ทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้ว
โดย Kuat639  31 ม.ค. 2566
หัวข้อหมายเลข 45519

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ..เวลาไหนจะเกิดอะไรขึ้น.โดยไม่มีใครรู้ได้.เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างกำหนดไว้แล้วเสร็จ.ว่าต้องเกิดขึ้นเป็นไปอย่างนั้น.เพราะถึงเวลาของมัน..ตามประสาคนไม่เข้าใจธรรมะนะครับ...ขอความกระจ่างด้วยครับ



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 1 ก.พ. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อะไรที่เกิดขึ้น ล้วนเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัยทั้งสิ้น เป็นธรรม เป็นสิ่งที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
ในแต่ละภพในแต่ละชาติ จิตขณะแรก คือ ปฏิสนธิจิต ซึ่งเกิดสืบต่อจากจุติจิตของชาติที่แล้ว ซึ่งไม่มีใครกำหนดหรือลิขิตเลย ว่า จะต้องเกิดเป็นใคร ในภพไหน เพราะกรรมที่ได้กระทำแล้ว เท่านั้นที่จะเป็นเหตุให้เกิดในภพต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นเพราะผลของกุศลกรรม เมื่อปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นแล้วดับไป ก็เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อๆ ไปเกิดขึ้นเป็นไป ... จนกว่าจะถึงขณะสุดท้ายของชาตินี้ คือ จุติจิต จิตแต่ละขณะย่อมเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย (ไม่ใช่เกิดขึ้นมาลอยๆ โดยไม่มีเหตุ) เมื่อเกิดแล้วก็ดับไป ไม่ยั่งยืน

ตามความเป็นจริง ชีวิตของคนเรา มีอยู่ ๒ ส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนที่เป็นการได้รับผลของกรรม เช่น ขณะที่ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย รวมไปถึง ขณะที่หลับสนิทด้วย ถ้าไม่มีกรรมที่ได้กระทำแล้วในอดีตเป็นปัจจัย วิบากจิต ซึ่งเป็นการได้รับผลของกรรมก็เกิดขึ้นไม่ได้ นี้ก็แสดงถึงความเป็นเหตุเป็นผลของสภาพธรรม และ อีกส่วนหนึ่ง เป็นส่วนของการสะสมเหตุ คือ เป็นกุศล กับ เป็นอกุศล นี้ก็ขึ้นอยู่กับการสะสมมาของแต่ละบุคคล ไม่มีใครกำหนด ไม่มีใครบังคับ แต่เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ถ้าสะสมอกุศลมามาก ก็เป็นเครื่องปรุงแต่งให้จิตเกิดขึ้นเป็นไปในทางที่เป็น อกุศล มาก ถ้าได้สะสมกุศลธรรมมามาก ก็เป็นเหตุให้จิตน้อมไปในทางที่เป็นกุศล ได้มาก ซึ่งก็พอจะสังเกตเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ว่า แต่ละคน เป็นแต่ละหนึ่ง ไม่เหมือนกันเลย ทั้งการกระทำ และคำพูด รวมถึงความคิด เป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคลจริงๆ ซึ่งทั้งหมดนั้น ก็คือ ความเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรม นั่นเอง

ผู้ที่เป็นชาวพุทธที่แท้จริง ต้องมีความมั่นคงในพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ว่า ธรรม เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ทั้งสิ้น เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย เราไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แม้แต่ในขณะต่อไป ประโยชน์สูงสุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์ คือ การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม สะสมความรู้ความเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นธรรม เมื่อมีความเข้าใจธรรมมากขึ้น ความสงสัยก็จะลดน้อยลง มีชีวิตอยู่เพื่ออบรมเจริญปัญญาต่อไป สะสมความดีต่อไป ครับ

...ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 2    โดย Kuat639  วันที่ 1 ก.พ. 2566

กราบขอบพระคุณครับ


ความคิดเห็น 3    โดย Junya  วันที่ 3 ก.พ. 2566

กราบอนุโมทนา และกราบขอบพระคุณอาจารย์คำปั่นค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย Dechachot  วันที่ 5 ก.พ. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 11 มี.ค. 2566

ขออนุโมทนาครับ