* ชีวิตที่เป็นไปในแต่ละภพชาติ มีส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ

- กิเลส คือสภาพที่มัวหมอง ที่สะสมสืบต่อในจิต ซึ่งกิเลสที่เป็นรากมูลของกิเลสทั้งหลาย ก็คือความไม่รู้ความจริง

- กรรม คือเจตนา ที่จงใจ ขวนขวาย กระทำ ถ้าเป็นกุศลเจตนาที่กระทำสิ่งที่ดีงาม ก็เป็นกุศลกรรม แต่ถ้าเป็นอกุศลเจตนาที่กระทำสิ่งที่ไม่ดี เบียดเบียนผู้อื่น ก็เป็นอกุศลกรรม

- วิบาก คือผลของกรรม (ที่เป็นจิตและเจตสิก)

กุศลกรรมเป็นปัจจัยให้ได้รับผลที่ดี คือ กุศลวิบาก เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส และกระทบสัมผัสทางกาย ที่น่าพอใจ

ส่วนอกุศลกรรมเป็นปัจจัยให้ได้รับผลที่ไม่ดีคือ อกุศลวิบาก เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส และกระทบสัมผัสทางกาย ที่ไม่น่าพอใจ

* ตราบใดที่ยังมีกิเลส ซึ่งยังไม่ได้ถูกดับ ก็ทำให้มีการกระทำกรรมดีบ้าง กรรมชั่วบ้าง และทำให้ได้รับผลของกรรมที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยให้เกิด กิเลส กรรม วิบาก วนเวียนไปเช่นนี้ ในทุกภพชาติ

* เช่น เมื่อมีความโลภ (กิเลส) ก็ทำให้เกิดการลักขโมย ประทุษร้ายผู้อื่น (กรรม) ซึ่งทำให้ต้องรับผลของกรรมนั้น (วิบาก) ต่อไป และเมื่อได้รับผลของกรรมที่ไม่ดี เช่น ต้องลำบากยากจน ก็ทำให้เกิดกิเลสอีก ไปเบียดเบียนผู้อื่นอีก และต้องได้รับผลของกรรมที่ไม่ดีอีก เป็นวงจรเรื่อยไป

โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม

ขออนุโมทนาครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ