ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๕๗
โดย khampan.a  24 เม.ย. 2565
หัวข้อหมายเลข 43039

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๕๗

~ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ ไม่มีบุคคลหนึ่งบุคคลใดเปรียบในพระปัญญาคุณ ในพระบริสุทธิคุณ ในพระมหากรุณาคุณ เพราะฉะนั้น ฟังคำของพระองค์ ก็จะทำให้จากความที่ไม่เคยรู้อะไรมาเลยกี่ชาติ ต่อจากนี้ก็จะไม่ใช่เป็นคนไม่รู้ เพราะได้เริ่มสะสมความเข้าใจในพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
~ ก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ไม่ได้ทรงมอบหมายให้ใครเป็นศาสดาเลย ทั้งๆ ที่ในยุคนั้นก็มีพระอริยบุคคลมากมาย ก็ไม่ได้ทรงมอบหมายให้ใครเลยทั้งสิ้น เพราะพระธรรม ตรัสไว้ดีแล้ว เปลี่ยนได้ไหม? เมื่อเปลี่ยนไม่ได้ ก็มีทางเดียว คือ เคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็โดยการฟังคำของพระองค์ ไม่เปลี่ยน
~ พระธรรมทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำไปสู่ความเข้าใจถูกต้องว่าไม่มีเรา สำคัญที่สุด “อนัตตา” ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร จะเป็นอย่างที่อยากเป็น ก็ไม่ได้ จะไม่เป็นอย่างที่กำลังเป็น ก็ไม่ได้ เพราะเหตุว่า เกิดแล้วเป็นแล้วทั้งหมด
~ การที่จะเป็นคนดี ถ้าไม่เริ่มตั้งแต่ในชาตินี้ ชาติต่อไปจะเป็นอย่างไร เพราะว่า ถ้ามีอกุศลมากๆ บ่อยๆ ก็เหมือนอย่างที่เรามองเห็นตัวอย่างของคนไม่ดีซึ่งก่อนจะถึงวันนั้นเขาก็จะต้องมีความไม่ดีเล็กๆ น้อยๆ ไม่มากมาย แต่เขาก็ไม่เห็นโทษ
~ ควรเจริญกุศลทุกทางทุกโอกาส เพราะเมื่อเป็นโอกาสของกุศลแล้วไม่ทำกุศล โอกาสของกุศลก็หมดไป โอกาสทำกุศลเป็นโอกาสที่หายากในชีวิต ในวันหนึ่งๆ ลองพิจารณาว่าอกุศลมากหรือกุศลมาก เมื่อมีโอกาสที่จะเจริญกุศลทางใด ก็ไม่ควรให้โอกาสนั้นผ่านไป เพราะเมื่อกุศลไม่เกิด อกุศลก็เกิด
~ อกุศลธรรมก็เป็นสภาพธรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ควรที่จะเห็นอกุศลของตนเองตามความเป็นจริงว่า เป็นสิ่งซึ่งมีเหตุปัจจัยที่จะเกิด ก็เกิดปรากฏ และเมื่ออบรมธรรมที่เป็นกุศลมากขึ้น ธรรมที่เป็นกุศลนั่นแหละ จะขัดเกลาบรรเทาธรรมที่เป็นอกุศลให้น้อยลงได้
~ การพูดความจริงให้เข้าใจความถูกต้อง เป็นประโยชน์ และเป็นเพื่อนเป็นผู้ที่หวังดีจริงๆ ที่จะให้พ้นจากความเห็นผิด ไม่ใช่เป็นการไปทำร้ายใครเลย แต่เป็นการให้พ้นจากการถูกทำลายด้วยความเห็นผิด
~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นประโยชน์โดยตลอด ทำให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ไม่มีแม้บทเดียว ที่จะไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นความจริงจากการทรงตรัสรู้ของพระองค์ เป็นเรื่องของการขัดเกลาทั้งนั้น จึงจะเป็นพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ต้องเป็นผู้ที่ตรง แม้แต่ในการศึกษาธรรม เพื่อขัดเกลา แล้วการที่จะขัดเกลาได้ก็ต่อเมื่อรู้ความจริง เพราะฉะนั้น ก็คือ รู้ว่าไม่มีใครสามารถที่จะเอาอกุศลที่สะสมมาในจิตของตัวเองออกทิ้งหมดไปได้เลย นอกจากปัญญาที่ค่อยๆ เกิดขึ้น
~ สภาพธรรมที่ไม่ดี นอกจากจะทำร้ายตน ก็ยังทำร้ายคนอื่นด้วย ใครไม่โกรธบ้าง? โกรธ หมดไปได้ไหม? บังคับไม่ได้ แต่ปัญญาเท่านั้นที่สามารถที่จะเห็นโทษ เมื่อไหร่ที่เห็นโทษ ก็ละด้วยความเห็นที่ถูกต้องว่าเป็นโทษ แต่ถ้าตราบใดยังไม่เห็นว่าเป็นโทษ ก็ไม่ละ
~ ความดี ไม่ใช่สิ่งที่ทำง่าย แต่เมื่อมีความเข้าใจถูกต้อง ปัญญาที่เข้าใจถูก ไม่เห็นว่าอย่างอื่นจะมีประโยชน์เท่ากับการสะสมคุณความดี เพื่อค่อยๆ ชำระล้างจิตให้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น ทุกอย่างที่เป็นบารมี (คุณความดีที่ทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ดีทั้งหมด
~ การกระทำที่ไม่ดีหรือทุจริตทั้งหมด ก็มาจากจิตที่เป็นอกุศล ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่มีทางที่จะขัดเกลาได้เลย เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ขัดเกลา ก็เป็นอย่างที่เห็น คือ กระทำผิดต่างๆ มากมาย
~ ถ้าเห็นกำลังของอกุศล ก็จะรู้ว่า ขณะใดที่กุศลไม่เกิด ขณะนั้นเป็นอกุศล ถ้าเป็นผู้เห็นประโยชน์ของกุศลจริงๆ แม้กุศลเพียงเล็กน้อย นิดหน่อย ในชีวิตประจำวัน กำลังเผชิญหน้า ทำทันที ไม่ต้องคอยเลย
~ รู้ว่า ธรรม ยาก ลึกซึ้ง ก็ฟังต่อไป พิจารณาต่อไป เพราะไม่มีใครจะไปทำให้ปัญญาความเข้าใจเกิดขึ้นมากกว่านี้ได้ นอกจากแต่ละครั้งที่ได้ฟังแล้ว เป็นผู้ตรง เข้าใจแค่ไหนก็ตามเหตุตามปัจจัย จึงฟังอีก เพราะถ้าไม่ฟังอีก ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจมากกว่านี้ได้
~ ขั้นฟังต้องมีความเข้าใจมั่นคงที่จะรู้ว่า ไม่มีเรา แต่มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นแต่ละหนึ่งๆ หลากหลาย ตามเหตุตามปัจจัย
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมทั้งหมดที่มีจริงๆ เพื่อให้ค่อยๆ เข้าใจถูกต้องแต่ละภพแต่ละชาติแต่ละคำแต่ละขณะที่ได้ฟัง ว่า ไม่มีเราและไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้น ขณะนั้นก็สงบจากความเห็นผิดว่าเป็นเรา
~ ธรรมทั้งหลายแสดงความเป็นอนัตตา โดยไม่มีใครรู้เลย อนัตตาทั้งหมด เลือกเห็นไม่ได้ เลือกคิดไม่ได้ เลือกจำไม่ได้ เลือกอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง เกิดแล้วตามเหตุตามปัจจัย ก่อนเกิดรู้ไหม มีปัจจัยที่ทำให้อะไรเกิด นั่นก็แสดงถึงความเป็นอนัตตา
~ คนที่มีความเข้าใจมั่นคงที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต ต้องศึกษาธรรม เพื่อละความไม่รู้และขัดเกลากิเลสโดยประพฤติตามพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติแล้ว เพื่อการละคลายกิเลส พระภิกษุรับเงินทองไม่ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นพระภิกษุรับเงินทอง จะเป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัยที่จะขัดเกลากิเลสหรือเปล่า? เพราะฉะนั้น บวชเป็นพระภิกษุ เพื่อขัดเกลากิเลสด้วยการศึกษาธรรมด้วยความเคารพที่จะต้องเข้าใจจริงๆ
~ ดีกับชั่วเข้ากันไม่ได้เลย ตรงกันข้าม แยกกัน ในขณะที่อกุศลเกิดขึ้นมาก จะดีไหวไหม?
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ เป็นประโยชน์ อารักขา (รักษา) ไม่ให้เข้าใจผิด ด้วยเหตุนี้ คำของพระองค์ใน ๔๕ พรรษา ทุกคำ เป็นคำที่จะต้องเข้าใจให้ถูกต้องจริงๆ
~ ความเข้าใจถูกนั่นแหละ ละความเข้าใจผิดซึ่ง (ความเข้าใจผิด) นำมาซึ่งโทษทุกประการ หลงเข้าใจว่าสิ่งที่ไม่ใช่บุญว่าเป็นบุญ นั่น ก็เป็นโทษแล้ว
~ เข้าใจมั่นคงหรือยังว่า คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีสำนักปฏิบัติ เพราะฉะนั้น ถ้าเข้าใจธรรมจริงๆ ไม่มีสำนักปฏิบัติแน่นอน เพราะมีธรรมเดี๋ยวนี้ เข้าใจธรรมเดี๋ยวนี้ได้ รู้แจ้งธรรมเดี๋ยวนี้ได้ ที่ไหนก็ได้ เมื่อมีปัจจัยพร้อม คือ สามารถที่จะอบรมความเข้าใจที่จะรู้ความจริงว่าเป็นธรรมซึ่งไม่ใช่เรา
~ จะตายวันไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เกิดมาแล้ว ไม่พ้นความตาย วันนี้สนุกมาก หมดแล้วไม่เหลือเลย ทุกอย่างที่ผ่านมาไม่เหลือเลย แต่ว่าสะสมความดีและความชั่วสืบต่อไปในจิตทุกขณะ



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๕๖


...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย petsin.90  วันที่ 24 เม.ย. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย มังกรทอง  วันที่ 24 เม.ย. 2565

ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ


ความคิดเห็น 3    โดย Sea  วันที่ 24 เม.ย. 2565

ความเข้าใจถูกนั่นแหละ ละความเข้าใจผิดซึ่ง (ความเข้าใจผิด) นำมาซึ่งโทษทุกประการ หลงเข้าใจว่าสิ่งที่ไม่ใช่บุญว่าเป็นบุญ นั่น ก็เป็นโทษแล้ว


กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง กราบขอบพระคุณอาจารย์คำปั่นและขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย meenalovechoompoo  วันที่ 24 เม.ย. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 24 เม.ย. 2565

กราบอนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย Lai  วันที่ 24 เม.ย. 2565

อนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย tim7755tim  วันที่ 25 เม.ย. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า กราบอนุโมทนากุศลค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย Kalaya  วันที่ 25 เม.ย. 2565

กราบพระธรรม สูงสุดค่ะ ที่ท่านอาจารย์สุจินต์ได้ถ่ายทอด และกราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย jaturong  วันที่ 25 เม.ย. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย เมตตา  วันที่ 25 เม.ย. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต๋อยด้วยความเคารพอย่างยิ่ง และยินดีในความดีของ อ.คำปั่นด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย ปาริชาตะ  วันที่ 25 เม.ย. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย มังกรทอง  วันที่ 1 ก.ย. 2568

สนทนาธรรมเกิดขึ้น กุศลมี ฟังธรรมะในดิถี ถูกต้อง อาจารย์สุจินต์ศรี เป็นหลัก จิตเจตสิกรูปสอดคล้อง มั่นแฟ้นคำจริ