป็นข้อคิดที่ดี คือ ควรอย่างยิ่งที่จะได้กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ผู้มีความกตัญญู เป็นที่ชื่นชมยกย่องสรรเสริญของคนทั่วไป.

ขอเชิญคลิกอ่านมาตุโปสกชาดกได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ

มาตุโปสกชาดก ว่าด้วยพญาช้างเลี้ยงมารดา

... ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ ...



ความคิดเห็น 1    โดย papon  วันที่ 8 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย wannee.s  วันที่ 8 ส.ค. 2557

พระราชาทรงเลื่อมใส ในความกตัญญูของพญาช้าง จึงมีรับสั่งให้ตั้งอาหารไว้เพื่อพญาช้างและมารดาเป็นประจำตั้งแต่วันที่ปล่อยพญาช้างไป และรับสั่งให้สร้างรูปเหมือนพญาช้าง เตือนให้ระลึกถึงความกตัญญู ของพญาช้างผู้มีความกตัญญูต่อมารดา จัดงานฉลองช้างขึ้นเป็นประจำทุกปี

อนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย namarupa  วันที่ 8 ส.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 8 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย paderm  วันที่ 9 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย รู้จบลงที่รู้  วันที่ 9 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย orawan.c  วันที่ 11 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย nattawan  วันที่ 12 ส.ค. 2557

ขอบคุณ และอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย เมตตา  วันที่ 13 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย Tommy9  วันที่ 13 ส.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 11    โดย chatchai.k  วันที่ 27 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย Witt  วันที่ 2 ส.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 13    โดย Jarunee.A  วันที่ 29 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ