ปราภวสูตรที่ ๖.. ความเสื่อม ๑๒ อย่าง
โดย pirmsombat  21 ม.ค. 2556
หัวข้อหมายเลข 22371

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจาก

[เล่มที่ 46] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ 309

ปราภวสูตรที่ ๖

ว่าด้วยความเสื่อม ๑๒ อย่าง

[๓๐๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม

ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยาม

สิ้นไปแล้ว เทวดาตนหนึ่งมีรัศมีอันงดงามยิ่ง ทำพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้

สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มี

พระภาคเจ้าแล้ว ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มี

พระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า

[๓๐๔] ข้าพระองค์มา เพื่อจะทูลถาม

ถึงผู้เสื่อม และคนผู้เจริญกะท่านพระโคดม

จึงขอทูลถามว่า อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า

ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ ผู้รู้ชั่วเป็นผู้เสื่อม

ผู้ใคร่ธรรมเป็นผู้เจริญ ผู้เกลียดธรรมเป็นผู้เสื่อม

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑.

คนมีอสัตบุรุษเป็นที่รัก ไม่กระทำสัตบุรุษให้เป็นที่รัก

ชอบใจธรรมของอสัตบุรุษ

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๒.

คนใดชอบนอน ชอบคุย ไม่หมั่น เกียจคร้าน โกรธง่าย

ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๓.

คนใดสามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดาหรือบิดาผู้แก่เฒ่า

ผ่านวัยหนุ่มสาวไปแล้ว ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๔.

คนใดลวงสมณะพราหมณ์ หรือแม้วณิพกอื่นด้วยมุสาวาท

ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๕.

คนมีทรัพย์มาก มีเงินทอง ของกิน

กินของอร่อยแต่ผู้เดียว ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๖.

คนใดหยิ่งเพราะชาติ หยิ่งเพราะทรัพย์ และหยิ่งเพราะโคตร

ย่อมดูหมิ่นญาติของตน

ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๗.

คนใดเป็นนักเลงหญิง เป็นนักเลงสุรา

และเป็นนักเลงการพนัน ผลาญทรัพย์ที่ตนหามาได้

ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๘.

คนไม่สันโดษด้วยภริยาของตน

ประทุษร้ายในภริยาของคนอื่นเหมือนประทุษร้ายในหญิงแพศยา

ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๙.

ชายแก่ได้หญิงรุ่นสาวมาเป็นภริยา

ย่อมนอนไม่หลับ เพราะความหึงหวงหญิงรุ่นสาวนั้น

ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑๐.

คนใดตั้งหญิงนักเลงสุรุ่ยสุร่าย

หรือแม้ชายเช่นนั้นไว้ในความเป็นใหญ่

ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั่น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑๑.

ก็บุคคลผู้เกิดในสกุลกษัตริย์ มีโภคทรัพย์น้อย

มีความมักใหญ่ ปรารถนาราชสมบัติ

ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม.

บัณฑิตผู้ถึงพร้อมด้วยความเห็นอันประเสริฐ

พิจารณาเห็นคนเหล่านี้

เป็นผู้เสื่อมในโลก

ท่านย่อมคบโลกที่เกษม (คนผู้เจริญ) .

จบปราภวสูตรที่ ๖



ความคิดเห็น 1    โดย nong  วันที่ 21 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย paderm  วันที่ 22 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย ทำดีทูเดย์  วันที่ 22 ม.ค. 2556
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 4    โดย Boonyavee  วันที่ 23 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย kinder  วันที่ 23 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย isme404  วันที่ 24 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย สุภัทรา  วันที่ 24 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย pamali  วันที่ 24 ม.ค. 2556
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 9    โดย nopwong  วันที่ 25 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 10    โดย isme404  วันที่ 22 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย isme404  วันที่ 22 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ